โดยทั้ง 3 จุดเด่นของไทยได้แก่ ท่องเที่ยว การแพทย์ และอาหาร ประเทศไทยถือว่ามีศักยภาพในการแข่งขันในตลาดโลกในหลากหลายแง่มุม จากทั้งองค์ความรู้ ความสามารถของบุคลากร และสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ซึ่งอุตสาหกรรมที่เห็นได้ชัดเจนจากข้อดีดังกล่าวคือ ภาคท่องที่ยว, การแพทย์ และธุรกิจอาหาร ดังนั้นกลุ่มเหล่านี้ถือว่าได้เปรียบคู่แข่งในประเทศต่างๆค่อนข้างมาก และมีโอกาสในการเติบโตที่สูงตามทิศทางเศรษฐกิจทั่วโลกที่จะขยายตัวมากยิ่งขึ้นในช่วงถัดไป การนำจุดแข็งในหลายๆด้านมาผสมผสานกัน จะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งในด้านโครงสร้างรายได้ที่มากยิ่งขึ้น ซึ่งหากธุรกิจต่างๆได้นำข้อได้เปรียบของประเทศไทยมาผสมเข้ากับธุรกิจที่โดดเด่นของตนเองแล้ว คาดจะยิ่งเป็นช่องทางในการขับเคลื่อนรายได้ให้เติบโตยิ่งขึ้น พร้อมกับการต่อยอดเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น โซเชียลเน็ตเวิร์ก, ออนไลน์ ถือเป็นการขยายช่องทางการทำธุรกิจที่เข้ากับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปเช่นในปัจจุบัน ดังนั้นหากบริษัทสามารถผสมผสานจุดแข็ง พร้อมกับนำเอาเทคโนโลยีดังกล่าวเข้ามาใช้ คาดจะทำให้อัตราการทำกำไรสูงขึ้น และเร่งผลการดำเนินงานให้เติบโตได้ดียิ่งขึ้น
แนะนำทยอยสะสมหุ้นเด่นที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนในระยะกลางที่มีการผสมผสานจุดเด่นของประเทศไทย ดังนี้ 1.การแพทย์+ท่องเที่ยว ก็คือการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Medical Tourism) แนะนำ BDMS ด้วยสาขาที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ ซึ่งรวมถึงจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ, SPA การนวดและบำบัด ถือเป็นจุดเด่นที่สำคัญของไทย ที่นักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมใช้บริการ 2.ท่องเที่ยว+อาหารและเครื่องดื่ม คือเน้นไปที่การบริโภคของนักท่องเที่ยว แนะนำ MINTเจ้าของแบรนด์ธุรกิจโรงแรมและร้านอาหารชั้นนำ ทั้งสำหรับคนไทยและต่างชาติ, CPALL มีสาขาครอบคลุมทั่วประเทศ ง่ายต่อการเข้าถึงผู้บริโภคและนักท่องเที่ยว 3.อาหารและเครื่องดื่ม+การแพทย์ คืออาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ (Healthy F&B) แนะนำ CPF ธุรกิจอาหารครบวงจรขานรับการเป็นครัวโลกที่จะขยายการเติบโตไปได้อย่างยั่งยืน, RBF เน้นพัฒนาและวิจัยนวัตกรรมด้านอาหารแบบครบวงจร ช่วยต่อยอดธุรกิจเติบโตอย่างมั่นคง