ในแต่ละปี International Taste Institute เชิญผู้เชี่ยวชาญซึ่งเป็นเชฟและซอมเมอลิเยร์ชื่อดังฝั่งยุโรปเข้ามาเป็นคณะกรรมการประเมินรสชาติสินค้าในหมวดอาหารและเครื่องดื่มเพื่อชิงรางวัลประจำปี เช่นเดียวกันในปีนี้ มีผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรางวัลทั้งสิ้น 1,510 รายการ รายชื่อทั้งหมดถูกเผยแพร่บนเว็บไซต์ https://www.taste-institute.com
สำหรับสัดส่วนของรางวัล แบ่งได้ดังนี้ :
รางวัล 1 ดาว (“ Very good taste ” หรือคะแนนระหว่าง 70 ถึง 80%): 430 รายการ
รางวัล 2 ดาว (“ Notable taste ” หรือคะแนนระหว่าง 80 ถึง 90%): 755 รายการ
รางวัล 3 ดาว (“ Remarkable taste ” หรือคะแนนมากกว่า 90%): 325 รายการ
นอกจากนี้ ยังมีรางวัลพิเศษอีก 2 รางวัลที่มอบให้กับผลิตภัณฑ์ซึ่งรักษาระดับความยอดเยี่ยมของรสชาติได้อย่างต่อเนื่อง ได้แก่ รางวัล Crystal Award (มอบให้กับสินค้าที่ได้รางวัล 3 ดาวติดต่อกัน 3 ปี) และรางวัล Diamond Award (มอบให้กับสินค้าที่ได้รางวัล 3 ดาว 7 ครั้งภายใน 10 ปี) ซึ่งในปีนี้ผลิตภัณฑ์ 35 รายการได้รับรางวัล Crystal Award และผลิตภัณฑ์ 16 รายการได้รับรางวัล Diamond Award ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดผ่านการทดสอบและประเมินรสชาติเชิงประสาทสัมผัสอย่างเข้มงวด โดยคณะกรรมการซึ่งเป็นเชฟและซอมเมอลิเยร์ชื่อดังจากสมาคมหลายแห่งในยุโรป ในท้ายสุดรางวัล "Superior Taste Award" จะมอบให้กับผลิตภัณฑ์ที่ทำคะแนนได้ตามเกณฑ์เท่านั้น
สำหรับประเทศไทย งานนี้ได้รับความสนใจจากแบรนด์ชั้นนำ เช่น น้ำผลไม้ยูเอฟซี บอนกาแฟ สินค้าจากดอยคำ ไทยโคโคนัท รวมถึงที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์ ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มในร้าน 7-eleven รวมถึงน้ำแร่มองต์เฟลอที่สามารถคว้ารางวัล Crystal Award ของปีนี้ได้อีกด้วย
เหตุใดผู้ผลิตจึงใส่ใจและไม่ละเลยความสำคัญเรื่องรสชาติและคุณภาพ ? มร. เอริค เดอ สบูเบิร์ค กรรมการบริการ กล่าวว่า “ ผู้ผลิตทุกคนเข้าใจว่าผู้บริโภคคาดหวังในความอร่อยและคุณภาพของสินค้า จึงเห็นถึงความสำคัญและใส่ใจต่อเรื่องนี้ ท่ามกลางการแข่งขันหลากหลายรูปแบบเพื่อจูงใจให้ผู้บริโภคซื้อสินค้า การส่งเสริมและพัฒนาด้านรสชาติอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ออกใหม่หรือวางจำหน่ายแล้ว”
จากผลสำรวจโดย the International Food Information Council Foundation ในปี 2562 พบว่าร้อยละ 86 ของผู้บริโภคระบุว่ารสชาติเป็นเหตุผลหลักในการเลือกซื้อสินค้า ซึ่งอยู่เหนือเกณฑ์ถัดไปคือราคา ร้อยละ 68 และสุขภาพร้อยละ 62
สแตน ฮูลังค์ เชฟมิชลิน 3 ดาว หนึ่งในคณะกรรมของปีนี้ เล่าถึงการประเมินผลิตภัณฑ์เชิงประสาทสัมผัสระหว่างการทดสอบที่ผ่านมา “ มันเป็นกระบวนการที่เข้มงวด ใช้การทดสอบแบบ blind tasted ซึ่งหมายความว่าผู้ประเมินไม่เห็นบรรจุภัณฑ์ ไม่ทราบชื่อแบรนด์หรือผู้ผลิต ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามาจากประเทศไหน ผู้ประเมินต้องจดจ่อกับการวิเคราะห์รสชาติซึ่งสามารถรับรู้ได้ทางประสาทสัมผัสเท่านั้น เรามั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ที่มีรสชาติดีเท่านั้น ที่ผ่านการรับรอง”
คณะกรรมการและทีมงานของ International Taste Institute ขอแสดงความยินดีกับผู้ประกอบการด้านอาหารและเครื่องดื่มทุกท่านที่ได้รับรางวัลในปีนี้
เกี่ยวกับ International Taste Institute
ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2548 มีสำนักงานที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม International Taste Institute เป็นผู้นำด้านบริการประเมินและรับรองรสชาติอาหารและเครื่องดื่มจากทั่วทุกมุมโลก คัดสรรคณะกรรมการชื่อดังซึ่งเป็นเชฟและซอมเมอลิเย่ร์กว่า 200 คนจากสมาคมอาหารและเครื่องดื่มในยุโรปกว่า 15 แห่ง ที่ผ่านมามีผลิตภัณฑ์มากกว่า 16,000 รายการที่ได้รับการรับรองโดยผู้เชี่ยวชาญซึ่งรวมถึงเชฟและซอมเมอลิเย่ร์ชื่อดังระดับโลก เช่น Ferran Centelles (Head Sommelier จาก El Bulli Foundation), Manuel Jimenez (Best Sommelier of Spain 2017), Alain Nonnet (เชฟมิชลิน 2 ดาว ต่อเนื่องกัน 36 ปี), Gaetano Raguni (ผู้ชนะรายการ Italy Bocuse d'Or 2017) รวมถึง Alan Coxon (เชฟและผู้จัดรายการโทรทัศน์ช่อง BBC) เริ่มให้บริการครั้งแรกในปี พ.ศ. 2549 และได้จัดงานประเมินรสชาติต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน