นายแพทย์กิตต์กวี โพธิ์โน ผู้อำนวยการโรงพยาบาล(รพ.) จิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์ จ.นครราชสีมา ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้รพ.จิตเวชฯได้จัดบริการตรวจสภาพจิต ให้แก่ประชาชนที่มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 9 หรือเขตนครชัยบุรินทร์ ได้แก่นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์และสุรินทร์ ที่ต้องการจะขอรับเด็กมาเป็นบุตรบุญธรรม เป็นไปตามกฎหมายคือพระราชบัญญัติการรับบุตรบุญธรรม(ฉบับที่3 ) พ.ศ.2553 ซึ่งกำหนดให้ผู้ที่จะขอรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม ต้องมีคุณสมบัติทั้งทางกฎหมายและทางสังคมคือ มีอายุไม่ต่ำกว่า 25 ปี อายุมากกว่าเด็กไม่น้อยกว่า 15 ปี ไม่มีลักษณะต้องห้ามเป็นผู้ปกครองเด็กตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1587 เช่นเป็นผู้ไร้ความสามารถ หรือเสมือนไร้ความสามารถ เป็นต้น เป็นครอบครัวที่สมบูรณ์ ชีวิตสมรสราบรื่นมั่นคง มีความคิดเห็นตรงกัน มีรายได้อยู่ในฐานะจะอุปการะเด็กให้มีความเป็นอยู่ที่ดีได้ และมีสุขภาพสมบูรณ์ทั้งกายและจิตใจ โดยคู่สมรสจะต้องผ่านการตรวจสภาพจิตตามกระบวนการทดสอบทางจิตวิทยาก่อน เนื่องจากมีความสำคัญต่อการเลี้ยงดูเด็ก และเพื่อเป็นการคุ้มครองเด็กและคัดเลือกครอบครัวที่เหมาะสมให้แก่เด็ก จากสถิติของกระทรวงมหาดไทย ในพื้นที่เขตนครชัยบุรินทร์มีผู้รับบุตรบุญธรรมในช่วงปี 2560-2562 รวม 1,809 คน แบ่งเป็นจ.นครราชสีมา จำนวน 696 คน จ.บุรีรัมย์ จำนวน 362 คน สุรินทร์ จำนวน 433 คน และชัยภูมิจำนวน 318 คน
นายแพทย์กิตต์กวีกล่าวต่อว่า ในการตรวจสภาพจิต รพ.จิตเวชฯได้จัดทีมสหวิชาชีพ เช่นจิตแพทย์ นักจิตวิทยาคลินิก พยาบาลจิตเวช ให้บริการ โดยกระบวนการทดสอบทางจิตวิทยานั้น จะมีทั้งทางจิตและประสาท บุคลิกภาพ ทัศนคติต่างๆ การประเมินอื่นๆเช่น ด้านอารมณ์ รวมทั้งประวัติการเจ็บป่วยต่างๆทั้งทางกายและทางจิตอื่นๆ ตลอดจนความพร้อมในการดูแลบุตรด้วย ประชาชนสามารถเข้ารับบริการเบื้องต้นเพื่อคัดกรองและยื่นเอกสารตามที่ราชการกำหนด ในวันเวลาราชการวันจันทร์-ศุกร์ ที่แผนกผู้ป่วยนอก เพื่อเข้ารับการตรวจจากจิตแพทย์ โดยจะนัดตรวจสภาพจิตในช่วงบ่ายวันพฤหัสบดีเวลา13.00 น. แต่เนื่องจากมีผู้รอรับบริการจำนวนมาก รพ.จิตเวชฯจึงได้ขยายบริการนี้นอกเวลาราชการด้วยในวันอังคารและวันพฤหัสบดี ตั้งแต่เวลา 16.00น. -19.30 น. ใช้เวลาตรวจประมาณ 3 ชั่วโมง และออกใบรับรองแพทย์ผลการทดสอบสภาพจิตภายใน2 สัปดาห์ เพื่อนำไปใช้ประกอบการพิจารณาการขอรับบุตรบุญธรรม ค่าบริการ 2,220-2,500 บาท ประชาชนสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่หมายเลข 0 4423 3999
นายแพทย์กิตต์กวีกล่าวต่อไปว่า สำหรับคู่สมรสที่ต้องการรับบุตรบุญธรรมมาอุปการะเลี้ยงดู มีคำแนะนำหลักการที่ควรคำนึงถึง 7 ประการดังนี้
ควรเป็นคู่สามีภรรยาที่เป็นครอบครัวสมบูรณ์ มีชีวิตสมรสราบรื่น มั่นคง มีความคิดเห็นตรงกัน และขอรับเด็กเป็นบุญธรรมร่วมกัน เพื่อให้เด็กได้มีทั้งบิดามารดาควรรับเด็กมาเลี้ยงตั้งแต่อายุไม่เกิน 6 เดือน หรือหากรับตั้งแต่แรกเกิดยิ่งเป็นผลดีในการสร้างความผูกพันลึกซึ้งเด็กควรผ่านการตรวจร่างกายจากแพทย์โดยละเอียด และไม่พบความผิดปกติเด็กควรได้รับการตรวจสอบโรคที่สำคัญ เช่น ซิฟิลิส วัณโรค โรคเอดส์ เป็นต้นตรวจสอบภูมิหลังของเด็กพอควรแล้วว่าไม่มีอะไรที่ทำให้เด็กมีความเสี่ยงต่อความผิดปกติกรณีที่รับเด็กโตมาเป็นบุตรบุญธรรม ควรเป็นเด็กที่นับถือศาสนาเดียวกัน และควรบอกความจริงแก่เด็กตั้งแต่อายุยังน้อยๆคือเริ่มเมื่อเด็กอายุประมาณ 3-4 ขวบ ซึ่งเด็กสามารถเข้าใจบ้างแล้ว เป็นผลดีต่อจิตใจทั้ง 2 ฝ่าย