นายนาวินกล่าวต่อไปว่า ภายใต้สถานการณ์การลงทุนในปัจจุบันที่ยังคงมีความผันผวนอยู่ค่อนข้างสูง โดยมีปัจจัยหลักมาจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 รวมถึงประเด็นความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯและจีน ทำให้ผู้ลงทุนควรกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย เพื่อลดความผันผวนจากการลงทุน ดังนั้น กองทุน K-GA จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เนื่องจาก กองทุนมีนโยบายที่เน้นกระจายการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ทั่วโลก โดยผู้จัดการกองทุนหลักจะทำหน้าที่ปรับสัดส่วนการลงทุนให้เหมาะสมตามภาวะตลาดในแต่ละช่วงเวลา ทั้งนี้ นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนมีการจ่ายปันผล รวมทั้งสิ้น 18 ครั้ง เป็นเงิน 6.20 บาทต่อหน่วย โดยในรอบผลการดำเนินงาน 1 ปีที่ผ่านมา กองทุนมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) เฉลี่ยอยู่ที่ 6.19% ต่อปี และมีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 6.13% ต่อปี (ข้อมูล ณ วันที่ 31 พ.ค. 63)
สำหรับกองทุน K-USXNDQ-A(D) มีนโยบายที่เน้นลงทุนในหุ้นบริษัทชั้นนำของสหรัฐฯ โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มไอที ผ่านกลยุทธ์ที่มุ่งสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนีอ้างอิง NASDAQ-100 ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาหุ้นกลุ่มดังกล่าวได้รับอานิสงส์จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ที่ทำให้ประชาชนทั่วโลกเปลี่ยนแปลงรูปแบบการดำเนินชีวิตหันมาบริโภคข้อมูลออน ไลน์มากขึ้นไม่ว่าจะเป็นการซื้อสินค้าออนไลน์ การดูหนังออนไลน์
รวมถึงการทำงานผ่านระบบ Cloud เป็นต้น ส่งผลให้กองทุนสามารถสร้างผลการดำเนินงานที่ดีจนได้รับการจัดอันดับ Overall Morningstar Rating 5 ดาว (ที่มา: Morningstar ณ 31 พ.ค. 63) นอกจากนี้ กองทุนยังได้มีการจ่ายปันผลมาอย่างต่อเนื่องทุกปีนับตั้งแต่จัดตั้ง รวมทั้งสิ้น 27 ครั้ง เป็นเงิน 8.55 บาทต่อหน่วย โดยในรอบผลการดำเนินงาน 1 ปีที่ผ่านมา กองทุนมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) เฉลี่ยอยู่ที่ 5.79% ต่อปี และมีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 31.59% ต่อปี (ข้อมูล ณ วันที่ 31 พ.ค. 63)
“ทิศทางการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีแนวโน้มผันผวนเพิ่มขึ้น ภายหลังจากความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯและจีนกลับมามีข้อพิพาทกันอีกครั้ง รวมถึงเหตุการณ์จราจลในสหรัฐฯ ทำให้คาดการณ์ GDP ในไตรมาสแรกหดตัวลง - 5% ซึ่งต่ำสุดในรอบกว่า 11 ปี อย่างไรก็ดี ผู้ลงทุนส่วนใหญ่เริ่มกล้าที่จะเสี่ยง (Risk- on Mode) สะท้อนได้จากระดับราคาหุ้นที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยมองข้ามปัจจัยลบต่างๆ และมีความหวังต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่จะตามมาหลังจากที่หลายประเทศเริ่มควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ได้ดีขึ้น รวมถึงมาตรการเยียวยาทั้งการเงินและการคลังจากประเทศแกนหลัก อย่างไรก็ตาม ผู้ลงทุนยังคงต้องจับตาดูการระบาดรอบใหม่ โดยมีโอกาสที่จะเกิดการระบาดขึ้นอีกรอบจากการคลายล็อกดาวน์ที่เร็วไปในบางประเทศ รวมถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจว่าจะมีเสถียรภาพมากน้อยแค่ไหน แม้จะเริ่มมีสัญญาณที่ดีในช่วงที่ผ่านมา” นายนาวินกล่าว
นายนาวินกล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผู้ที่ต้องการเข้าลงทุนในกองทุน K-GA และ K- USXNDQ-A(D) ควรประเมินสถานการณ์ก่อนเข้าลงทุน ส่วนผู้ลงทุนที่ถือครองหน่วยลงทุนของกองทุนดังกล่าว ควรถือต่อเพื่อรอประเมินสถานการณ์อีกครั้ง ทั้งนี้ ผู้ลงทุนสามารถดาวน์โหลด App K-My Funds เพื่อดูผลการดำเนินงานย้อนหลังได้ และเริ่มต้นลงทุนได้เพียง 500 บาท ผ่าน App K PLUS, K-My Funds, ธนาคารกสิกรไทย หรือ ผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุน โดยติดต่อขอรับหนังสือชี้ชวนได้ตามช่องทางดังกล่าว สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ KAsset Contact Center 0 2673 3888