สมาชิกใหม่จากคอลเลคชั่นซานโตส-ดูมงต์ เรือนเวลาในตำนานจากคาร์เทียร์

อังคาร ๓๐ มิถุนายน ๒๐๒๐ ๑๔:๐๖
เราอาจนึกว่าเราทราบทุกเรื่องเกี่ยวกับเรือนเวลาซานโตส เดอ คาร์เทียร์ (Santos de Cartier) แล้ว เช่น เป็นนาฬิกาข้อมือที่หลุยส์ คาร์เทียร์ (Louis Cartier) สร้างสรรค์ในปี 1904 เป็นพิเศษเพื่ออัลแบร์โต้ ซานโตส-ดูมงต์ (Alberto Santos-Dumont) สหายนักบินของหลุยส์ เพื่อให้ง่ายต่อการดูเวลาขณะที่ขับเครื่องบิน นาฬิการุ่นนี้ยังเป็นนาฬิกาเรือนแรกสำหรับสุภาพบุรุษที่ทำให้ผู้คนจดจำด้วยหน้าปัดทรงสี่เหลี่ยมพร้อมน็อตบนขอบตัวเรือนที่สะดุดตาตั้งแต่แรกเห็น และเราก็ทราบว่านาฬิกาเรือนนี้เป็นสัญลักษณ์แห่งความแข็งแกร่ง เป็นเสมือนเครื่องประดับแห่งความก้าวล้ำ ทว่าเรามิอาจคาดเดาได้เลยว่ารูปทรงอันคลาสสิกไร้กาลเวลานั้นยังคงสร้างแรงบันดาลใจได้อย่างไม่หยุดยั้งในการตีความเพื่อสร้างเรือนเวลาชิ้นใหม่

วันนี้คาร์เทียร์ (Cartier) แบรนด์เครื่องประดับและนาฬิกาสัญชาติฝรั่งเศส ได้เปิดตัวนาฬิกาซานโตส-ดูมงต์ (Santos-Dumont) ที่ได้รับการปรับโฉมและถ่ายทอดสไตล์อันเรียบโก้ของสหายนักบิน ซานโตส-ดูมงต์ ผ่านเรือนเวลาขนาดใหญ่พิเศษ (Santos-Dumont XL) ทั้งหมดสามรูปแบบ และนาฬิกาซานโตส เดอ คาร์เทียร์ รุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่นสลักหลังตัวเรือนมีเพียง 30 เรือน บรรจุในกล่องพิเศษ แต่ละเรือนขับเคลื่อนด้วยกลไกไขลาน 430 MC

เรือนเวลา ซานโตส-ดูมงต์ ขนาด XL (Santos-Dumont XL)

นาฬิกาซานโตส-ดูมงต์ รุ่น XL (Santos-Dumont XL) พลิกโฉมจากรุ่นดั้งเดิมทั้งดีไซน์และสัดส่วน ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานของคอลเลคชั่น เส้นสายที่บริสุทธิ์และความงามของกลไกการขับเคลื่อนแบบไขลาน จึงทำให้นาฬิการุ่นนี้เหมาะกับผู้ที่หลงรักในศาสตร์แห่งนาฬิกา

รูปแบบใหม่ของคอลเลคชั่นเรือนเวลาอันเป็นตำนาน ดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ของนาฬิกาซานโตส-ดูมงต์ (Santos-Dumont) ยังฉายชัดอย่างครบถ้วนในรุ่นขนาดใหญ่พิเศษ หน้าปัดกว้าง เข็มนาฬิกาทรงดาบ เม็ดมะยมที่ประดับด้วยพลอยคาโบชงสีน้ำเงิน แผ่นหน้าปัดสีเงินผิวซาตินลาย Sunray ไปจนถึงตัวเรือนด้านหลังที่สลักตัวย่อ S-D อันเป็นสัญลักษณ์ของนักบินผู้เลื่องชื่อ นามอัลแบร์โต ซานโตส-ดูมงต์ (Alberto Santos-Dumont) ผู้เป็นแรงบันดาลใจแห่งการรังสรรค์เรือนเวลาคอลเลคชั่นซานโตส เดอ คาร์เทียร์ (Santos de Cartier)กลไก 430 MC Calibre: ตัวเลือกที่ลงตัวสำหรับผู้ที่หลงไหลในเรือนเวลา เพื่อสร้างความสมดุลระหว่างฟังก์ชั่นการใช้งานและรูปทรงของนาฬิกาทั้งด้านในและด้านนอก ฝ่ายรังสรรค์เรือนเวลาของคาร์เทียร์เลือกกลไกล 430 MC Calibre ระบบไขลานอันเป็นเลิศ

เรือนเวลาซานโตส-ดูมงต์รุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่นมาพร้อมตัวเรือนสลัก

“ก้าวล้ำไปข้างหน้า” อาจจะเป็นคติประจำตัวของอัลแบร์โต้ ซานโตส-ดูมงต์ (Alberto Santos-Dumont) ซึ่งผลักดันให้เขาประดิษฐ์เครื่องบินที่ละเอียดอ่อนและเปี่ยมไปด้วยสุนทรียะเพื่อความสุขของเขาและตอบสนองต่อการจับตามองของผู้คนในปารีส เครื่องจักรกลที่หลอมรวมความฝันและเทคโนโลยีเข้าไว้ด้วยกัน มนุษย์และท้องฟ้า นี่คือเรื่องราวที่ถ่ายทอดผ่านนาฬิกาซานโตส-ดูมงต์ (Santos-Dumont) โฉมใหม่แต่ละเรือนนั้นขับเคลื่อนไปตามจังหวะของกลไกไขลาน 430 MC อีกทั้งยังสลักด้านหลังตัวเรือนเป็นรูปอากาศยานที่ซานโตส-ดูมงต์ออกแบบด้วยตัวของเขาเอง คาร์เทียร์ได้เปิดตัวเรือนเวลาโฉมใหม่นี้เป็นครั้งแรกเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาผ่านเว็บไซต์ของคาร์เทียร์

เรือนเวลาซานโตส-ดูมงต์ เลอเบรซิล (The “Le Bresil” Santos -Dumont)

รุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่น 100 เรือน ตัวเรือนแพลตินัม ตัวเลขโรมันทำจากวัสดุขัดเงาสีเมทัลลิก เข็มนาฬิกาทรงดาบและทับทิมประดับที่เม็ดมะยมสำหรับไขลาน พร้อมตัวเลขประจำเรือนเวลา เรือนเวลาสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่การันตีได้จากการหลอมรวมความเป็นเลิศเข้าด้วยกันทั้งตัวเรือนแพลตินัมและทับทิมตกแต่งเม็ดมะยมสำหรับไขลาน ที่ด้านหลังเรือนสลักเป็นรูปเลอ เบรซิล “Le Bresil” อากาศยานที่ซานโตส ดูมงต์สร้างสรรค์ขึ้นในปี 1898 ซึ่งเขาให้คำนิยามมันว่า “ขนาดเล็กที่สุด” และ “สวยที่สุด” บินขึ้นท้องฟ้าต่อหน้าสาธารณะชนเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 1898 หลังจากนั้นซีรีส์ของอากาศยานที่เขาประดิษฐ์ก็ถูกพัฒนาขึ้นเรื่อยมา จาก 1 ไป 22 ซึ่งทยอยเปิดตัวในระหว่างปี 1898 จนถึง 1909 สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเขาที่จะท้าทายกฎของแรงโน้มถ่วง

เรือนเวลา ซานโตส-ดูมงต์ ลา บาลาเดิส (The “La Baladeuse” Santos-Dumont)

รุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่น 300 เรือน ตัวเรือนเยลโลว์โกลด์ หน้าปัดสีแชมเปญ เม็ดมะยมประดับแซฟไฟร์ เข็มนาฬิการูปทรงดาบสีน้ำเงิน สายหนังอัลลิเกเตอร์สีเขียวอมน้ำตาล พร้อมตัวเลขลำดับของเรือนเวลา ฝาหลังสลักเป็นรูปลา บาลาเดิส “La Baladeuse”หรือ นูเมโรเนิฟ “n?9” เรือบินที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ซึ่งซานโตส-ดูมงต์ (Santos-Dumont) ขับเคลื่อนผ่านน่านฟ้าฝรั่งเศสในปี 1903 อากาศยานขนาดเล็กหนึ่งที่นั่ง “ลา บาลาเดิส” ถูกออกแบบเพื่อใช้ในการเดินทางส่วนตัวของซานโตสผู้มีความประสงค์ให้มันเป็นประโยชน์สำหรับคนจำนวนมากในภายภาคหน้า “จะต้องมีสักวันที่ยานพาหนะทางอากาศนี้สามารถขนส่งนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจระหว่างประเทศได้” คำพูดจากซานโตส-ดูมงต์ (Santos-Dumont) ที่สะท้อนปณิธานอันแน่วแน่ของเขา

เรือนเวลา ซานโตส-ดูมงต์ นูเมโรกั้กโตสบิส (The “n?14 bis” Santos-Dumont)

รุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่น 500 เรือนขอบตัวเรือนเยลโลว์โกลด์บนตัวเรือนสตีล หน้าปัดสีเทาเข้ม เม็ดมะยมประดับสปิเนลสีน้ำเงิน เข็มรูปดาบตัวเรือนสตีลเคลือบทอง พร้อมตัวเลขกำกับเรือนเวลา ที่ฝาหลังสลักเป็นรูป “n?14 bis” อากาศยานลำนี้ได้ถูกขนานนามว่า “Kite of Compartments” หรือว่าวที่ประกอบขึ้นจากช่องสี่หลี่ยม นักบินนั้นจะต้องยืนอยู่ในลำตัวเครื่องบินซึ่งเชื่อมต่อกับหางเสือและปีกด้วยสายเคเบิล หลังจากการทดลองบินผ่านความล้มเหลวมาหลายต่อหลายครั้งในที่สุดในวันที่ 23 ตุลาคม 1906 “n?14 bis” นั้นก็ได้รับรางวัล the Archdeacon Cup และหลังจากนั้นในวันที่ 12 พฤศจิกายน ก็ได้รับรางวัลจาก the Aero-Club อัลแบร์โต้จึงเป็นนักบินคนแรกที่ทำการบินที่ความสูง 220 เมตรได้สำเร็จและได้รับการรับรองจากองค์กรการบิน

เรือนเวลาที่สร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อความภูมิฐานแห่งสุภาพบุรุษ

นาฬิกาซานโตส-ดูมงต์ ลา เดอมัวเซล (The Santos-Dumont “La Demoiselle”) มาพร้อมกล่องไม้เคลือบแล็กเกอร์อันหรูหราและแอคเซสซอรี่อันล้ำค่า ขนาดตัวเรือนใหญ่พิเศษรังสรรค์ขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองความโก้ในแบบสุภาพบุรุษเพียง 30 เรือน ด้านหลังสลักเป็นรูปลา เดอมัวเซล “La Demoiselle” อากาศยานที่มีรูปแบบสง่างามที่สุดของซานโตส นาฬิกาตัวเรือนแพลตินัมประดับทับทิมเจียระไนแบบคาโบชองสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อสะท้อนถึงตัวตนของ อัลแบร์โต ซานโตส-ดูมงต์ (Alberto Santos-Dumont) ผู้บุกเบิกสไตล์สุภาพบุรุษสุดเนี้ยบ (Dandy) เขามักปรากฎตัวพร้อมหมวกปานามาคู่กายเสมอ คาร์เทียร์อุทิศงานดีไซน์ให้กับสายนาฬิกาพิเศษที่ทำจากหญ้าสานที่ใช้ทำหมวกปานามา และยังนำมาตกแต่งบนหน้าปัดอีกด้วย สี่เหลี่ยมตรงกลางที่โดดเด่นด้วยลายกราฟิกของหญ้าสานบนหน้าปัดสะท้อนถึงหมวกใบโปรดของอัลแบร์โต ซานโตส-ดูมงต์ได้เป็นอย่างดี เลขโรมันหมายเลข 7 ที่ปกติซ่อนโลโก้คาร์เทียร์ไว้ ได้ถูกแทนที่ด้วยอักษรคำว่าซานโตส “SANTOS” อย่างลงตัว

สร้างสรรค์ในปี 1908 ลา เดอมัวเซล “La Demoiselle” คือผลงานการสร้างสรรค์อากาศยานที่สมบูรณ์แบบที่สุดของอัลแบร์โต้ และยังเป็นอากาศยานลำแรกที่ถูกนำมาผลิตเพื่อใช้งานจริง ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของยุคสมัยใหม่อย่างแท้จริง “เราล่องลอยไปในอากาศมองเห็นยุโรปอยู่ใต้เท้าราวกับว่ากำลังมองดูแผนที่ภูมิประเทศที่กางออก ล่องลอยอยู่ระหว่างดวงดาวและผืนดิน”

สาวกของนาฬิกาซานโตส เดอ คาร์เทียร์ สามารถจับจองนาฬิการุ่นใหม่นี้ได้ที่ คาร์เทียร์บูติค สยามพารากอน ดิเอ็มโพเรียมและไอคอนสยาม ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version