ศบค. เปิดให้ดาวน์โหลด “แอปไทยชนะ” ได้แล้ววันนี้

พฤหัส ๒๘ พฤษภาคม ๒๐๒๐ ๑๖:๕๙
ศบค. เปิดตัว “แอปไทยชนะ” มาพร้อมประโยชน์ 7 ข้อสำคัญสำหรับผู้ใช้งาน รองรับการเปิดเพิ่มกิจการ/กิจกรรมตามมาตรการผ่อนคลายระยะที่ 3 ย้ำผู้ใช้งานเข้าไปดาวน์โหลดผ่าน play store ได้ตั้งแต่วันนี้ (28 พ.ค.63) ส่วนผู้ใช้มือถือระบบ iOS รอดาวน์โหลดผ่าน app store ได้ภายในสิ้นเดือนนี้ เตือนไม่มีการเชิญชวนผ่านเอสเอ็มเอสใดๆ

ผศ.(พิเศษ) นพ.พลวรรธน์ วิทูรกลชิต ผู้ตรวจราชการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ในฐานะรองหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการด้านข้อมูลมาตรการแก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการด้านการสื่อสาร โทรคมนาคม และสื่อสังคมออนไลน์ ศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 (ศบค.) กล่าวว่า ศบค. ได้มีการเปิดให้ดาวน์โหลด “แอปไทยชนะ” แล้วตั้งแต่วันนี้ สำหรับผู้ใช้มือถือระบบแอนดรอยด์ เข้าไปดาวน์โหลดได้ผ่าน play store และเลือกดาวน์โหลดชื่อแอป Thaichana-ไทยชนะ ส่วนผู้ใช้มือถือระบบ iOS รอดาวน์โหลดได้ผ่าน app store คาดว่าจะไม่เกินวันที่ 31 พ.ค. นี้ โดยช่วงแรกจะรองรับภาษาไทยก่อน

ทั้งนี้ แอปไทยชนะ จะทำงานอยู่บนแพลตฟอร์มไทยชนะ www.ไทยชนะ.com โดยมีการประมวลความคิดเห็นจากผู้ใช้งานจำนวนกว่า 14 ล้านคน ตลอดช่วง 10 วันที่ผ่านมาหลังจากเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 17 พ.ค. 63 เพื่อตอบโจทย์ในเรื่องการใช้งานง่าย การใช้สะดวกเข้ากับชีวิตประจำวัน และสอดคล้องกับการเตรียมเปิดเพิ่มกิจการ/กิจกรรมตามมาตรการผ่อนคลายระยะที่ 3 ซึ่งจะได้ข้อสรุปในที่ประชุมวันศุกร์นี้ (29 พ.ค.63) ซึ่งจะครอบคลุมกิจกรรมกลุ่มมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อในระดับปานกลาง-สูง ดังนั้นจำเป็นต้องมีการพัฒนาแอปพลิเคชั่นเพื่อรองรับการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดการระบาดระลอกที่ 2 ในไทย โดยทุกกิจการ/กิจกรรมที่ได้รับอนุญาตให้เปิดตามมาตรการผ่อนคลายทุกระยะ ต้องมีการเข้ามาลงทะเบียนในแพลตฟอร์มไทยชนะ

“ดังนั้น ผู้ประกอบกิจการ/กิจกรรม และที่มีการใช้งานผ่านเว็บไทยชนะ ทั้งในส่วนของร้านค้าที่มีการลงทะเบียนอย่างถูกต้องแล้ว ไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติม ส่วนประชาชนผู้ใช้บริการก็ใช้คิวอาร์โค้ดเดิม เพียงแต่เราได้เติมเต็ม และเสริมสะดวก ง่ายของผู้ใช้งาน” นพ.พลวรรธน์กล่าว

