สมศ. ยก “DLTV” ตัวช่วยปั้นคุณภาพการศึกษา รร.ห่างไกล พร้อมแนะเทคนิค 3 ข้อ ปรับตัวในยุคนิวนอร์มอล

จันทร์ ๐๑ มิถุนายน ๒๐๒๐ ๑๔:๐๖
สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา หรือ สมศ. เปิดผลการประเมินคุณภาพภายนอกของสถานศึกษาในพื้นที่ห่างไกลหลายแห่งอยู่ในระดับดี ยกการเรียนผ่านระบบ DLTV สามารถยกระดับคุณภาพสถานศึกษา และผู้เรียนให้เทียบเท่าสถานศึกษาในเมือง เป็นการช่วยลดปัญหาขาดแคลนครูผู้สอนของโรงเรียนห่างไกลได้ด้วย นอกจากนี้ยังแนะนำสถานศึกษาทั่วประเทศให้ปรับรูปแบบการเรียนการสอนให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคม เพราะปัจจุบันมีหลายปัจจัยที่ทำให้บริบทสังคมเปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการเกิดโรคระบาด การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ดังนั้น สถานศึกษาจะต้องพร้อมสำหรับการเรียนรู้ในรูปแบบใหม่ เพื่อให้ทันต่อสถานการณ์ โดยครูต้องมีพื้นฐานการสอนให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงในยุค New Normal ทั้งหมด 3 ด้าน ได้แก่ 1.ด้านเทคโนโลยี ครูผู้สอนสามารถนำเทคโนโลยีจะสามารถหาความรู้ใหม่ ๆ มาเติมเต็มให้ผู้เรียนได้ตลอดเวลา 2.สามารถสร้างทุกที่ให้เป็นห้องเรียน และ 3.ปรับเปลี่ยนบทเรียนให้ทันต่อสถานการณ์ปัจจุบันเพื่อให้ผู้เรียนมีความพร้อมรับมือในสถานการณ์ต่างๆ

นางสาวขนิษฐา ตั้งวรสิทธิชัย รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา หรือ สมศ. กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ประเมินคุณภาพสถานศึกษาในพื้นที่ห่างไกลที่ผ่านมาพบว่า โดยส่วนใหญ่สถานศึกษาที่อยู่ห่างไกลมักจะประสบปัญหาการขาดแคลนครูผู้สอน และสื่อการเรียนการสอน แต่ทางสถานศึกษาได้มีการบูรณาการโดยการนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาปรับใช้ เพื่อให้การเรียนมีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยจากการส่งรายงานการประเมินตนเอง (SAR) พบว่า มีสถานศึกษาในพื้นที่ห่างไกลสมัครใจเพื่อขอเข้ารับการประเมินคุณภาพภายนอกมีจำนวนมากขึ้น และจากการลงพื้นที่ประเมินโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกลที่ผ่านมา พบว่า ผลการประเมินส่วนใหญ่อยู่ระดับดีหลายแห่ง ซึ่งปัจจัยหลักที่ส่งผลให้โรงเรียนได้รับผลการประเมินในระดับดีนั้น มีดังนี้ 1.การบูรณาการการสอนผ่าน DLTV กับการเรียนปกติเพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนครูประจำรายวิชา 2.ครูผู้สอนมีความใกล้ชิดกับผู้เรียน ทำให้ทราบถึงจุดอ่อนของผู้เรียน และสามารถเติมเต็มความรู้ได้อย่างเหมาะสม 3.สอนได้ตรงตามความต้องการของผู้เรียน โดยการเติมเต็มสิ่งที่ผู้เรียนสนใจ และสิ่งที่ผู้เรียนถนัดได้ 4.นำบริบทของชุมชนมาเชื่องโยงเข้ากับการเรียนสอน เป็นการกระตุ้นให้เด็กเกิดการเรียนรู้อย่างมีส่วนร่วม และ 5.นำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ผ่านกระบวนการสอนจากสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวซึ่งทำให้ผู้เรียนสามารถนำไปปรับใช้ได้

