เมกะเทรนด์หลังโควิด-19 ธุรกิจไบโอเทคโนโลยียืนหนึ่ง หุ้นการแพทย์-นวัตกรรมไอที ในตลาดอเมริกาน่าจับตามอง

จันทร์ ๒๕ พฤษภาคม ๒๐๒๐ ๑๐:๑๔
สองนักลงทุนส่องหุ้นตลาดอเมริกา ประเมินโควิด-19 ทำให้อุตสาหกรรมไบโอเทคโนโลยี – การแพทย์ อนาคตดีมีโอกาสเติบโตอย่างมีนัยยะ หลังวัคซีนฆ่าเชื้อไวรัส-19 เฟสแรกคืบหน้า ผสานแรงหนุนเมกะเทรนด์หลังโควิด New Normal ยุคดิจิทัล ทำให้ธุรกิจนวัตกรรมไอทีเป็นที่จับตา

นายณพวีร์ พุกกะมาน นักลงทุน ผู้ก่อตั้ง Creative Investment Space (CIS) สถาบันให้ความรู้ด้านนวัตกรรมการลงทุนรูปแบบใหม่ เปิดเผยว่า นับเป็นข่าวดีของทั่วโลกเมื่อบริษัทไบโอเทคโนโลยี หรือผู้พัฒนานวัตกรรมทางด้านชีวภาพของสหรัฐ Moderna (โมเดอร์นา) และพันธมิตร สถาบันสุขภาพแห่งชาติ เผยความคืบหน้าการทดลองวัคซีนสร้างสารภูมิต้านทาน หรือแอนติบอดี ฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19 ในระยะแรก พบว่า แอนติบอดีตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันสามารถต่อต้านไวรัสได้อย่างแท้จริง เป็นก้าวแรกที่สำคัญ ซึ่งนำไปสู่การผลิตวัคซีนได้ในอนาคต ปัจจัยบวกนี้ สะท้อนถึงความน่าสนใจของอุตสาหกรรมไบโอเทคโนโลยี ที่คาดหมายว่าจะมีโอกาสเติบโตอย่างมีนัยยะสำคัญ เพราะหลังจากนี้ ทั่วโลกจะตระหนักถึงความเสี่ยงทางด้านสุขภาพมากยิ่งขึ้น

สำหรับหุ้นกลุ่มไบโอเทคโนโลยีรายตัวในตลาด NASDAQ ที่น่าลงทุน ต้องยกให้ Moderna จากความคืบหน้าการทดลองวัคซีนไวรัสโควิด-19 เฟสแรก และคาดว่าบริษัทจะได้รับเงินทุนมูลค่า 483 ล้านดอลลาร์จากรัฐบาลสหรัฐฯ ในการเร่งผลิตวัคซีน โดยการทดสอบวัคซีนในเฟสที่สองน่าจะเกิดขึ้นภายในไตรมาสสามปีนี้ และการทดลองขั้นสุดท้ายเฟสที่สามจะอยู่ในช่วงปลายปีนี้ ส่วนราคาหุ้นล่าสุดปรับตัวขึ้นมาแล้วกว่า 250% ตั้งแต่ต้นปี

นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มการแพทย์ มีโอกาสเติบโตตามกระแสมาตรฐานใหม่ (New Normal) ยุคดิจิทัลเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะโรงพยาบาลที่สามารถพัฒนาการบริการแบบ Digital Healthcare หรือให้บริการทางการแพทย์ผ่านทางออนไลน์ ซึ่งในเวลานี้ได้เห็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่หลายแห่ง ทั้งในไทยและต่างประเทศเริ่มให้บริการนี้แล้ว อีกทั้งยังจะได้ประโยชน์จากเมกะเทรนด์ของโลกอย่างสังคมผู้สูงอายุ และแนวคิดการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันที่เกิดขึ้นทั่วโลกอีกด้วย

“อนาคตอุตสาหกรรมการแพทย์ ที่สามารถพัฒนาบริการให้เข้ากับยุคดิจิทัลได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงกลุ่มไบโอเทคโนโลยี จะมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่ง เพราะแม้ว่าไวรัสโควิด-19 จะรักษาหายได้ ก็อาจมีโรคร้ายอื่นๆ เกิดขึ้นได้อีก ทำให้เชื่อว่าการพัฒนาทางการแพทย์และชีวภาพของมนุษย์จะไม่หยุดอยู่กับที่แน่นอน จึงเป็นโอกาสที่ดีที่จะลงทุนในหุ้นกลุ่มนี้”

