กลุ่มบริษัทอิตัลไทย เร่งแผนฟื้น “ท่องเที่ยว–บริการ” เดินหน้าลงทุนขยายโรงแรมใหม่ อีก 12 แห่ง พร้อมเสริมทัพ “ก่อสร้าง–เครื่องจักรกล” ฝ่ามรสุมโควิด-19

พุธ ๐๑ กรกฎาคม ๒๐๒๐ ๑๓:๕๘
กลุ่มบริษัทอิตัลไทย เร่งแผนฟื้น “ท่องเที่ยว–บริการ” เดินหน้าลงทุนขยายโรงแรมใหม่

อีก 12 แห่ง พร้อมเสริมทัพ “ก่อสร้าง–เครื่องจักรกล” ฝ่ามรสุมโควิด-19

กลุ่มบริษัทอิตัลไทย เร่งฟื้นธุรกิจ “ท่องเที่ยว–บริการ” และเสริมทัพ “ก่อสร้าง–เครื่องจักรกล” หลังรัฐคลายล็อกดาวน์ ประเมินต้นปี 64 นักท่องเที่ยวต่างชาติเริ่มกลับมา เดินหน้าลงทุนตามแผนเปิด 12 โรงแรมใหม่รับอนาคต ชี้ “รัฐ-เอกชน” ต้องปรับตัวขนานใหญ่ พร้อมเสนอรัฐบาลต่ออายุมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการถึงสิ้นปี

นายยุทธชัย จรณะจิตต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทอิตัลไทย เปิดเผยภาพรวมธุรกิจหลังรัฐบาลคลายล็อกดาวน์ว่า กลุ่มบริษัทอิตัลไทยเป็นหนึ่งในผู้ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 แต่ด้วยพอร์ตธุรกิจที่มีหลากหลายด้านทำให้ภาพรวมยังคงเดินหน้าไปต่อได้ แม้ธุรกิจเกี่ยวกับท่องเที่ยวได้รับผลกระทบมาก แต่ยังมีธุรกิจก่อสร้างเข้ามาช่วยประคอง

จากวิกฤตโควิด-19 บริษัทฯ ประเมินผลกระทบแต่ละกลุ่มธุรกิจในระดับที่ต่างกันดังนี้ 1.กลุ่มกระทบระดับปานกลาง ได้แก่ “ธุรกิจก่อสร้าง” โดย บริษัท อิตัลไทยวิศวกรรม ที่ให้บริการรับเหมางานวิศวกรรมงานระบบและก่อสร้าง แม้ในส่วนงานอาคารสูงหลายโครงการจะชะลอตัวแต่ก็ไม่ถึงกับหยุดชะงัก ขณะเดียวกันยังมีงานในตลาดกลุ่มอื่นที่ได้รับผลกระทบน้อย เช่น งานสถานีไฟฟ้า โรงงานอุตสาหกรรมและปิโตรเคมี

2.กลุ่มกระทบระดับสูง “ธุรกิจท่องเที่ยวและบริการ” เช่น โรงแรม ร้านอาหาร ศูนย์การค้า ต้องยอมรับว่าตั้งแต่ทำธุรกิจกว่า 50 ปีครั้งนี้ถือว่าหนักที่สุด การปิดโรงแรมชั่วคราวจากล็อกดาวน์ทำให้รายได้ในเครือทั้งไทยและต่างประเทศลดลงเกือบ 60–70% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน แต่เพราะได้มีการกระจายพอร์ตธุรกิจโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ทั้ง 4-5 ดาว ทำให้ยังมีรายได้จากผู้เช่าระยะยาวและแขกผู้ประสงค์พักช่วงโควิด-19 เข้ามาต่อเนื่อง พร้อมกันนี้ใช้เป็นโอกาสปิดปรับปรุงโรงแรมหลายแห่งในกรุงเทพฯ อาทิ อมารี วอเตอร์เกท กรุงเทพฯ แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ รวมถึงจัดอบรมพนักงานผ่านแพลทฟอร์มออนไลน์พัฒนาทักษะให้พร้อมรับมือภาวะโควิด-19 เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว และล่าสุดจัดโปรโมชั่นกระตุ้นการท่องเที่ยวต่อเนื่อง นอกจากนี้ได้เปิดตัวโครงการ “ออนิกซ์ คลีน” เพื่อยกระดับมาตรการปฏิบัติการด้านสุขอนามัยและความปลอดภัยที่ได้ประกาศใช้กับโรงแรมทุกแห่งในเครือ ภายใต้แบรนด์ อมารี โอโซ่ และชามา รวมถึงโรงแรมโอเรียนเต็ล เรสซิเดนซ์ กรุงเทพฯ

“เครือออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป ยังคงเดินหน้าเปิดโรงแรมแห่งใหม่อย่างน้อย 12 แห่งภายใน 12 เดือนข้างหน้า พร้อมขยายเครือข่ายทั่วเอเชียแปซิฟิกรวมถึงจีน เพราะมองว่าถึงอย่างไรในอนาคตการเดินทางท่องเที่ยวก็ต้องกลับมา”

ขณะเดียวกัน “ธุรกิจเครื่องจักรกล” โดย บริษัท อิตัลไทยอุตสาหกรรม ถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ได้รับผลกระทบมากเช่นเดียวกับตลาดของกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ทั้งนี้ได้ปรับกลยุทธ์ด้วยการจัดหาเครื่องจักรกลเข้ามาเพิ่มจากที่มี รถปูยางมะตอย แพลนท์ยางมะตอย รถปูคอนกรีตสำหรับกลุ่มงานถนน รถบรรทุกพลังงานไฟฟ้า และแท่นเจาะสำหรับกลุ่มงานเหมือง รวมถึงเสริมตลาดรอง เช่น ภาคการเกษตร นิคมอุตสาหกรรมด้วย และได้ขยายสาขาไปยังเชียงใหม่เพื่อรองรับตลาดทางภาคเหนือ ทั้งอุตสาหกรรมขนาดกลาง ขนาดใหญ่ และภาคการเกษตร

นายยุทธชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า วิกฤตโควิด-19 เป็นความท้าทายใหม่ที่ผู้ประกอบการทั่วโลก ต้องมาทบทวนทิศทางธุรกิจว่าจะตั้งรับ หรือ สู้อย่างไรให้อยู่รอด โดยกลุ่มธุรกิจที่มี Value Chain เกี่ยวข้องต่างประเทศอาจยังมีอุปสรรคลากยาวถึงต้นปีหน้า ซึ่ง 3 ตัวแปรสำคัญ คือ “การควบคุมผู้ติดเชื้อ นโยบายกระตุ้นของภาครัฐประเทศต่างๆ และความสำเร็จของวัคซีน" ทั้งนี้หากไม่เกิดการระบาดรอบใหม่ที่รุนแรงมาก คาดเริ่มทยอยกลับมาตั้งแต่ไตรมาส 1/2564 ส่วนธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับดีมานด์ซัพพลายในประเทศ คาดกลับมาได้ตั้งแต่ไตรมาส 4 ปีนี้

แม้รัฐบาลคลายล็อกดาวน์ แต่ตลาดท่องเที่ยวในประเทศอาจยังไม่กลับมาคึกคัก เพราะวิกฤตนี้ส่งผลให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนโดยสิ้นเชิง ความสะอาด สุขอนามัยมีผลต่อการตัดสินใจมากขึ้น และการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติต้องเฝ้าระวังมากขึ้นด้วย เพราะถ้าเกิดระบาดรอบใหม่จะกลายเป็น worst case ฉุดเศรษฐกิจลงจุดต่ำสุดอีกครั้ง

