ตั้งคณะกรรมการติดตามแผนจัดการเรียนรู้ รร.สังกัด กทม. - เข้มงวดมาตรการป้องกันโควิด-19

ศุกร์ ๐๓ กรกฎาคม ๒๐๒๐ ๐๙:๐๔
นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงกรณีการตรวจประเมินความพร้อมสถานศึกษาเกี่ยวกับมาตรการป้องกันโควิดหลัก 20 ข้อ และมาตรการเสริม 24 ข้อ ว่า กรุงเทพมหานคร ได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจติดตามแผนการจัดการเรียนรู้ของโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แบ่งออกเป็น 3 คณะ ประกอบด้วย โรงเรียนในกลุ่มกรุงธนเหนือและกรุงธนใต้ โรงเรียนในกลุ่มกรุงเทพเหนือ กรุงเทพกลาง กรุงเทพใต้ และโรงเรียนในกลุ่มกรุงเทพตะวันออก โดยคณะกรรมการฯ แต่ละคณะมีหน้าที่กำกับติดตาม ดูแลรับผิดชอบให้คำแนะนำการจัดการเรียนรู้ของโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร พร้อมทั้งสร้างความเข้าใจให้สถานศึกษา นักเรียนและผู้ปกครองให้เข้าใจมาตรการป้องกันโรค ตลอดจนรับฟังปัญหาหรืออุปสรรคของโรงเรียน เพื่อเตรียมความพร้อมเปิดภาคเรียน รวมถึงปรับปรุงและพัฒนาให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสอดรับตามแนวทางและมาตรการควบคุมโรคที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดอย่างเคร่งครัด ขณะเดียวกันคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานครได้ประชุมเตรียมความพร้อมการเปิดภาคเรียนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 พร้อมมอบนโยบายด้านการศึกษาและเน้นย้ำให้ทุกโรงเรียนมีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยกำหนดเวลาในการความสะอาดบริเวณพื้นที่ใช้สอยร่วมกันในโรงเรียน เช่น ห้องน้ำ ห้องอาหาร โต๊ะ เก้าอี้ อย่างสม่ำเสมอ พร้อมทั้งจัดเตรียมและซักซ้อมแผนเผชิญเหตุ กรณีพบผู้ป่วยในโรงเรียน รวมทั้งขอให้บุคลากรทางการศึกษาในโรงเรียนเป็นแบบอย่าง “การ์ดอย่าตก” พร้อมทั้งให้กำลังใจข้าราชการครูที่ต้องทำงานอย่างหนักในภาวะ New normal

ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนั้น สำนักอนามัย กทม. ยังได้ชี้แจงแนวทางดำเนินการและมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 ให้กับทางสถานศึกษาทุกแห่ง เพื่อให้ครูและเจ้าหน้าที่สามารถดำเนินการตามมาตรการดังกล่าวได้อย่างถูกต้อง ซึ่งครูจะต้องบันทึกการเจ็บป่วยของเด็กทุกวัน โดยเฉพาะโรคระบบทางเดินหายใจ เน้นย้ำกลุ่มอาการเสี่ยง เช่น ไข้ ไอ จาม ซึ่งเป็นอาการใกล้เคียงกลุ่มโรคโควิด-19 ทั้งนี้ หากพบเด็กเจ็บป่วยพร้อมกัน 5 รายขึ้นไป ครูต้องรายงานไปยังหน่วยงานสาธารณสุขที่จับคู่กับโรงเรียนให้เข้าไปควบคุมโรคในโรงเรียนโดยเร็ว อีกทั้ง ยังได้เตรียมแผนรองรับกรณีพบผู้เรียนเป็นผู้ป่วยยืนยันโควิด-19 ต้องมีช่องทางติดต่อกับผู้ปกครองและเจ้าหน้าที่สาธารณสุข มีการจัดพื้นที่แยกส่วน ระบบการส่งต่อสถานบริการสาธารณสุข การปิดห้องเรียน หรือปิดสถานศึกษา และการทำความสะอาด หากมีเด็กอาการใกล้เคียงกลุ่มโรคเกี่ยวกับโควิด-19 เบื้องต้นต้องแยกเด็กออกจากชั้นเรียนมาพื้นที่แยกส่วน เพื่อให้ทีมสาธารณสุขลงพื้นที่ดำเนินการ และมั่นใจว่าสามารถควบคุมและจำกัดวงของโรคได้

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๙:๕๕ ดร.เอ้ สุดยอดผู้นำด้าน AI เชื่อมั่น รพ.พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร จะปฏิวัติการแพทย์ไทย ด้วย AI พร้อมความตั้งใจอันแน่วแน่
๐๙:๐๓ รมว.นฤมล ผลักดันกฎระเบียบว่าด้วยสินค้าที่ปลอดจากการตัดไม้ทำลายป่าของสหภาพยุโรป (EUDR)
๐๙:๑๖ เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ร่วมกับ สภากาชาดไทย ชวนร่วมบริจาคโลหิต 26 ธันวาคมนี้ ชั้น 7 โซน A เพิ่มโลหิต เพิ่มชีวิต
๐๙:๔๗ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จัดเต็ม!! ลงพื้นที่เร่งลดความเหลื่อมล้ำ สร้างโอกาส สร้างชีวิตแก่ชาวหนองคายอย่างยั่งยืน
๐๙:๕๕ มูลนิธิอายิโนะโมะโต๊ะ ส่งมอบอาคารโรงอาหารอายิโนะโมะโต๊ะ ให้แก่ โรงเรียนบ้านดอนมะกอก จังหวัดสุราษฎร์ธานี
๐๙:๐๕ กทม. เข้มงวดโครงการก่อสร้างคอนโดฯ ในซอยสุขุมวิท 93 ปฏิบัติตามมาตรการ EIA
๐๙:๕๐ การเคหะแห่งชาติตั้งเป้าสร้างที่อยู่อาศัยรองรับสังคมผู้สูงอายุ
๐๙:๒๘ ทำอย่างไรจึงจะทำให้มีการใช้ generative AI มากขึ้น
๐๙:๔๐ NocNoc จับมือ กฟผ. ส่งความสุขปีใหม่ให้คนรักบ้าน มอบส่วนลดสินค้าประหยัดไฟเบอร์ 5 สูงสุด 500 บาท เมื่อช้อปผ่าน NocNoc Chat Shop ทัก-ช้อป-ลด เริ่ม 25 ธ.ค. 67
๐๙:๑๔ Warrior ตั้ม ศุภกิตติ์ หรือ ตั้ม โทมัส ทอม จากทีมมาสเตอร์ ดร.อั้ม อธิชาติ คว้าชัย The Social Warrior คนแรกของประเทศไทย