ดร.นิพนธ์ บุญเดชานันทน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAUP เปิดเผยว่า บริษัทฯ รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งภายหลังที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้ประกาศผลคัดเลือกให้ WHAUP เป็นหนึ่งในหลักทรัพย์ที่ใช้สำหรับคำนวณดัชนี SET 100 และ SETHD ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2563 (1 กรกฎาคม -31 ธันวาคม 2563) เป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นในการขยายธุรกิจพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการบริหารจัดการน้ำรูปแบบใหม่ และการให้บริการด้านพลังงานด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ ในธุรกิจพลังงาน
ปัจจุบันบริษัทฯ ยังคงเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อการบริหารจัดการน้ำรูปแบบใหม่ๆ ทั้งในประเทศไทยและเวียดนาม พร้อมทั้งการให้บริการด้านทรัพยากรน้ำหลากหลายรูปแบบ ทั้งการผลิตน้ำ Reclaimed Water และการผลิตน้ำปราศจากแร่ธาตุ (Demineralized Water) เพื่อตอบโจทย์ทั้งในด้านการลดผลกระทบจากภัยแล้งในปีนี้ และความยั่งยืนในการใช้น้ำในระยะกลาง-ยาวเพิ่มขึ้น แม้ว่าในช่วงครึ่งปีแรกจะประสบเหตุการณ์จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และปัญหาภัยแล้งก็ตาม
ส่วนการเข้าไปลงทุนในประเทศเวียดนาม หลังจากการเข้าไปซื้อหุ้นบริษัทน้ำ 2 แห่งในปี 2562 ที่ผ่านมา ในปี 2563 จะทยอยรับรู้ผลการดำเนินงานเข้ามาเต็มปี พร้อมทั้งยังคงมองหาโอกาสการลงทุนในโครงการสาธารณูปโภคใหม่ๆ เพิ่มขึ้น เพื่อเพิ่มศักยภาพการเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ (WHAUP) กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้บริษัทฯ มีแผนที่จะพัฒนาด้านการให้บริการในธุรกิจพลังงานหมุนเวียนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าจะมีการทยอยเซ็นสัญญาติดตั้ง Solar Rooftop ให้กับลูกค้าเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ยอดกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนการถือหุ้นของ WHAUP ณ ปัจจุบันเพิ่มขึ้นแตะระดับ 597 เมกะวัตต์ ทำให้ทะลุเป้าหมายกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนการถือหุ้นที่บริษัทฯ วางไว้ตั้งแต่ต้นปีที่ระดับ 591 เมกะวัตต์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่งผลให้บริษัทฯคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีกำลังผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนการถือหุ้นแตะระดับ 600 เมกะวัตต์
“บริษัทฯ มั่นใจว่าในครึ่งปีหลังของปี 2563 ภาพรวมธุรกิจของ WHAUP จะสามารถฟื้นตัวได้อย่างโดดเด่นมากขึ้น เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก เพราะยอดขายน้ำที่กลับมาเติบโตเพิ่มขึ้น บวกกับยังมีการให้บริการการบริหารจัดการน้ำรูปแบบใหม่ๆที่เพิ่มมูลค่ามากขึ้น และการพัฒนาด้านการให้บริการในธุรกิจพลังงาน โดยเฉพาะ Solar Rooftop เพิ่มขึ้นจนทำให้มีกำลังผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนการถือหุ้นสูงกว่าเป้าที่วางไว้ตั้งแต่ต้นปีไปแล้ว และคาดว่าสิ้นปีนี้จะมีกำลังผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนการถือหุ้นแตะระดับ 600 เมกะวัตต์” ดร.นิพนธ์ กล่าวทิ้งท้าย