การลงนามในสัญญาการใช้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ในวันนี้เป็นเครื่องตอกย้ำความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นที่ยาวนานระหว่างดับบลิวเอชเอ อินโฟนิท และจัสเทล โดยจัสเทลจะเริ่มใช้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ระดับพรีเมียม (เทียร์ 3) ของดับบลิวเอชเอ อินโฟนิท ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2563 เป็นต้นไป ซึ่งดับบลิวเอชเอ อินโฟนิท ทำหน้าที่ในการดูแลระบบเน็ตเวิร์ก และให้บริการเช่าพื้นที่วางเครื่องเซิร์ฟเวอร์จำนวนทั้งสิ้น 109 ตู้ เพื่อสนับสนุนการให้บริการลูกค้าของจัสเทลที่กำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“ดับลิวเอชเอ อินโฟนิทมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จัสเทลได้ร่วมลงนามในสัญญาครั้งนี้ ซึ่งแสดงถึงความสัมพันธ์อันแข็งแกร่งระหว่าง 2 บริษัท” นายไกรทส องค์ชัยศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ อินโฟนิท จำกัด กล่าว พร้อมอธิบายว่า “ดาต้าเซ็นเตอร์ระดับพรีเมียมเทียร์ 3 ที่ทางดับบลิวเอชเอ อินโฟนิทให้บริการนั้นตอบโจทย์ความต้องการของจัสเทลครบทุกด้าน ได้แก่ ระบบความปลอดภัยสูงสุด โซลูชันการดูแลข้อมูลที่ครบวงจร พร้อมระบบปั่นไฟฟ้า ระบบสำรองไฟฟ้า ระบบทำความเย็นและการป้องกันอัคคีภัย รวมถึงดาต้าเซ็นเตอร์ของเรายังใช้พลังงานสะอาดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย”
“การลงนามร่วมกับดับบลิวเอชเอ อินโฟนิท จะช่วยให้จัสเทล เน็ตเวิร์ค เดินหน้าขยายธุรกิจเพื่อส่งมอบนวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ ๆ ให้แก่ลูกค้าได้อย่างราบรื่น” นายสุพจน์ สัญญพิสิทธิ์กุล ประธานบริษัท จัสเทล เน็ทเวิร์ค จำกัด กล่าว พร้อมเสริมว่า “การมอบบริการให้กับลูกค้าทั้งในและต่างประเทศได้อย่างต่อเนื่องถือเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินธุรกิจของบริษัท เราเชื่อมั่นว่าดาต้าเซ็นเตอร์ของดับบลิวเอชเอ อินโฟนิท มีประสิทธิภาพตามมาตรฐานระดับสากล พร้อมที่จะสนับสนุนการดำเนินงานของเราได้ตลอดเวลา”
นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัทดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การแพร่ระบาดของสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 แสดงให้เห็นแล้วว่าข้อมูลได้กลายมาเป็นหนึ่งในทรัพยากรที่สำคัญและทรงคุณค่าที่สุดในโลกยุคดิจิทัล การเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลได้อย่างมั่นคงปลอดภัยนั้นสำคัญไม่แพ้กับการเข้าถึงไฟฟ้าและสาธารณูปโภคที่จำเป็นอื่น ๆ ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับจัสเทลเพื่อให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ระดับเวิร์ลคลาส สนับสนุนการต่อยอดธุรกิจของจัสเทลให้ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องต่อไป”
กลุ่มธุรกิจดิจิทัลแพลตฟอร์ม ยังมีบริการแบบ Managed Service และโซลูชั่นด้านดิจิทัลต่างๆ ไว้รองรับลูกค้ากลุ่มโลจิสติกส์และนิคมอุตสาหกรรมอีกมากมาย อาทิ บริการไฟเบอร์ออพติก (FTTx) บริการอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ให้เช่า บริการเอาท์ซอร์สด้านไอที ระบบกล้องวงจรปิดบนคลาวด์ บริการโทรศัพท์ด้วยเทคโนโลยี IP-PBX และคอลเซ็นเตอร์ บริการอีเมล เว็บไซต์ ไฟร์วอลล์ ระบบรักษาความปลอดภัยและการจัดเก็บข้อมูล ระบบกู้คืนข้อมูล ตลอดจนบริการเช่าพื้นที่วางเครื่องเซิร์ฟเวอร์และระบบควบคุมการเข้าถึง ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกใช้ได้ตามความต้องการ และชำระค่าบริการตามการใช้งานจริง
เมื่อเดือนกันยายนปีที่ผ่านมา กลุ่มธุรกิจดิจิทัลแพลตฟอร์ม ยกระดับบริการคลาวด์ เซอร์วิส ให้ก้าวไปอีกขั้นเพื่อตอบสนองความต้องการใช้งานด้านไอทีและดาต้าที่เพิ่มมากขึ้นของลูกค้า เปิดตัวบริการศูนย์สำรองและกู้คืนข้อมูล รวมถึงจัดเก็บข้อมูล เพื่อขยายบริการโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น บริษัทฯ มีทีมผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการสอบวัดผลและได้รับประกาศนียบัตรตามมาตรฐานสากลพร้อมบำรุงรักษาอุปกรณ์ บริหารจัดการดาต้าเซ็นเตอร์ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าจะได้รับบริการที่ดีและมีประสิทธิภาพมากที่สุด
