นายพร้อมพงศ์ ไชยกุล รองประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SMT เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทมีมติประกาศแต่งตั้งประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ “วิรัตน์ ผูกไทย” ซึ่งเป็นผู้บริหารที่มีประสบการณ์ด้านการตลาด และการขายในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์มายาวนาน และมีวิสัยทัศน์การบริหารที่สามารถตอบโจทย์องค์กรได้ดี ซึ่งบริษัทคาดว่าการที่ได้ซีอีโอท่านใหม่นี้เข้ามาบริหาร จะสามารถสร้างรายได้ และการเติบโตในอนาคตได้อย่างแน่นอนและยั่งยืน
ด้านนายวิรัตน์ ผูกไทย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า ตนขอขอบคุณทางคณะกรรมการบริษัทที่ให้ความไว้วางใจ และความเชื่อมั่น ซึ่งแผนการบริหารต่อไป จะดำเนินงานต่อยอดธุรกิจของบริษัทอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพให้มากที่สุด โดยปัจจุบัน SMT มีฐานลูกค้าที่เป็นผู้นำในตลาดจำนวนหลายรายและมีลูกค้าใหม่ที่อยู่ระหว่างเพิ่มยอดการผลิตอีกจำนวนมาก นอกจากนี้บริษัทยังสามารถขยายตลาดเข้าไปในกลุ่มตลาดใหม่ได้เพิ่มเติม เช่น กลุ่มลูกค้าในแถบทวีปยุโรปและประเทศจีนได้ในระยะเวลาที่รวดเร็ว เพราะมีปัจจัยพื้นฐาน และความมั่นคงของธุรกิจที่ค่อนข้างพร้อมอยู่แล้ว
“SMT เป็นบริษัทที่มีศักยภาพในการแข่งขันสูงทั้งในธุรกิจด้าน Semiconductor (OSAT) และผลิตภัณฑ์ด้านอิเล็กทรอนิกส์ระดับสูง (System built) โดยมีโรงงานในประเทศไทยเป็นฐานการผลิตหลักและกำลังมองหาอีก 2 แห่งที่ต่างประเทศ โดยมุ่งเน้นเรื่องการทำ Prototype , Engineering Services and Distribution รวมถึงการเพิ่มสาขาย่อยทั้งด้านการจัดซื้อและการตลาดในกลุ่มประเทศเป้าหมายอีก 2-3 แห่ง นอกจากนี้บริษัทได้มีการลงทุนด้านเครื่องจักรและเทคโนโลยีที่สามารถแข่งขันในตลาดได้เป็นอย่างดีและจากการเพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสารหรือการจัดการที่ดีจะทำให้ SMT สามารถสร้างความเชื่อมั่นและเพิ่มยอดขายจากลูกค้าที่มีอยู่ได้อย่างรวดเร็ว มุ่งหวังให้บริษัทเป็นผู้ให้บริการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ (Electronics Manufacturing Services หรือ EMS) ระดับโลก โดยสามารถให้บริการผลิตและประกอบชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผลิตภัณฑ์ในแบบต่างๆได้อย่างครบวงจรโดยใช้เครื่องจักรที่ทันสมัย และมีประสิทธิภาพสูง เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ครบถ้วน” นายวิรัตน์ กล่าว
นอกจากนั้นบริษัทมีแผนพัฒนาและส่งเสริมการสื่อสารและการบริหารจัดการทั้งภายในองค์กรกับลูกค้าอย่างชัดเจนและมีประสิทธิภาพให้มากขึ้น หวังมุ่งเน้นการพัฒนาพนักงานและให้ความสำคัญในการเพิ่มจำนวนลูกค้าขยายแผนการตลาดและกลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้กว้างขึ้นทั้งด้านของประเภทธุรกิจและกลุ่มประเทศเป้าหมาย พัฒนา Supply chain และการจัดตั้งศูนย์การจัดซื้อระหว่างประเทศ(IPO : International Purchasing Office) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และลดต้นทุนด้านวัตถุดิบ
ด้านผลประกอบการไตรมาส 1/2563 บริษัทมีรายได้จากการขายสินค้าลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยมีผลกระทบหลักจากภาวะโรคระบาดโควิด-19 ที่ส่งผลต่อทุกอุตสาหกรรมทั่วโลก แต่จากแผนธุรกิจที่มีความชัดเจนนั้น บริษัทคาดว่าจะสามารถพลิกกลับมามีกำไรได้ในไตรมาส 2/2563 นี้เป็นต้นไป และบริษัทยังมีความสามารถจ่ายคืนหุ้นกู้และตั๋ว B/E(Bill of Exchange) จำนวน 257 ล้านบาทได้โดยไม่มีปัญหา
สำหรับ SMT ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตและประกอบชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ประกอบไปด้วยสินค้า 4 กลุ่มธุรกิจหลักที่กำลังเติบโตได้แก่ IC packaging , Optics, PCBA and Box Build และ Advanced packaging และ SMT มีตัวแทนขายทั่วโลกรวมถึงบริษัทในเครือที่ทำหน้าที่หาลูกค้าที่สหรัฐอเมริกาอีกด้วย