นางสาวศศิวิมล ลักษณ์อำนวยพร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กำกับและดูแลฝ่าย Marketing Innovation บริษัท เจพี ประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ JP เปิดเผยว่า ด้วยสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 และความปกติวิถีใหม่ (New Normal) จะเห็นพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป หันมาสนใจการซื้อขายบนออนไลน์กันมากขึ้น โดยผู้ขายเองมีการปรับกลยุทธ์ทางการค้าด้วยการจัดทำระบบออนไลน์หรือเดลิเวอรี่รับการบริการสินค้าที่สะดวกและรวดเร็วให้กับผู้บริโภค เจพี ประกันภัย จึงได้ปรับกลยุทธ์ของธุรกิจโฟกัสการทำงานบนอินชัวร์เทค (Insurtech) ด้วยการยกระดับไปสู่การขายประกันผ่านช่องทางออนไลน์ รวมถึงการให้บริการสินไหมแบบออนไลน์ โดยได้พัฒนาแพลตฟอร์มใหม่ที่ชื่อว่า 'JP Connect’ ขึ้นมาเพื่อใช้ในการเชื่อมต่อไปหาลูกค้าของบริษัท รวมไปถึงให้กับ Synergy Group และกลุ่มอีคอมเมิร์ซต่างๆ ที่จะช่วยสร้างกลุ่มเป้าหมายที่จะกลายเป็นลูกค้า (Lead Generation) ของบริษัท ซึ่งจะสามารถเข้าถึงสินค้าและบริการของเจพีประกันภัยได้ง่ายขึ้น
โดย JP Connect จะเป็นเว็บไซต์สำหรับการรวบรวมสินค้าประกันออนไลน์ของบริษัทไว้ในที่เดียวผ่าน www.jpinsurance.co.th เพื่อให้ง่ายต่อการทำรายการ ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีประกันภัยหลากหลายประเภทแบ่งเป็น 2 ประเภทคือ 1. ประกันภัยรถยนต์ (Motor) ได้แก่ ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ประเภทรถเก๋งและรถกระบะ ที่จ่ายเบี้ยประกันเริ่มต้นเพียง 568 บาท สำหรับลูกค้าที่ซื้อประกันภัยกับบริษัทในช่องทางออนไลน์ หรือที่ https://bit.ly/2WmXatc และประกันรถยนต์ 3+ รายเดือน ที่สามารถเลือกระยะเวลาคุ้มครองได้ทั้งแบบ 30 วัน และ 90 วัน สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/2AcNR6y 2. ประกันภัยที่ไม่ใช่รถยนต์ (Non–Motor) ได้แก่ ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล ประกันไวรัสโควิด-19 และประกันภัยไข้เลือดออก สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/36xVz7l
นอกจากนี้ บริษัทยังมีประกันแบบกึ่งออนไลน์ อย่างประกันภัยอุบัติเหตุสำหรับพนักงานขนส่งสินค้า (เดลิเวอรี่) ซึ่งปกติแผนประกันอุบัติเหตุส่วนใหญ่จะยกเว้นอาชีพที่เกี่ยวข้องกับการใช้รถจักรยานยนต์ แต่บริษัทมองว่าด้วยสถานการณ์ปัจจุบันผู้ประกอบอาชีพนี้มีค่อนข้างมากและอำนวยความสะดวกให้กับผู้บริโภคทำให้สะดวกในการจับจ่ายซื้อสินค้ากัน จึงทำแผนประกันภัยสำหรับพนักงานเดลิเวอรี่ขึ้นมาเฉพาะ เพื่อให้ความดูแลพนักงานกลุ่มนี้ ด้วยเบี้ยประกันเริ่มต้นเพียง 350 บาทต่อปี
ทั้งนี้ เจพี ประกันภัย ได้สำรวจปัญหา (Pain Point) ของการซื้อประกันออนไลน์ และพบว่าลูกค้าต้องการได้รับกรมธรรม์ภายในวันที่ทำรายการ และมีทางเลือกระบบการชำระเงินที่หลากหลาย ซึ่งเจพี ประกันภัย เตรียมความพร้อมระบบดังกล่าวไว้เรียบร้อยเมื่อลูกค้าทำรายการซื้อสินค้าของบริษัทจะได้รับกรมธรรม์ภายใน 24 ชั่วโมง โดยสามารถเลือกชำระเงินได้ผ่านบัตรเครดิต ผ่านเคาน์เตอร์ธนาคาร หรือโมบายแบงก์กิ้งเพียงแค่นำ QR Code ไปสแกนชำระเงิน และบริษัทจะมีระบบแจ้งเตือนเมื่อกรมธรรม์ของลูกค้าจะหมดอายุอีกด้วย
“ช่วงที่ผ่านมาเราได้ทดลองระบบการขายกรมธรรม์ออนไลน์อย่างประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลและการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 นั้น ถึงแม้ว่าจะมีการติดขัดของการเปิดขายก็ตาม แต่ทีมไอทีและทีมมาร์เก็ตติ้งมีการปรับปรุงระบบอยู่ตลอด ทำให้สามารถแก้ไขปัญหาหลังบ้านได้แบบทันท่วงที”
นางสาวศศิวิมล กล่าวต่อว่า ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออกที่กำลังระบาดในช่วงฤดูฝน บริษัทจึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยไข้เลือดออก เบี้ยประกันเริ่มต้นเพียง 100 บาทต่อปี แต่ให้ความคุ้มครอง ในส่วนของค่ารักษาพยาบาลกรณีเป็นผู้ป่วยในตั้งแต่ 3 วันขึ้นไป ด้วยวงเงิน 30,000 บาทต่อครั้ง และเงินชดเชยรายวันกรณีเป็นผู้ป่วยใน ถึงวันละ 1,500 บาท สูงสุด 30 วัน โดยสามารถซื้อออนไลน์และรับกรมธรรม์ทันทีภายใน 24 ชั่วโมง
“อย่างไรก็ดี เจพี ประกันภัย ยังมีการนำผลิตภัณฑ์ของบริษัทมาประชาสัมพันธ์ผ่านกลุ่ม synergy อาทิบริษัทในเครือเจมาร์ท ที่กระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ และพันธมิตรของต่างๆ ของบริษัท ซึ่งจะทำให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น โดยที่ลูกค้าสามารถมองหาผลิตภัณฑ์ประกันภัยของบริษัทได้ตามหน้าร้านหรือสาขาของกลุ่มเจมาร์ท, Jas Urbun และบริษัท เจเอ็มที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) รวมถึงพันธมิตรได้สะดวกยิ่งขึ้น” นางสาวศศิวิมล กล่าวในตอนท้าย