นายวัชระ ศิริฤทธิชัย ผู้จัดการทั่วไป บริษัท นิปปอนเพนต์ เดคโคเรทีฟ โคทติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสีนิปปอนเพนต์ในประเทศไทย ในฐานะผู้ผลิตสีรายใหญ่อันดับ 1 ของเอเชีย และอันดับ 1 ใน 5 ของโลก จากประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า บริษัทฯ จับมือเป็นพันธมิตรกับ 3 บริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมก่อสร้างระดับโลก เพื่อร่วมกันพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีส่งเสริมการทำงานอย่างมืออาชีพ ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดต่อผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์, เจ้าของอาคาร, สถาปนิกและนักออกแบบ, ผู้รับเหมาก่อสร้าง รวมถึงช่างสี เป็นต้น ถือเป็นครั้งแรกของโลกที่บริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมก่อสร้าง ได้พัฒนานวัตกรรมเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น
โดยเริ่มจากการพัฒนานวัตกรรมแรกเพื่อผู้ประกอบการผ่านระบบ Professional Series by Nippon Paint ด้วยการผนึกกำลังกับ 3 แบรนด์ชั้นนำระดับโลกที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านในวงการอุตสาหกรรมก่อสร้าง ประกอบด้วย
เทอร์ราโก้ (Terraco) ประเทศสวีเดน ผู้นำด้านวัสดุตกแต่งผิว เช่น อะคริลิกฉาบบาง อะคริลิกกันซึม วัสดุอุดโป๊ว ด้วยนวัตกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ก่อตั้งนานกว่า 40 ปี ด้วยวัตถุดิบและเทคโนโลยีการผลิตที่คัดสรรมาอย่างดี ทำให้ผลิตภัณฑ์ของเทอร์ราโก้มีความทนทานสูงตอบโจทย์การออกแบบการตกแต่งผิวที่มีความหลากหลายซับซ้อนมากขึ้น และเทอร์ราโก้เป็นผู้ผลิตที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและผู้ใช้งานอีกด้วยเกรโก้ (Graco) ประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้นำอันดับหนึ่งของโลกในด้านการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องพ่นสี ด้วยยอดขายทั่วโลกกว่า 2,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ซึ่งผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของเกรโก้ผลิตในประเทศสหรัฐอเมริกา จำหน่ายในอุตสาหกรรมต่างๆ อาทิเช่น อุตสาหกรรมก่อสร้าง การประกอบรถยนต์และซ่อมรถยนต์ อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า เกรโก้ทุ่มเทให้กับการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อให้ได้คุณภาพสูงสุดและตอบสนองความคุ้มค่าที่มากที่สุด ปัจจุบันจำหน่ายมากกว่า 100 ประเทศทั่วโลกเมอร์กา (Mirka) ประเทศฟินแลนด์ ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดาษทรายและผลิตภัณฑ์สำหรับการขัดพื้นผิวที่ไร้ฝุ่น (Net Sanding) รายแรกของโลก ด้วยนวัตกรรมการสร้างกระบวนการผลิตสารเคลือบผิวที่คิดค้นขึ้นใหม่ อาทิ เครื่องขัดไฟฟ้าไร้ฝุ่น อุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพ คุณภาพสูง ใส่ใจสิ่งแวดล้อม โดดเด่นเหนือคู่แข่งสามารถสร้างประโยชน์ให้กับผู้ใช้ได้อย่างยอดเยี่ยม โดยปัจจุบันผลิตภัณฑ์ของเมอร์กากว่า 90% ถูกส่งออกไปจำหน่ายในกว่า 80 ประเทศทั่วโลก
“ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นปรากฏการณ์ครั้งแรกของโลก ที่ 4 บริษัทชั้นนำจากอุตสาหกรรมก่อสร้างมาร่วมมือ เพื่อยกระดับการทำงานของมืออาชีพให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งการทำงานที่เร็วขึ้น ลดต้นทุนการผลิต และเพิ่มคุณภาพงาน”
จากการร่วมมือครั้งสำคัญนี้ เราได้พัฒนาระบบสีเพื่อตอบโจทย์อุตสาหกรรมก่อสร้าง คือ ระบบปิดผิวผนัง โปร-วอลล์ ฟินิช (Pro-Wall Finish) ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อความคุ้มค่าที่เหนือกว่า ทั้งการยึดเกาะดีเยี่ยม ประหยัดค่าใช้จ่ายที่มากกว่า ประหยัดเวลา รวมถึงการใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์แรกในกลุ่มผลิตภัณฑ์ภายใต้ Professional Series และในอนาคต นิปปอนเพนต์ มีแผนขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ Professional Series ให้มีความหลากหลายยิ่งขึ้น ถือเป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำด้าน Total Coating Solutions ของเมืองไทยด้วย
นายวัชระ กล่าวว่า จากประสบการณ์ที่ยาวนานกว่า 53 ปี ของนิปปอนเพนต์ ในประเทศไทย พบว่า ความท้าทายสำคัญของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมก่อสร้างคือ การได้งานที่มีคุณภาพ ทั้งงานสี วัสดุก่อสร้าง รวมถึง แรงงานที่มีทักษะเฉพาะด้าน โดยเฉพาะงานสีเพื่อให้ได้งานที่มีคุณภาพ สวยงามทนทาน ไร้ปัญหา และส่งมอบงานได้ตามกำหนดเวลา บริหารงบประมาณได้มีประสิทธิภาพ บ่งบอกถึงความเป็นมืออาชีพ
สำหรับภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้างตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด – 19 พบว่า การก่อสร้างอาคารใหม่ยังคงดำเนินการก่อสร้างต่อเนื่อง เนื่องจากมีระยะเวลาในการส่งมอบที่ชัดเจน ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้เป็นกลุ่มลูกค้าหลักของเรา และการผนึกความร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นโซลูชั่นที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้เป็นอย่างดี ขณะที่การใช้สีเพื่อการปรับปรุง (Renovation) เกิดการชะลอตัวของการใช้ ส่งผลให้ดีมานต์ในครึ่งปีแรกลดลง 15-20% อย่างไรก็ดีเชื่อว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ที่เริ่มคลี่คลายจะทำให้ทิศทางของอุตสาหกรรมในครึ่งปีหลังกลับมาคึกคัก จากกลุ่มลูกค้ารีโนเวตที่จะกลับมามากขึ้น
“ภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้างในปีนี้คาดว่าจะลดลง 10-15% จากเดิมที่เคยเติบโต 3-5% ต่อปี แต่ในปี 2564 หลังจากที่สถานการณ์ต่างๆ คลี่คลายจะดีดตัวกลับมาอย่างแน่นอน ซึ่งนิปปอนเพนต์เองให้ความสำคัญและมีแผนรองรับต่อเนื่อง โดยเฉพาะการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมมาใช้เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม ซึ่งบริษัทฯ มีแผนเปิดตัวนวัตกรรมสีสุขภาพ (Wellness Series) สำหรับคนรักสุขภาพ และสิ่งแวดล้อม รวมถึงสามารถป้องกันเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย ในเร็วๆ นี้ด้วย” นายวัชระกล่าวในตอนท้าย