แนวคิดในการพัฒนาแอปไทยชนะ คือ ใช้งาน สะดวก และปลอดภัยที่สุด โดยจะมีข้อดีสำหรับผู้ใช้งาน 7 ข้อ ได้แก่ 1. ลงทะเบียนง่ายด้วยเบอร์โทรศัพท์มือถือเพียงครั้งเดียว แล้วสามารถใช้บริการได้เลย 2. ลดความยุ่งยากในการใช้บริการ และปกป้องความเป็นส่วนตัวของประชาชน 3. สามารถเช็คเอาท์ หลังจากใช้บริการ (เมื่อไหร่ก็ได้) 4. ป้องกัน QR Code ปลอม 5.เป็นการเช็คความถูกต้องของกิจการ/ร้านค้า/สถานประกอบการณ์ว่าได้ทำตามมาตราการของ ศบค. จริงหรือไม่ 6. ป้องกันการกรอกเบอร์โทรศัพท์ผิด และ 7. ช่วยในการติดตามสอบสวนโรคกรณีที่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสถานที่ใดหรือร้านค้าที่ไปใช้บริการ

“ไม่ต้องกังวลว่าจะถูกติดตามรายละเอียดการเดินทางในชีวิตประจำวัน เพราะระบบนี้เราใช้ในการป้องกันและควบคุมโรค เราไม่ได้สนใจในแง่ตัวคน แต่สนใจ 1.การประเมินร้านค้า/กิจกรรมต่างๆ ว่าได้ปฏิบัติตามมาตรการ 5 ข้อของกรมควบคุมโรคหรือไม่ 2.ความหนาแน่น เพราะจะเป็นจุดเสี่ยงต่อการติดเชื้อและการแพร่ระบาด เพื่อจะได้มีการแจ้งเตือนได้ทันทีเมื่อพบความเสี่ยง” นพ.พลวรรธน์กล่าว

นพ.พลวรรธน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผู้ไม่สะดวกดาวน์โหลดแอปไทยชนะ ก็ยังสามารถลงทะเบียนและเข้าใช้งานผ่านแพลตฟอร์มไทยชนะได้เหมือนเดิม ซึ่งแอปพลิเคชั่นนี้ปัจจุบันนอกเหนือจากภาษาไทย ยังรองรับภาษาอังกฤษ และกำลังมีภาษาอื่นๆ เพิ่ม ได้แก่ เมียนมาร์ มาเลย์ เกาหลี จีน ญี่ปุ่น และลาว

ทั้งนี้ จากจำนวนยอดเช็คอินของผู้ใช้งานรวมกว่า 14 ล้านคนแล้ว โดยในส่วนของกรุงเทพ ชาว กทม. มากกกว่า 90% ใช้ไทยชนะแล้ว สะท้อนเสียงขานรับที่ดีจากทุกฝ่ายที่ร่วมมือกัน และมีตัวเลขที่น่าภูมิใจว่า มาตรการคุมเข้มของ ศบค. 5 ข้อตลอดช่วงที่ผ่านมาทุกประเภทกิจกรรม/กิจการมีผลประเมินจากผู้เข้าใช้บริการ โดยรวมพบว่าส่วนใหญ่ทุกคนทำตามมาตรการได้ทั้งหมด มีความเข้าใจทั้งหมด และเห็นว่ามีการปฏิบัติตามมาตรการครบทุกข้อ คิดเป็นร้อยละ 94.9 จากยอดผู้เข้าใช้งาน

“ในการร่วมแรงร่วมใจเพื่อป้องกันการเกิดระบาดระลอกที่ 2 การประเมินต่างๆ ต้องอาศัยประชาชน ช่วยกันควบคุมการระบาดของโรคให้ได้ เพื่อช่วยให้ประเทศเราดำเนินกิจกรรม/กิจการต่างๆ ต่อไปได้เหมือนเดิมแบบ new normal สมดุลวิถีชีวิตใหม่ ใส่ใจ ปลอดภัย ไทยชนะ” นพ.พลวรรธน์กล่าว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