'มิชลิน’ ตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายใน 30 ปี

อังคาร ๒๖ พฤษภาคม ๒๐๒๐ ๑๔:๕๔
เป้าหมายของมิชลินได้รับการอนุมัติโดย Science Based Targets Initiative (SBTi)* ซึ่งเป็นองค์กรอิสระระหว่างประเทศชั้นนำที่ส่งเสริมให้บริษัทที่เข้าร่วมโครงการขององค์กรกำหนดเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกการได้รับอนุมัติเป้าหมายครั้งนี้ถือเป็นก้าวแรกสู่การบรรลุปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero Emission) ประเภทที่ 1 และประเภทที่ 2 ในทุกเขตพื้นที่ดำเนินงานของมิชลินภายในปี 2593ความสำเร็จครั้งนี้เป็นการตอกย้ำวิสัยทัศน์และกลยุทธ์ด้านสิ่งแวดล้อมของมิชลิน

เป้าหมายในการลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ของมิชลินได้รับการเห็นชอบโดย SBTi องค์กรความร่วมมืออิสระชั้นนำที่มีความเชี่ยวชาญในด้านนี้โดยเฉพาะ ด้วยเล็งเห็นว่าความสำเร็จของข้อตกลงว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกครั้งที่ 21 หรือ COP21 ที่กรุงปารีส (COP21 Paris Climate Agreement) ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความมุ่งมั่นของประเทศที่เข้าร่วมเป็นสมาชิกเพียงอย่างเดียว แต่ยังขึ้นอยู่กับการมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคมและภาคเอกชนในการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกด้วย กลุ่มมิชลินจึงได้ทำเรื่องยื่นขออนุมัติเป้าหมายในการลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์จาก SBTi ด้วยความสมัครใจ

ทั้งนี้ มิชลินมุ่งมั่นที่จะลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกประเภทที่ 1 และประเภทที่ 2 ลงให้ได้ร้อยละ 38 ภายในปี 2573 เมื่อเทียบกับปี 2553 เป็นปีฐาน (Base Year)?? ทั้งยังตั้งเป้าที่จะลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกประเภทที่ 3 จากกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับเชื้อเพลิงและพลังงาน การขนส่งและการจัดจำหน่ายทั้งระดับต้นน้ำและปลายน้ำ ตลอดจนการจัดการซากผลิตภัณฑ์เมื่อหมดอายุใช้งาน ลงให้ได้ร้อยละ 15 ภายในปี 2573 เมื่อเทียบกับปี 2561 เป็นปีฐาน นอกจากนี้ มิชลินยังมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนให้ร้อยละ 70 ของซัพพลายเออร์ทั้งหมดกำหนดเป้าหมายบนพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ว่าด้วยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการที่จัดซื้อภายในปี 2567

การปล่อยก๊าซเรือนกระจกประเภทที่ 1 หมายถึงการปล่อยจากแหล่งที่องค์กรเป็นเจ้าของหรือควบคุมได้ ขณะที่ประเภทที่ 2 เกิดจากกระบวนการผลิตพลังงานที่องค์กรเป็นผู้จัดซื้อและนำไปใช้ ส่วนประเภทที่ 3 เกิดจากธุรกิจขององค์กรแต่ปล่อยจากแหล่งที่องค์กรไม่ได้เป็นเจ้าของหรือควบคุม

การได้รับอนุมัติจาก SBTi ถือเป็นก้าวแรกที่จะนำไปสู่การปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ (Carbon Neutrality) โดยมิชลินตั้งเป้าที่จะปล่อยก๊าซเรือนกระจกประเภทที่ 1 และประเภทที่ 2 สุทธิเป็นศูนย์ในทุกเขตพื้นที่ดำเนินงานภายในปี 2593

ระเบียบวิธีดำเนินการของ SBTi เปิดโอกาสให้มิชลินได้เสริมสร้างพันธสัญญาที่มีต่อซัพพลายเออร์ ด้วยการส่งเสริมให้ซัพพลายเออร์เหล่านี้มีบทบาทความรับผิดชอบต่อสังคมมากขึ้นผ่านปฏิบัติการที่มุ่งลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ในกระบวนการผลิตวัตถุดิบ โดยมีการกำหนดเป้าหมายไว้อย่างชัดเจน

