นางอรณีย์ พูลขวัญ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายพัฒนาธุรกิจค้าปลีกและการพาณิชย์ บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “สิงห์ เอสเตท มีแนวคิดในการร่วมสนับสนุนบรรทัดฐานความปกติใหม่ของสังคม โดยเริ่มต้นสร้างให้ชุมชนซันทาวเวอร์สและซันพลาซาเป็นชุมชนต้นแบบในด้านการรักษาสุขภาพและสุขอนามัย ด้วยพื้นที่นี้เป็นเหมือนชุมชนขนาดย่อมที่มีการใช้ชีวิตของผู้คนเป็นจำนวนมาก ทั้งพนักงานจากบริษัทชั้นนำในอาคารซันทาวเวอร์สฯ และจากบริษัทต่างๆในอาคารสำนักงานใกล้เคียงที่รวมแล้วมีมากกว่า 70 บริษัท ผู้ประกอบการร้านค้า ร้านอาหาร และแผงร้านค้าของพ่อค้าแม่ค้า ที่มีมากกว่า 100 ร้าน รวมแล้วมีผู้เข้ามาใช้บริการมากกว่า 8,000 คน/วัน ดังนั้นจึงมีการออกมาตรการดูแลความสะอาด ความปลอดภัย เพื่อสุขอนามัยและสุขภาพที่ดีของทุกคนและเพื่อช่วยป้องกันการกลับมาแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อีกครั้ง ซึ่งจะมีทั้งมาตรการพื้นฐานตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงมีการนำเทคโนโลยีด้านต่างๆ เข้ามาเต็มเติมเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี”
มาตรการเพื่อสุขอนามัยขั้นพื้นฐาน สำหรับอาคารซันทาวเวอร์ส ได้แก่
มาตรการคุมเข้มสำหรับผู้มาติดต่อตั้งจุดตรวจคัดกรอง ตรวจวัดอุณภูมิ ไม่อนุญาตให้ผู้ที่มีอุณภูมิเกิน 37.5 องศา เข้าพื้นที่กำชับให้ผู้มาติดต่อสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่ในพื้นที่ผู้มาติดต่อทุกคนต้องบันทึกเวลาเข้าออกผ่าน QRมาตรการเพื่อความความสะอาดและปลอดภัยตั้งจุดเจลแอลกอฮอล์ล้างมือเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดจุดสัมผัสต่างๆ ทุก 30 นาทีเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดบัตรก่อนส่งคืนให้ลูกค้าทุกครั้งจัดระเบียบ Social Distancing การใช้ลิฟท์โดยสาร ครั้งละไม่เกิน 9 คนเว้นระยะทุกจุด ห่าง 1 – 2 เมตร ตลอดเวลาเตรียมนำเทคโนโลยีเพื่อสุขอนามัยและสุขภาพที่ดี (Hygiene & Well Being) เข้ามาใช้ในอาคาร อาทิ เทคโนโลยีไร้สัมผัส, เทคโนโลยีฆ่าเชื้อไวรัสและแบคทีเรียรวมถึงไวรัสโควิด-19 ภายในอาคาร, หุ่นยนต์ฆ่าเชื้อทำความสะอาดในระบบปรับอากาศภายในอาคาร
มาตรการเพื่อสุขอนามัยขั้นพื้นฐานสำหรับซันพลาซา ได้แก่
ผู้ใช้บริการทุกคนต้องผ่านจุดคัดกรองวัดอุณหภูมิร่างกายก่อนเข้าศูนย์อาหาร และต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งจัดตั้งจุดล้างมือเพื่อสุขลักษณะที่ดีก่อนเข้าใช้บริการจัดที่นั่งแบบเว้นระยะห่าง 1 – 2 เมตร ตามจุดที่กำหนด และตั้ง Table Shield บนโต๊ะรับประทานอาหารมีพนักงานทำความสะอาดโต๊ะ เก้าอี้ และทุกจุดสัมผัสหลังการใช้งาน และทุก 30 นาทีภาชนะ ช้อนส้อม และเครื่องปรุงอยู่ในบรรจุแยกพร้อมใช้ พร้อมทำความสะอาดและฆ่าเชื้อภาชนะทุกชิ้นที่อุณหภูมิมากกว่า 90 องศา รวมถึงมีการฆ่าเชื้อช้อน-ส้อมด้วยรังสี UVอำนวยความสะดวกในการชำระเงินผ่าน QRร้านอาหารมีการตั้ง food shield และพ่อค้าแม่ค้าสวมใส่ถุงมือ, face shield และหน้ากากอนามัย ตลอดเวลา
“การปรับรูปแบบการใช้ชีวิตเพื่อให้เข้ากับยุคหลังการระบาดของเชื้อไวรัส-19 ยังคงเป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะเราต้องเฝ้าระวังการกลับมาระบาดของเชื้อไวรัสชนิดนี้อย่างรัดกุม โดยสิงห์ เอสเตท ได้เตรียมความพร้อมด้วยการออกมาตรการดูแลสุขอนามัยอย่างเข้มข้น รวมทั้งมีการเฝ้าระวังติดตามข้อมูลข่าวสารจากกระทรวงสาธารณสุขอยู่ตลอดเวลา เพื่อมอบความอุ่นใจสูงสุดให้กับผู้เข้ามาใช้บริการทุกคน อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ขอความร่วมมือทุกฝ่ายในการปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ เพื่อร่วมสร้างสังคมแห่งการใช้ชีวิตรูปแบบใหม่และทำให้การอยู่ร่วมกันหรือการติดต่อพบปะกันเป็นเรื่องปลอดภัยต่อทั้งสุขภาพตนเองและชุมชน” นางอรณีย์ กล่าวปิดท้าย