“นโยบายภาครัฐและเอกชนคงต้องปรับตัวอย่างต่อเนื่อง เอกชนต้องพร้อมปรับตามความต้องการลูกค้าระยะสั้นมากขึ้นแต่จะมีผลต่อแผนงานระยะยาวต่อไปด้วย โดยธุรกิจท่องเที่ยวทั่วโลกและธุรกิจสายการบิน ยังต้องใช้เวลาฟื้นตัวอย่างน้อย 12-18 เดือน หรือ จนกว่าจะมีวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 สำหรับตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติในประเทศไทย มองว่าอาจต้องใช้เวลาถึง 24 เดือนถึงจะกลับมามีปริมาณเทียบเท่ากับเมื่อปี 2561 และเมื่อสถานการณ์เป็นปกติเศรษฐกิจโดยรวมก็จะปรับตัวแบบก้าวกระโดด”

ในฐานะผู้ประกอบการ อยากเสนอให้รัฐบาลขยายมาตรการช่วยเหลือปัจจุบันให้มีผลถึง 31 ธันวาคม 2563 เช่น มาตรการลดอัตราเงินสมทบประกันสังคมของนายจ้าง การนำค่าจ้างพนักงานมาหักรายจ่ายได้ 3 เท่า รวมถึงการออกนโยบายหักลดหย่อนภาษีเพิ่มเติมสำหรับผู้เข้าพักในโรงแรมต่างๆ ทั่วประเทศไทยในปีภาษี 2563-2564

ส่วนมาตรการ “เราเที่ยวด้วยกัน และ กำลังใจ” ขอให้รัฐบาลเร่งดำเนินการเร็วขึ้นเพื่อผู้ประกอบการกลับมาประกอบกิจการได้อีกครั้ง รวมถึงพิจารณาเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาได้ โดยอาจเริ่มจาก Travel bubble ก่อน ภายใต้นโยบายการควบคุมทางสาธารณสุขเพื่อป้องกันการระบาดซ้ำในประเทศไทย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๙:๕๕ ดร.เอ้ สุดยอดผู้นำด้าน AI เชื่อมั่น รพ.พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร จะปฏิวัติการแพทย์ไทย ด้วย AI พร้อมความตั้งใจอันแน่วแน่
๐๙:๐๓ รมว.นฤมล ผลักดันกฎระเบียบว่าด้วยสินค้าที่ปลอดจากการตัดไม้ทำลายป่าของสหภาพยุโรป (EUDR)
๐๙:๑๖ เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ร่วมกับ สภากาชาดไทย ชวนร่วมบริจาคโลหิต 26 ธันวาคมนี้ ชั้น 7 โซน A เพิ่มโลหิต เพิ่มชีวิต
๐๙:๔๗ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จัดเต็ม!! ลงพื้นที่เร่งลดความเหลื่อมล้ำ สร้างโอกาส สร้างชีวิตแก่ชาวหนองคายอย่างยั่งยืน
๐๙:๕๕ มูลนิธิอายิโนะโมะโต๊ะ ส่งมอบอาคารโรงอาหารอายิโนะโมะโต๊ะ ให้แก่ โรงเรียนบ้านดอนมะกอก จังหวัดสุราษฎร์ธานี
๐๙:๐๕ กทม. เข้มงวดโครงการก่อสร้างคอนโดฯ ในซอยสุขุมวิท 93 ปฏิบัติตามมาตรการ EIA
๐๙:๕๐ การเคหะแห่งชาติตั้งเป้าสร้างที่อยู่อาศัยรองรับสังคมผู้สูงอายุ
๐๙:๒๘ ทำอย่างไรจึงจะทำให้มีการใช้ generative AI มากขึ้น
๐๙:๔๐ NocNoc จับมือ กฟผ. ส่งความสุขปีใหม่ให้คนรักบ้าน มอบส่วนลดสินค้าประหยัดไฟเบอร์ 5 สูงสุด 500 บาท เมื่อช้อปผ่าน NocNoc Chat Shop ทัก-ช้อป-ลด เริ่ม 25 ธ.ค. 67
๐๙:๑๔ Warrior ตั้ม ศุภกิตติ์ หรือ ตั้ม โทมัส ทอม จากทีมมาสเตอร์ ดร.อั้ม อธิชาติ คว้าชัย The Social Warrior คนแรกของประเทศไทย