เกี่ยวกับดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป
บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ผู้นำอันดับหนึ่งในการให้บริการโซลูชั่นครบวงจรด้านโลจิสติกส์และนิคมอุตสาหกรรมของไทย โดยธุรกิจของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ประกอบด้วย 4 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ โลจิสติกส์ นิคมอุตสาหกรรม ธุรกิจสาธารณูปโภคและพลังงาน และดิจิทัล แพลตฟอร์ม ด้วยบริการโซลูชั่นแบบครบวงจรสำหรับลูกค้า ทุกกลุ่มอุตสาหกรรมทั้งในและนอกนิคมอุตสาหกรรม ดังนี้
กลุ่มธุรกิจพัฒนาโลจิสติกส์ มุ่งให้บริการศูนย์กระจายสินค้า คลังสินค้า และโรงงาน Built-to-Suit แบบพรีเมียมที่ได้มาตรฐานระดับโลกแก่ลูกค้า โดยบริษัทฯ เป็นผู้ริเริ่มแนวคิดการสร้างอาคารโรงงาน และคลังสินค้าแบบ Built-to-Suit มาตั้งแต่ปี 2546 โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีพื้นที่คลังสินค้าและโรงงานแบบ Built-to-Suit รวมทั้งสิ้นกว่า 2,390,000 ตารางเมตร บนทำเลที่ตั้งในจุดยุทธศาสตร์กว่า 20 แห่งทั่วประเทศกลุ่มธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม ในฐานะผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรมคุณภาพระดับโลก ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ มีทั้งโครงสร้างพื้นฐาน สาธารณูปโภค คลัสเตอร์อุตสาหกรรม ได้แก่ คลัสเตอร์อุตสาหกรรมยานยนต์ คลัสเตอร์อุตสาหกรรมปิโตรเคมี รวมถึงบริการอุตสาหกรรมต่างๆ ที่แข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพ ปัจจุบันดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป มีนิคมอุตสาหกรรมทั้งสิ้น 11+ แห่งบนพื้นที่กว่า 68,900 ไร่ โดยส่วนใหญ๋ตั้งอยู่ในประเทศไทยที่จังหวัดระยอง ชลบุรีและสระบุรี ในปี 2561 คณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (กรศ.) ได้ประกาศอย่างเป็นทางการให้นิคมอุตสาหกรรมของดับบลิวเอชเอ 9 แห่งเป็นพื้นที่เขตส่งเสริมอุตสาหกรรมเป้าหมายในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) สอดคล้องกับพันธกิจของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ปในการมุ่งมั่นส่งเสริมการพัฒนา 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-curve) ของประเทศด้วย รวมถึงนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล โซน - เหงะอาน ในประเทศเวียดนามอีกหนึ่งแห่งกลุ่มธุรกิจสาธารณูปโภคและไฟฟ้า ในฐานะผู้ให้บริการด้านระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ให้กับลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรมแต่เพียงผู้เดียว รวมถึงการร่วมลงทุนด้านไฟฟ้ากับผู้ผลิตพลังงานไฟฟ้าชั้นนำของโลก ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป จึงสามารถสร้างความมั่นใจในการให้บริการด้านสาธารณูปโภคแก่ลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรมได้อย่างต่อเนื่อง โดยบริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) ในเครือดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป มีกำลังการผลิตน้ำรวมถึง 110 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี และมีกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนการถือหุ้นของโรงไฟฟ้าที่เริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์รวม 559 เมกะวัตต์กลุ่มธุรกิจดิจิทัล บริษัท ดับบลิวเอชเอ อินโฟนิท จำกัด ในเครือดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป มีบริการดาต้าโซลูชั่น และดิจิตอลแพลตฟอร์มต่างๆ อย่างครบครัน โดยมีบริการดาต้าเซ็นเตอร์ 4 แห่ง บริการไฟเบอร์ออพติก (FTTx) ครอบคลุมนิคมอุตสาหกรรมของดับบลิวเอชเอ 7 แห่ง และได้เข้าถือหุ้นในเข้าถือหุ้นในบริษัท Supernap Thailand ตลอดจนมีการลงทุนด้านดิจิตอลอินฟราสตรักเจอร์ เพื่อรองรับการดำเนินธุรกิจเชิงอัจฉริยะของลูกค้า ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ
เว็บไซต์: www.wha-group.com www.wha-digital.com