“ไทยชนะ” เน้นใช้งานสะดวก ปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล

พุธ ๒๐ พฤษภาคม ๒๐๒๐ ๑๖:๔๙
ศบค. เผยไอเดียการออกแบบแพลตฟอร์ม “ไทยชนะ” เน้นให้ประชาชน/ร้านค้าเข้ามาใช้งานสะดวก ควบคู่ปฏิบัติตามมาตรการผ่อนปรนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้ความมั่นใจไม่มีการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลแน่นอน เพราะวัตถุประสงค์ในการใช้งานมีเพียงหนึ่งเดียวคือ “การควบคุมโรคโควิด-19”

ผศ.(พิเศษ) นพ.พลวรรธน์ วิทูรกลชิต ผู้ตรวจราชการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ในฐานะเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการด้านสื่อสารโทรคมนาคม และสื่อสังคมออนไลน์ ร่วมแถลงข่าวของศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 (ศบค.) กล่าวว่า แนวคิดหลักของ ศบค. ในการพัฒนาแพลตฟอร์ม “ไทยชนะ” เน้นให้กลุ่มผู้ใช้งานเป้าหมายทั้งที่เป็นร้านค้า และประชาชนผู้ใช้บริการ เข้ามาใช้งานได้ง่ายภายในไม่กี่ขั้นตอน เพื่อให้สามารถปฏิบัติตามมาตรการผ่อนปรนได้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19

ขั้นตอนการเข้ามาใช้งาน ในส่วนของร้านค้าหรือสถานประกอบการตามกิจการ/กิจกรรม ภายใต้มาตรการผ่อนปรน มีขั้นตอนดังนี้ 1.เข้ามาที่เว็บไซต์ www.ไทยชนะ.com เพื่อลงทะเบียนร่วมมาตรการ social distancing 2.กรอกข้อมูลเกี่ยวกับกิจการ และข้อมูลผู้ติดต่อ พร้อมระบุตำแหน่งที่ตั้งของกิจการเพื่อระบบจะปักหมุดให้ในแผนที่กูเกิลแมป 3.ทำแบบประเมินสถานประกอบการ ซึ่งจัดแบ่งไว้ตามประเภท/หมวดกิจการที่ประกาศไว้ตามมาตรการผ่อนปรน (เมื่อกรอกข้อมูลครบถ้วนและถูกต้อง จะได้รับรหัส OTP ทางเอสเอ็มเอสผ่านเบอร์โทรศัพท์ที่กรอกข้อมูลไว้ 4.กรอก OTP เพื่อยืนยันรายการ และ 5.เมื่อลงทะเบียนสำเร็จ สามารถดาวน์โหลดภาพใบรับรองการประเมินตามมาตรการ พร้อม QR Code เป็นไฟล์รูปภาพ (jpg) เพื่อนำมาติดไว้ให้ลูกค้าที่เข้าไปใช้บริการ check-in/checkout

สำหรับประชาชน มีขั้นตอนการเช็คอินเพื่อเข้าไปใช้บริการ ดังนี้ 1.ใช้มือถือสแกน QR Code และกด Link ที่แสดงด้านบนเพื่อเข้าสู่หน้าเช็คอิน 2.กดที่เมนูเช็คอินร้าน 3.รับข้อตกลงและความยินยอม 4.ระบุหมายเลขโทรศัพท์ และ 5.หน้าจอจะแสดงคำว่า “เช็คอินแล้ว” ทั้งนี้ในขั้นตอน 3 และ 4 จะให้กรอกเฉพาะการเช็คอินในระบบของไทยชนะครั้งแรกเท่านั้น

และเมื่อใช้บริการเสร็จ มีขั้นตอนการเช็คเอาท์ออกจากร้าน ดังนี้ 1.สแกน QR Code และกด Link ที่แสดงด้านบนเพื่อเข้าสู่หน้าเช็คเอาท์ 2.กดที่เมนูเช็คเอาท์/ประเมินผล 3.ระบุเบอร์โทรศัพท์ (เฉพาะครั้งแรกที่มีการเช็คเอาท์จากระบบของไทยชนะ) 4.หน้าจอจะแสดงคำว่า “เช็คเอาท์แล้ว” และ 5. ทำแบบประเมินหลังใช้บริการ โดยในข้อนี้ไม่บังคับ แต่เป็นข้อมูลที่ผู้ใช้บริการจะช่วยให้คะแนนร้านค้า เกี่ยวกับการปฏิบัติตามมาตรการ 5 ข้อของกรมควบคุมโรค เพื่อประโยชน์ในการปรับปรุงบริการของร้านค้านั้นๆ ต่อไป

นพ. พลวรรธน์ กล่าวย้ำว่า ประชาชนและร้านค้า ไม่ต้องกังวลเรื่องข้อมูลส่วนบุคคลในการเข้าลงทะเบียนใช้งานแพลตฟอร์มไทยชนะ เนื่องจาก ศบค. พิจารณามอบหมายให้ กรมควบคุมโรคเป็น ผู้ควบคุมข้อมูล (Data Controller) และมอบหมายให้ธนาคารกรุงไทย เป็นผู้ประมวลผลข้อมูลภายใต้การควบคุม ดังนั้น ผู้ประมวลผลก็ไม่สามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ในเรื่องอื่นๆ นอกเหนือจากวัตถุประสงค์การควบคุมโรคโควิด-19 จึงไม่ต้องกังวลว่าจะมีการส่งต่อข้อมูลไปให้หน่วยงานอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง

