นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ พร้อมด้วยตัวแทนสหกรณ์ชาวสวนผลไม้ภาคตะวันออก นำมังคุดจากคุณภาพจากสหกรณ์นิคมวังไทร จำกัด จังหวัดระยอง จำนวน 17 ตัน ส่งมอบให้กับพลเอก ชูชาติ บัวขาว รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้แทนส่วนราชการในกองบัญชาการกองทัพไทย (บก.ทท.) ที่กองบัญชาการกองทัพไทย เขตหลักสี่กรุงเทพมหานคร เนื่องจากทางกระทรวงกลาโหมได้มีนโยบายให้หน่วยงานที่ขึ้นตรงกับกระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพรับซื้อผลไม้เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่ภาคตะวันออก โดยเฉพาะในเดือนพฤษภาคมนี้ เป็นช่วงที่มีผลผลิตออกมาเป็นจำนวนมาก อาจส่งผลทำให้ ผลผลิตล้นตลาด ราคาตกต่ำ นอกจากนี้ เกษตรกรยังได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด – 19 ทำให้ตลาดต่างประเทศชะลอการสั่งซื้อ ขณะที่ตลาดในประเทศได้หยุดชะงักเนื่องจากไม่สามารถขนส่งสินค้าได้สะดวก เหมือนช่วงสถานการณ์ปกติ กระทรวงกลาโหมจึงได้ประสานมายังกรมส่งเสริมสหกรณ์เพื่อวางแผนช่วยเหลือเกษตรกรโดยการรับซื้อผลผลิตมังคุดที่มีคุณภาพจากสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร จำนวน 200.36 ตัน มูลค่า 4.71 ล้านบาท เพื่อกระจายไปยังหน่วยงานส่วนกลางและส่วนภูมิภาคของหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองทัพอากาศ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม หน่วยขึ้นตรงกองทัพบก และกองบัญชาการกองทัพไทย เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับกำลังพล และส่วนหนึ่งได้นำไปมอบให้ชาวบ้านในชุมชนที่อยู่โดยรอบได้บริโภคด้วย
ขณะนี้ ทางกระทรวงกลาโหมได้รับซื้อผลไม้ของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรในจังหวัดระยองและตราดแล้ว จำนวน 113.78 ตัน มูลค่ากว่า 2.67 ล้านบาท และได้กระจายไปยังหน่วยงานของกองทัพทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค 49 จังหวัดทั่วประเทศ แบ่งเป็นหน่วยงานในส่วนกลาง 52.94 ตัน มูลค่า 1.24 ล้านบาท ส่วนภูมิภาค 60.84 ตัน มูลค่า 1.43 ล้านบาท และยังมีปริมาณคงเหลือที่รอทยอยจัดส่งให้อีกจำนวน 86.61 ตัน
ทั้งนี้ รัฐบาลได้จัดสรรงบกลางปี 2563 วงเงิน 45 ล้านบาท สำหรับดำเนินโครงการกระจายผลไม้ของสหกรณ์และ กลุ่มเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด – 19 เป็นค่าดำเนินการและชดเชยค่าขนส่งให้กับสหกรณ์ต้นทางและปลายทาง ที่รวบรวมและกระจายมังคุดและลำไย รวมถึงให้สหกรณ์นำไปจัดซื้อตะกร้าสำหรับขนส่งผลไม้ด้วย สำหรับสถานการณ์การผลิตมังคุดของสหกรณ์ในภาคตะวันออก คาดว่าระหว่างวันที่ 15-30 พฤษภาคม นี้ จะมีปริมาณผลผลิตออกมาพร้อมกันจำนวนมาก ซึ่งข้อมูลการรวบรวมและกระจายมังคุดของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรที่เข้าร่วมโครการฯ ณ วันที่ 25 พฤษภาคม 2563 มีจำนวน 13 แห่ง รวบรวมผลผลิตไปแล้ว 148.932 ตัน มูลค่ากว่า 3.72 ล้านบาท และกระจายสู่สหกรณ์ปลายทาง 59 แห่งทั่วประเทศ นอกจากนี้ ทางกรมส่งเสริมสหกรณ์ยังได้จัดสรรเงินกู้จากกองทุนพัฒนาสหกรณ์ วงเงิน 190 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 1 % ขณะนี้มีสหกรณ์ขอกู้เงินดังกล่าวแล้ว 87 ล้านบาท สำหรับนำเป็นทุนหมุนเวียนรวบรวมผลผลิตจากสมาชิกตลอดช่วงฤดูกาลผลิตปีนี้ เพื่อให้การกระจายผลไม้สู่ตลาดเป็นไปอย่างรวดเร็ว ไม่เกิดการกระจุกตัว ซึ่งจะทำให้การจำหน่ายผลผลิตไปสู่ผู้บริโภคนั้น เกิดประสิทธิภาพ และสามารถกำหนดราคาซื้อขายที่เป็นธรรมกับทั้งตัวเกษตรกร และผู้บริโภคปลายทางด้วย