นายสุวัชชัย พิทักษ์วงศาภรณ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท แอตลาส ออยล์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เปิดเผยว่า จากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ที่ได้แพร่กระจายไปทั่วโลก และหลายจังหวัดในประเทศไทย ทางบริษัทจึงได้เล็งเห็นถึงสถานการณ์สำคัญ ทำให้ได้เริ่มจัดโครงการ “พีที ตู้ปันสุข ปันน้ำใจ” เพื่อติดตั้งตู้แห่งการแบ่งปัน เพื่อเป็นศูนย์กลางในการส่งมอบสินค้าเพื่อการอุปโภค และบริโภคที่จำเป็น
โดยบริษัทได้เริ่มต้นโครงการ “พีที ตู้ปันสุข ปันน้ำใจ” ที่สถานีบริการ LPG 10 สาขา โดยจะแบ่งเป็นสาขาละ 1 ตู้ ทำให้ในช่วงแรกจะมี“พีที ตู้ปันสุข ปันน้ำใจ” จำนวนทั้งสิ้น 10 ตู้ และบริษัทยังวางแผนที่จะขยายโครงการดังกล่าวไปตามสถานีบริการ LPG ในเขตกรุงเทพและปริมณฑลทั้งหมดรวม 40 สถานี และมีระยะเวลาโครงการตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม ถึง 25 มิถุนายน 2563
อีกทั้งการจัดโครงการ “พีที ตู้ปันสุข ปันน้ำใจ” ครั้งนี้ยังได้รับความร่วมมือจาก “บริษัท เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด” หรือ “เทสโก้ โลตัส” และคู่ค้าที่เป็นผู้ผลิตสินค้าและวัตถุดิบ(Supplier) ของ MAX Mart ซึ่งเป็นร้านสะดวกซื้อให้สถานีบริการ LPG เป็นผู้ร่วมสนับสนุนสินค้าเพื่อการอุปโภค และบริโภคเติมตู้ปันสุข เพื่อส่งมอบให้ผู้ที่เดือนร้อนจากสถานการณ์ดังกล่าว
พร้อมกันนี้บริษัทยังหวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการที่จัดทำขึ้นจะสามารถช่วยเหลือสังคม ประชาชนคนไทยที่ได้รับความเดือดร้อนที่อยู่บริเวณใกล้เคียงสถานีบริการ LPG ของ PT และถือโอกาสเชิญชวนผู้ที่มีกำลัง ร่วมกันแบ่งปันความสุข ปันน้ำใจกับ ตู้ปันสุข ปันน้ำใจของพีทเพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือ และขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจสำคัญ ส่งต่อความห่วงใยไปยังประชาชนคนไทยทุกคน ให้เราร่วมกันผ่านสถานการณ์นี้ไปด้วยกัน
“เราเดินหน้าสานต่อโครงการช่วยเหลือสังคมอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา บริษัท พีทีจี เอนเนอยี จำกัด (มหาชน) ได้เล็งเห็นปัญหาความไม่มั่นใจในการเดินทางของประชาชนทั่วไปในการโดยสารรถสาธารณะส่วนบุคคล หรือ รถแท๊กซี่ ทำให้ขาดรายได้ ทำให้ได้ริเริ่มให้บริการพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยไม่มีค่าใช้จ่ายสำหรับรถแท็กซี่ รวมถึงรถยนต์ของประชาชนที่สนใจ ที่สถานีบริการแอลพีจีของพีที ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมทั้งสิ้น 37 สถานี เพื่อลดความเสี่ยงและลดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส และโครงการพีทีเลี้ยงพี่แท๊กซี่มื้อนี้อิ่มฟรี ที่เป็นการแจกอาหารกล่องเพื่อลดค่าครองชีพกับผู้ที่มีรายได้น้อย ตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน ที่ผ่านมา และถึงแม้ว่าปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 มีสัญญาณที่ดีขึ้น และแนวโน้มสถิติของผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจและสังคมยังคงมีต่อเนื่องเป็นวงกว้าง ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าวมีจำนวนมาก ทั้งผู้ที่อยู่ในภาวะตกงาน ขาดรายได้ ได้รับความเดือนร้อนและยากลำบากในการดำรงชีวิต ทำให้บริษัทไม่หยุดที่จะทำโครงการช่วยเหลือสังคม เพื่อให้พวกเราผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้ด้วยกัน”นายสุวัชชัย กล่าว