รายงานข่าวจากบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DTC เปิดเผยว่า โรงแรม ดุสิต บีช รีสอร์ท กวม มีห้องพักสำหรับบริการนักท่องเที่ยวรวม 604 ห้อง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน โดยก่อนหน้านี้โรงแรมดังกล่าวเปิดให้บริการภายใต้ชื่อ โรงแรม เอาท์ริกเกอร์ กวม บีช รีสอร์ท ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีมาเป็นเวลากว่า 20 ปี ก่อนที่จะเปลี่ยนชื่อเป็น โรงแรม ดุสิต บีช รีสอร์ท กวม โดยในส่วนของศูนย์การค้า “เดอะ พลาซ่า” ประกอบด้วย ร้านอาหาร บาร์ รวมถึงร้านค้าแบรนด์เนมชั้นนำระดับโลกกว่า 60 แห่ง มีทำเลที่ตั้งโดดเด่นย่านใจกลางทูมอน ซึ่งเป็นย่านนักท่องเที่ยวที่คึกคัก และเป็นแหล่งรวมของโรงแรมที่พัก ร้านค้า ศูนย์รวมแหล่งช้อปปิ้งชั้นนำ และสถานบันเทิงมากมาย ห่างจากสนามบินนานาชาติของกวมเพียง 15 นาทีโดยรถยนต์ ด้วยสถานที่ตั้งที่เชื่อมต่อกัน ทำให้แขกที่เข้าพักจะได้เพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งที่เดอะพลาซ่า และยังสามารถเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกของทั้งสองโรงแรมได้อย่างง่ายดาย ซึ่งรวมถึงร้านอาหารขึ้นชื่อหลายแห่งในโรงแรมดุสิตธานี กวม รีสอร์ท ที่มีรางวัลการันตีความอร่อย
กวมเป็นเกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก และอยู่ในการปกครองของสหรัฐอเมริกา สามารถเดินทางไปที่เกาะแห่งนี้โดยเครื่องบิน โดยใช้เวลาบินประมาณ 4 ชั่วโมงจากญี่ปุ่น หรือเมืองหลักๆหลายแห่งในเอเชีย เกาะกวมมีชื่อเสียงในเรื่องความงดงามของทะเลสีฟ้าใส เป็นสวรรค์ของนักช้อปเพราะเป็นแหล่งช็อปปิ้งสินค้าปลอดภาษี และมีวัฒนธรรมท้องถิ่นที่มีเสน่ห์ที่น่าค้นหาอย่างมาก อาทิ อาหารพื้นเมือง และคำทักทายพร้อมรอยยิ้มที่เป็นมิตรอย่าง “ฮาฟ อะเดย์” ที่แปลว่าสวัสดีในภาษาท้องถิ่นของชาว “ชามอร์โร” ชนพื้นเมืองของเกาะกวม
ปัจจุบันกลุ่มดุสิตธานี บริหารโรงแรม รีสอร์ท และวิลล่าหรู ภายใต้ 6 แบรนด์ ในจุดหมายปลายทางชั้นนำกว่า 300 แห่งใน 14 ประเทศทั่วโลก โดยบริหารโรงแรมในเกาะกวมรวม 2 แห่ง และศูนย์การค้า 1 แห่ง คือ ดุสิตธานี กวม รีสอร์ท ที่เปิดให้บริการมาแล้ว 6 ปี, ดุสิต บีช รีสอร์ท กวม และ เดอะพลาซ่า ตามลำดับ
ข้อมูลเกี่ยวกับดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล:
ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2491 ปัจจุบันดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ กลุ่มบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในประเทศไทย ที่เป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจด้านการบริการท่องเที่ยวและโรงแรม ดำเนินกิจการครอบคลุม 5 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ท ธุรกิจการศึกษา ธุรกิจอาหาร ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการต้อนรับ ธุรกิจหลักของกลุ่มได้แก่ ธุรกิจโรงแรม รีสอร์ทและวิลล่าหรู ภายใต้ 6 แบรนด์ ได้แก่ ดุสิตธานี, ดุสิตเดวาราณา, ดุสิตดีทู, ดุสิตปริ๊นเซส, อาศัย และอีลิธฮาเวนส์ ในจุดหมายปลายทางชั้นนำกว่า 300 แห่งใน 14 ประเทศทั่วโลก และธุรกิจการศึกษา ซึ่งประกอบด้วย โรงเรียนสอนประกอบการทำอาหาร วิทยาลัยการโรงแรมทั้งในประเทศไทยและฟิลิปปินส์ ในขณะที่กลุ่มธุรกิจอาหาร ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจให้บริการอื่นๆ เป็นกลุ่มธุรกิจใหม่ที่บริษัทเพิ่งเริ่มกระจายการลงทุนไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตามแผนกลยุทธ์การเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว ที่ประกอบด้วย 3 ด้านได้แก่ การสร้างความสมดุล การเติบโต และการกระจายความเสี่ยง
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.dusit-international.com และสามารถดาวน์โหลดรูปภาพของโรงแรมได้ที่ medialib.dusit.com