นายเอกรัตน์ แจ้งอยู่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เธียรสุรัตน์ จำกัด(มหาชน) หรือ TSR เปิดเผยว่าภาพรวมผลการดำเนินงานในงวดไตรมาส1/2563 สิ้นสุด วันที่ 31 มีนาคม 2563 กลุ่มบริษัทมีกำไรสุทธิเท่ากับ 24.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 4.03 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 19.40% จากในไตรมาสที่ 1/2562 ที่มีกำไรสุทธิ 20.76 ล้านบาท
ขณะที่รายได้รวมเท่ากับ 441.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันปีก่อน 55.66 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น14.42% ซึ่งประกอบด้วยรายได้จากการขายสินค้า 391.40 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50.13 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น14.69% รวมกับดอกผลตามสัญญาเช่าซื้อ 49.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.37 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 12.05 %
ปัจจัยสนับสนุนให้กำไรเพิ่มขึ้นเนื่องจากการเพิ่มจำนวนทีมของฝ่ายขายตรง และการนำข้อมูลจากระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (GIS) และการประปาส่วนภูมิภาคมาใช้ในการบริหารพื้นที่การขายเครื่องกรองน้ำและติดตามทีมขายได้อย่างมีประสิทธิภาพจนทำให้จำนวนบัญชีเช่าซื้อเพิ่มขึ้น และรายได้ดอกผลก็เพิ่มขึ้นตาม แม้ว่าจะมีวิกฤติของโรคระบาด COVID-19 ก็ตาม
ขณะที่กลุ่มบริษัทมีหนี้สงสัยจะสูญและหนี้สูญ 44.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันปีก่อนจำนวน 10.61 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลกระทบจากมาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 9 ที่เริ่มใช้ในปีนี้ จนเป็นเหตุให้ต้องมีการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้นตามผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากลูกหนี้ตามสัญญาเช่าซื้อที่ค้างชำระแม้ว่าสัดส่วนของลูกหนี้ตามสัญญาเช่าซื้อที่ค้างชำระเกิน 3 เดือน (NPL) จะลดลงก็ตาม
"ภาพรวมในไตรมาส1/2563 บริษัทฯ ยังมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นได้แม้จะต้องเผชิญกับภาวะวิกฤติเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจากผลกระทบของไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เพราะได้เพิ่มทีมขาย และการนำเทคโนโลยี GIS มาใช้ควบคู่ไปกับกลยุทธ์แบบ Digital Marketing อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งการทำแผนโฆษณาประชาสัมพันธ์สำหรับการขายเครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องกรองน้ำโดยอาศัยจุดแข็งของโปรแกรม “ผ่อนสบาย” ประสานกับทีมเดินตลาดขายตรงที่กระจายอยู่ตามพื้นที่ต่าง ๆ ทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัดของประเทศไทย ส่งผลให้รายได้และกำไรเพิ่มขึ้น"
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าวอีกว่า บริษัทฯ ยังคงแผนการฝึกอบรมและพัฒนาพนักงานขาย พนักงานเก็บเงินภาคสนาม และช่างบริการเพื่อรองรับการให้บริการหลังการขายอย่างครบวงจร และยังคงมุ่งมั่นในทำการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องกรองน้ำอย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาคุณภาพสินค้าให้สามารถผลิตน้ำดื่มที่สะอาด ถูกสุขอนามัย พร้อมทั้งนำเอาเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้งานให้กับผู้บริโภค ขณะเดียวกันยังคงมุ่งมั่นในการดำเนินการตามแผนของการลดต้นทุน และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร ด้วยการปรับปรุงและพัฒนาระบบการผลิตและการบริหารจัดการด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ซึ่งมั่นใจว่าจะช่วยให้ภาพรวมรายได้ในปี 2563 สามารถเติบโตในระดับ 10% ตามเป้าหมายที่วางไว้ และสามารถฝ่าฟันกับวิกฤติเศรษฐกิจจากผลกระทบโรคไวรัสโควิด-19 ในครั้งนี้ได้แน่นอน