“ส่วนกรอบเวลาจัดเก็บข้อมูล 60 วันนั้น เป็นการกำหนดตามข้อเสนอของกรมควบคุมโรคและแพทย์ เพื่อให้ทำการตรวจได้อย่างรอบคอบ เนื่องจากสาเหตุหนึ่งของการระบาด มาจากการติดเชื้อเพราะสัมผัสบุคคลใกล้ชิดที่เป็นโรคนี้ บางครั้งการติดไม่ได้เกิดขึ้นตั้งแต่การสัมผัสครั้งแรก ที่ผ่านมาพบว่าบางรายติดเชื้อในครั้งที่ 3 โดยการฟักตัวของเชื้อโควิด-19 ใช้เวลาเฉลี่ย 14 วัน/รอบการสัมผัส จึงมองว่าควรเก็บข้อมูลไว้ทั้ง 3 รอบ และล่วงหน้าอีก 1 รอบ รวมระยะเวลา 56 วัน เพื่อให้มีฐานข้อมูลใหญ่พอที่จะสืบสวนโคย้อนหลังได้ 3 สัปดาห์ และสืบไปได้เพิ่มอีก 1 สัปดาห์” นพ.พลวรรธน์กล่าว

นอกจากนี้แพลตฟอร์ม “ไทยชนะ” ยังเป็นประโยชน์ทั้งกับประชาชนผู้ใช้บริการ ทำให้สามารถได้รับการแจ้งเตือนหากพบความเสี่ยงในการติดเชื้อ, ประชาชนสามารถนำข้อมูลไปเป็นหลักฐานเพื่อประกอบการรับการตรวจคัดกรองทางห้องปฏิบัติการฟรี และสามารถตรวจสอบความเสี่ยงของสถานที่ให้บริการ โดยดูจากข้อมูลความหนาแน่นในช่วงเวลาที่ต้องการเข้าไปใช้บริการ รวมถึงคะแนนการประเมินจากผู้เข้าใช้บริการรายอื่นๆ ที่ทำการเช็คเอาท์แล้วนมา

ขณะที่ ทางด้านร้านค้า/สถานปฏิบัติการที่ปฏิบัติตามมาตรการ ก็จะได้รับการรับรอง สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้บริการ และนำผลการประเมินมาปรับปรุงการให้บริการให้เป็นไปตามมาตรการที่กำหนด

ปัจจุบัน ช่องทางการสื่อสารของไทยชนะ ประกอบด้วย เว็บไซต์ www.ไทยชนะ.com ไลน์ทางการ “ไทยชนะ” และโทรสายด่วน 1119 ซึ่งมีไว้สำหรับการติดตามข่าวสารที่ถูกต้อง เที่ยงตรงเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 จากรัฐบาล

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๕ เม.ย. Electronic Nose นวัตกรรมตรวจวัดกลิ่น! เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดี กรมอนามัย ร่วม MOU กรมควบคุมมลพิษ และ 4 หน่วยงานรัฐ - เอกชน
๒๕ เม.ย. ITEL ประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 68 ไฟเขียวอนุมัติแจกวอร์แรนต์ฟรี ลุยขยายธุรกิจ
๒๕ เม.ย. สวทช. โดย นาโนเทค เฟ้นหา 8 ผู้ประกอบการ ต่อยอดนวัตกรรมสมุนไพรสู่ผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง
๒๕ เม.ย. คาเฟ่ แคนทารี ชวนมาลิ้มลองเมนูพิเศษประจำเดือนพฤษภาคม - มิถุนายน 2568 อร่อยครบเครื่องทั้งรีซอตโตต้มยำ เครป
๒๕ เม.ย. ซีพี ออลล์ x มูลนิธิชาวปักษ์ใต้ ร่วมสนับสนุนทุนการศึกษาเพื่ออาชีพแก่เยาวชนในจังหวัดภาคใต้
๒๕ เม.ย. ซีพีแรม ดีเดย์ เปิดเวที FINNOVA 2025 : ยกระดับความรู้สู่นวัตกรรมอาหาร ปักหมุดไทยศูนย์กลางนวัตกรรมอาหารโลก
๒๕ เม.ย. ดีไซน์เพื่อชีวิตที่ไม่หยุดนิ่ง: อาดิดาส ออริจินอลส์ เผยโฉม ADIZERO ARUKU พร้อมพื้นรองเท้าแบบโปรเกรสซีฟ
๒๕ เม.ย. พรีโม จับมือ Q-CHANG จัดทัพทีมช่างกว่า 2,000 ทีม! ยกระดับบริการซ่อมห้องชุด ตอกย้ำแนวคิด Primo Happy Maker
๒๕ เม.ย. ครั้งแรก กับ Dance (แดนซ์) Glossy Body Hair Perfume Mist น้ำหอม 2-in-1 พร้อมเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ เก๋ไก๋ บุกใจกลางกรุง ชวนสาวๆ
๒๕ เม.ย. SCB CIO ชี้ 3 ปัจจัยกระทบตลาดการเงินฉุดสินทรัพย์ทั่วโลกผันผวน แนะระวังการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง เพิ่มน้ำหนักหุ้นกู้ระยะสั้นคุณภาพดี และ