ฟลอรองต์ เมอเนโกซ์ (Florent Menegaux) ประธานกรรมการบริหารกลุ่มมิชลิน เปิดเผยว่า “การที่เป้าหมายในการลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ของมิชลินผ่านการอนุมัติจาก SBTi เป็นอีกบทพิสูจน์ถึงความเหมาะสมของกลยุทธ์ด้านสิ่งแวดล้อมของเรา กลุ่มมิชลินมีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์และวิสัยทัศน์ระยะยาวขององค์กรในการแก้ปัญหาภาวะโลกร้อน ผมเชื่อมั่นว่าวิกฤติที่ดำเนินอยู่เปิดโอกาสให้ทุกธุรกิจของเราได้พัฒนากิจกรรมการดำเนินงาน ตลอดจนผลิตภัณฑ์และโครงการริเริ่มที่มุ่งปกป้องสิ่งแวดล้อม ให้ดียิ่งขึ้น”

เกี่ยวกับพันธมิตรของ SBTi

UN Global Compact (UNGC) คือโครงการริเริ่มเชิงนโยบายกลยุทธ์ของสหประชาชาติที่มุ่งกระตุ้นให้องค์กรธุรกิจต่างๆ ดำเนินกิจการและกลยุทธ์ตามหลักการซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ทั้งด้านสิทธิมนุษยชน, แรงงาน, สิ่งแวดล้อม และการต่อต้านการทุจริต ตลอดจนดำเนินมาตรการที่เป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและสังคม อนึ่ง มิชลินเป็นหนึ่งในสมาชิกของ UNGCCDP ทำหน้าที่บริหารจัดการระบบรายงานด้านสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวกับความเสี่ยงและโอกาสอันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การทำลายป่าและการมีน้ำใช้ ในฐานะตัวแทนของนักลงทุนสถาบัน วิสาหกิจเอกชน และเมืองใหญ่ต่างๆWorld Resources Institute (WRI) หรือ “สถาบันทรัพยากรโลก” เป็นองค์กรวิจัยระดับนานาชาติที่มุ่งวิเคราะห์ประเด็นปัญหาซึ่งเกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาที่สำคัญ 7 ประการ ได้แก่ สภาพภูมิอากาศ พลังงาน อาหาร ป่าไม้ น้ำ เมืองใหญ่ และมหาสมุทรWorld Wildlife Fund (WWF) หรือ “องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล” เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรระดับนานาชาติที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2504 โดยมุ่งเน้นเรื่องการพัฒนาอย่างยั่งยืนและการปกป้องผืนโลก อนึ่ง มิชลินเป็นพันธมิตรขององค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากลประจำประเทศฝรั่งเศส

เกี่ยวกับมิชลิน

มิชลิน ในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมยางรถยนต์ มุ่งมั่นส่งเสริมการสัญจรของลูกค้าอย่างยั่งยืน ออกแบบและจัดจำหน่ายยางที่เหมาะกับการใช้งานมากที่สุด ตลอดจนให้บริการและโซลูชั่นที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า ซึ่งครอบคลุมการให้บริการทางดิจิตอล การจัดทำคู่มือและแผนที่สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวเพื่อสัมผัสประสบการณ์ที่แตกต่างไม่เหมือนใคร รวมถึงการพัฒนาวัสดุทางเทคโนโลยีขั้นสูงสำหรับอุตสาหกรรมการสัญจร กลุ่มมิชลินมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองแกลร์มง-แฟร็อง ประเทศฝรั่งเศส และมีสำนักงานสาขาอยู่ใน 170 ประเทศ โดยมีพนักงาน 127,000 คนทั่วโลก และมีโรงงานผลิตยาง 69 แห่ง ซึ่งผลิตยางรวมกันได้สูงถึง 200 ล้านเส้นในปี 2562 คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.michelin.co.th

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