โดยคุณปรีดา ได้กล่าวในตอนหนึ่งว่า “จากสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยที่ส่งผลต่อผู้คน เศรษฐกิจและอุตสหกรรมเครื่องประดับ สามารถแบ่งสถานการณ์ออกเป็น 2 ช่วงเวลา คือ ช่วงโควิด เป็นช่วงที่เรายังไม่มีวัคซีนรักษาโรค และช่วงหลังโควิดเป็นช่วงเวลาที่มีการพัฒนาวัคซีนสำเร็จแล้ว ช่วงโควิดเป็นช่วงที่ผู้คนระมัดระวังในเรื่องของการใช้จ่ายอย่างมาก เมื่อสองเดือนที่ผ่านมา อาหารและยาเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นที่สุด แต่ในข่วงนี้สถานการณ์การจับจ่ายในการซื้อสินค้าราคาแพงเริ่มดีขึ้น คนเริ่มออกมาซื้อสินค้าเครื่องประดับกันมากขึ้น เช่น ทอง เห็นได้จากการที่ร้านค้ามีคนหนาแน่นขึ้นเพราะคนเห็นโอกาสในการลงทุนซื้อทอง ซึ่งเป็นสินค้าที่อาจมีมูลค่าสูงขึ้นได้ โดยเชื่อว่าหลังจากที่มีการคิดค้นวัคซีนได้สำเสร็จแล้วทุกอย่างจะกลับไปเป็นเหมือนเดิม ซึ่งอาจเป็นช่วงกลางปีหน้า ในส่วนของมาตรการของรัฐบาลและเศรษฐกิจ มองว่าต้องการให้เปิดประเทศเพื่อเพิ่มการส่งออก เมื่อเห็นสัญญาณที่ดีแล้ว ประเทศอื่นๆก็จะได้เริ่มทำตาม” นอกจากนี้ คุณปรีดา ได้กล่าวถึงกลยุทธ์ทางธุรกิจ ที่เน้นความสำคัญไปยังการใช้เทคโนโลยี โดยกล่าวว่า เทคโนโลยีมีความสำคัญอย่างมากต่ออุตสาหกรรมและการใช้ชีวิต คนที่ใช้เทคโนโลยีเป็นจะมีโอกาสในชีวิตมากกว่าคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นการทำสิ่งใดก็ตาม โดยการเสวนาดังกล่าว จัดขึ้นโดย The Economic Times – Edge ประเทศอินเดีย
- ธ.ค. ๒๕๖๗ บมจ. แพรนด้า จิวเวลรี่ ทำบุญครบรอบ 47 ปี
- ธ.ค. ๒๕๖๗ แพรนด้าฯ จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2562
- ธ.ค. ๒๕๖๗ คุณปรีดา ร่วมไลฟ์สดผ่านอินสตราแกรม “Thai craftsmanship and manufacturing”