หุ้นที่น่าสนใจลำดับถัดมา คือ Inovio Pharmaceuticals (อิโนวิโอ ฟามาเซติคอลส์) แม้ว่าจะเป็นบริษัทขนาดเล็ก ที่มีรายได้รวมเพียง 4 ล้านดอลลาร์ในปีก่อน แต่ปัจจุบันได้เริ่มทดลองวัคซีนเฟสแรกเรียบร้อยแล้ว และคาดว่าจะรายงานความคืบหน้าได้เร็วๆ นี้ จึงมีผลต่อราคาหุ้นที่มีโอกาสปรับขึ้นได้ โดยล่าสุดราคาหุ้นปรับตัวขึ้น 255% จากต้นปี และปรับตัวขึ้นจากจุดต่ำสุดในปีนี้กว่า 100%

นอกจากนี้ มองว่ายักษ์ใหญ่ Johnson & Johnson (จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน) เป็นหนึ่งในผู้ผลิตวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 มีโอกาสน่าลงทุนเช่นกัน ถึงแม้ว่าจะเริ่มเข้าสู่การผลิตในเฟสแรกในเดือนกันยายนปีนี้ ล่าช้ากว่า Moderna และ Inovio แต่บริษัทมีความได้เปรียบในแง่ของกำลังการผลิตยา โดยคาดว่าจะผลิตได้สูงถึง 900 ล้าน Dose ในปี 2564

ด้านนายปุณยวีร์ จันทรขจร นักลงทุน และวิทยากรด้านการลงทุนที่ลงทุนทั้งในไทยและต่างประเทศ ทั้งหุ้น ค่าเงิน และสินค้าทางการเงินมากมาย กล่าวว่า ในจังหวะที่ตลาดหุ้นทั่วโลกเต็มไปด้วยความกังวล และตลาดหุ้นดาวโจนส์ร่วงลงเกือบ 40% ภายในระยะเวลาหนึ่งเดือน กลับมีหุ้นบางตัวในตลาด NASDAQ ที่กำลังทำจุดสูงสุดใหม่ ซึ่งหนึ่งในนั้นอาจจะเป็น The Next Big Things ในปี 2563 ในเรื่องของนวัตกรรมเทคโนโลยี เช่น หุ้น NVDA หรือ NVIDIA Corporation (อินวิเดีย คอร์ปอเรชัน) บริษัทเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ผู้ผลิตการ์ดจอ หรือ GPU โดยบริษัทเติบโตไปพร้อมกับอุตสาหกรรมเกมทั่วโลกและได้รับความสนใจอีกครั้งในช่วงปี 2560

ทั้งนี้ ราคาหุ้น NVDA พุ่งขึ้นกว่า 150% ภายในระยะเวลาแค่ปีครึ่ง พร้อมกับราคาบิทคอยน์ ที่ดีดตัวขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์ แม้ราคาปัจจุบันที่ 330 ดอลลาร์ เทียบสัดส่วนราคาต่อกำไร (PE Ratio) ที่ 75 เท่า อาจจะดูแพงในระดับหนึ่ง แต่หากพิจารณาปัจจัยพื้นฐานบริษัทมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ล่าสุดปี 2562 มีกระแสเงินสดในมือเฉลี่ยปีละ 4,500 ล้านดอลลาร์ เท่ากับปริมาณหนี้สินทั้งหมด จึงมีความสามารถในการชำระหนี้ด้วยเงินสดภายในหนึ่งปี ถือว่ามีภูมิคุ้มกันด้านการชำระหนี้ที่ดี และ NVIDIA ยังเป็นบริษัทใหญ่เป็นอันดับสองของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ มีมูลค่าตลาดราวๆ 2 แสนล้านดอลลาร์ และแผนงานในอนาคตจะมุ่งสู่การเป็นบริษัทที่เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของ Artificial Intelligent หรือ AI ที่จะเข้าไปอยู่ในทุกภาคส่วนของทุกอุตสาหกรรม ตั้งแต่ศิลปะ ดนตรี การขนส่ง การแพทย์ จนไปถึงอุตสาหกรรมอวกาศ ฯลฯ จึงนับว่า NVIDIA เป็นส่วนเชื่อมต่อสำคัญที่ทำให้อุตสาหกรรมในหลายๆ แขนงเติบโตขึ้นในอัตราเร่งอย่างมีนัยยะ

“ผมมองโอกาสการลงทุนไม่ได้จำกัดอยู่แต่หุ้นไทยเท่านั้น โอกาสการลงทุนมีอยู่ทั่วโลก ยิ่งในปัจจับันข้อจำกัดเรื่องการลงทุนระหว่างประเทศน้อยลง จึงเป็นโอกาสที่นักลงทุนจะแสวงหาผลตอบแทนการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนมากกว่า”

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