“ในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา แบรนด์ซี-วิตมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 31.3% ผลักดันให้ภาพรวมตลาดฟังก์ชันนอลดริงก์ในไตรมาสนี้เติบโตถึง 16.1% ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์และแผนการเพิ่มกำลังการผลิตที่ได้เริ่มดำเนินการขยายฐานการผลิตเพิ่มที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตให้ทันกระแสตอบรับและความนิยมจากผู้บริโภค และคาดว่ายอดขายจะเพิ่มสูงขึ้นอีกในไตรมาสหน้า” นางวรรณิภากล่าว
นอกจากปริมาณความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด Kantar บริษัทชั้นนำด้านข้อมูลเชิงลึกและที่ปรึกษาทางการตลาดระดับโลก ได้จัดอันดับ Thailand Brand Footprint 2020 ขึ้นโดยเครื่องดื่มซี-วิต ได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ผู้บริโภค “เลือกซื้อมากที่สุด” ในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค (FMCG) วิเคราะห์จาก 571 แบรนด์ และครอบคลุมผู้บริโภคทั่วประเทศไทย โดยซี-วิตเป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภคเลือกซื้อสูงถึง 11 ล้านครั้ง สูงขึ้น 5.8 ล้านครั้ง ในกลุ่มสินค้าประเภทเครื่องดื่ม
มร.ชิฮิโระ คุระตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เฮ้าส์ โอสถสภา ฟู้ดส์ จำกัด เจ้าของเครื่องดื่มวิตามินซีแบรนด์ซี-วิต กล่าวว่า “ต้องขอขอบคุณผู้บริโภคทุกคนที่ให้ความไว้วางใจในเครื่องดื่มแบรนด์ซี-วิต จนทำให้แบรนด์ซี-วิตได้รับการจัดอันดับใน Thailand Brand Footprint 2020 ถึงสองปีซ้อน นับเป็นเครื่องยืนยันในคุณภาพของผลิตภัณฑ์และเป็นความสำเร็จอีกขั้นของแบรนด์ซี-วิตในประเทศไทย”
ทั้งนี้ จากกระแสการตอบรับเป็นอย่างดีและเป้าหมายสำคัญที่จะทำให้ซี-วิตเป็นเครื่องดื่มในชีวิตประจำวันของคนไทย จึงมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ๆ อยู่เสมอ เพื่อให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายตั้งแต่เด็ก ผู้ใหญ่ ไปจนถึงผู้สูงอายุ โดยยังคงจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์จากปริมาณวิตามินซี 200% ของปริมาณที่ร่างกายต้องการต่อวัน และยังมีรสชาติอร่อย มีเอกลักษณ์ ปัจจุบัน นอกเหนือจากซี-วิตในรูปแบบขวดแก้วแล้ว ยังมีรูปแบบกล่องที่พกพาสะดวก เจาะกลุ่มครอบครัวและเด็กๆ และยังได้มีการต่อยอด ขยายจากรูปแบบเครื่องดื่มสู่รูปแบบเจลลี่ ผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด สามารถทานเป็นของว่างรองท้องระหว่างมื้อ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่ต้องการดูแลสุขภาพได้เป็นอย่างดี
ข้อมูลเกี่ยวกับโอสถสภา
โอสถสภา ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำของประเทศ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2434 และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อเดือนตุลาคม ปี พ.ศ. 2561 ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา โอสถสภามุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ด้วยนวัตกรรมที่ทันสมัยเพื่อเสริมสร้างชีวิตให้แก่ผู้บริโภคและสังคม ภายใต้แนวคิด “พลังเพื่อเสริมสร้างชีวิต”
โอสถสภามีการดำเนินธุรกิจหลัก 3 กลุ่ม ประกอบด้วย 1) กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มที่ไม่ผสมแอลกอฮอล์ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มบำรุงกำลัง เครื่องดื่มเกลือแร่ กาแฟพร้อมดื่ม และเครื่องดื่มที่มีการเติมส่วนผสมเพื่อให้ได้คุณสมบัติเฉพาะ 2) กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคลของบริษัทฯ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กและผลิตภัณฑ์ความงามสำหรับผู้หญิง 3) กลุ่มธุรกิจอื่นๆ อาทิ ยา ลูกอม และการผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าให้แก่บุคคลภายนอกภายใต้สัญญากิจการร่วมค้าและสัญญาบริการผลิตสินค้า (OEM) ทั้งนี้ นอกจากการผลิตและจำหน่ายในประเทศแล้ว บริษัทฯ มีการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มในประเทศต่างๆ ทั่วโลกรวม 29 ประเทศ