“อีกหนึ่งแนวทางที่ทำให้โรงเรียนในพื้นที่ห่างไกลประสบความสำเร็จในการเรียนการสอน คือการนำเอาระบบดีแอลทีวี (DLTV) จากมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมมาบูรณาการกับการเรียนการสอนในบางรายวิชา เพื่อแก้ไขปัญหาในด้านบุคลากรไม่เพียงพอ ถือว่าเป็นแนวทางที่มีประสิทธิภาพ เพราะจากการเข้าไปประเมินพบว่าแนวทางการใช้ DLTV ในการสอนนั้นส่งผลดีต่อตัวผู้เรียนทั้งด้านการเรียนรู้ และด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ผู้เรียนในโรงเรียนพื้นที่ห่างไกลมีระดับผลการเรียนดีเทียบเท่ากับโรงเรียนที่อยู่ในเมือง นอกจากนี้ตัวผู้เรียนยังเกิดความกระตือรือร้นในการตั้งคำถาม และสนใจในบทเรียนมากยิ่งขึ้น ผู้เรียนได้เรียนในบทเรียนที่เหมือนกับโรงเรียนในส่วนกลาง ดังนั้นรูปแบบการสอนในลักษณะการนำเอา DLTV มาบูรณาการร่วมด้วยจึงถือว่าเป็นการลดความไม่เท่าเทียมในระบบการศึกษาแก่โรงเรียนในพื้นที่ห่างไกล”

นางสาวขนิษฐา กล่าวต่อว่า แนวทางดังกล่าวยังมีความสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ ที่ให้สถานศึกษาในพื้นที่ห่างไกลนำระบบออนไลน์ไปใช้แก้ปัญหาการขาดแคลนบุคลากร ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการขยายระบบดังกล่าวไปยังโรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลหลายแห่งเพื่อแก้ไขปัญหา แต่การเรียนผ่านระบบ DLTV จะมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นทางโรงเรียนจะต้องจัดครูผู้สอนเข้าไปดูแลผู้เรียนในระหว่างชั่วโมงเรียนร่วมด้วย นอกจากนี้ จากการลงพื้นที่ประเมินสถานศึกษาทั่วประเทศสมศ. ยังเห็นว่าการเรียนการสอนไม่จำเป็นจะต้องยึดแนวทางปฏิบัติในลักษณะเดิม คือ ผู้เรียนจะต้องได้เรียนกับครูผู้สอน หรือการเรียนจากหนังสือเรียนเพียงอย่างเดียว เพราะปัจจุบันสังคมเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เพราะมีผลกระทบจากปัจจัยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคระบาด การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ซึ่งมีผลกระทบต่อระบบการศึกษาค่อนข้างมาก สมศ. เห็นว่าหากสถานศึกษาใดที่สามารถปรับรูปแบบการเรียนการสอนได้เร็วจะเกิดความได้เปรียบมากกว่า ซึ่งสถานศึกษาทุกแห่งจะต้องเตรียมพร้อมสำหรับการเรียนการสอนในรูปแบบใหม่ ๆ เพื่อสอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงในยุค (New Normal) อยู่ตลอดเวลาเพื่อให้ทันต่อสถานการณ์ ดังนี้

ครูผู้สอนจะต้องมีพื้นฐานด้านเทคโนโลยี เพราะในปัจจุบันและอนาคตระบบเทคโนโลยี การเรียนออนไลน์ จะเข้ามามีบทบาทกับระบบการศึกษามากยิ่งขึ้น ดังนั้นหากครูผู้สอนมีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีจะสามารถหาความรู้ใหม่ ๆ มาเติมเต็มให้ผู้เรียนได้ตลอดเวลา สร้างทุกที่ให้เป็นห้องเรียน โดยเด็กจะต้องสามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ทุกเวลาไม่จำกัดแค่ในห้องเรียนเท่านั้น ซึ่งที่ครูผู้สอนต้องดำเนินการคือการสร้างกิจกรรมนอกห้องเรียนให้ได้มากที่สุด เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับในกรณีที่เกิดภาวะวิกฤติ ส่งผลให้เด็กไม่สามารถเดินทางไปโรงเรียนได้บทเรียนจะต้องปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ปัจจุบัน การนำประเด็นหรือสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคมเข้ามาผสมผสานในวิชา จะทำให้ผู้เรียนเกิดความเข้าใจในแต่ละสถานการณ์ โดยหากเกิดเหตุการณ์ที่ส่งผลต่อการเรียนเด็กจะมีความพร้อมในการรับมือ และพร้อมที่จะปรับตัวให้เข้ากับเหตุการณ์

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา(องค์การมหาชน) โทรศัพท์ 0-2216-3955 หรือเข้าไปที่ www.onesqa.or.th

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version