แมนพาวเวอร์กรุ๊ป เผยผลวิจัยอาชีพไหนเนื้อหอม-มาแรง ในยุคบิสซิเนสดิสรัปชั่น (Business Disruption)

อังคาร ๐๗ กรกฎาคม ๒๐๒๐ ๑๓:๐๐
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้นทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทย ส่งผลให้ภาคธุรกิจและกลุ่มแรงงานมีการปรับตัว เพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้ และยังทำให้เกิดรูปแบบการทำงานแบบใหม่ จากวิถีความปกติในรูปแบบใหม่ หรือ New Normal ล่าสุด “แมนพาวเวอร์กรุ๊ป” ได้ทำการสำรวจกลุ่มตัวอย่างประมาณ 1,246 คน จากแรงงานในหลายอาชีพว่ามีกลุ่มอาชีพในสายงานใดที่คนทำงานต้องการทำท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 นับเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ของแรงงานในยุคที่เรียกได้ว่า “การหยุดชะงักทางธุรกิจ” หรือ “Business Disruption”

แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ในฐานะที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญตลาดแรงงานเชิงนวัตกรรมชั้นนำระดับโลก ได้จัดอันดับกลุ่มอาชีพจากผลการสำรวจ ไว้ดังนี้ สำหรับกลุ่มอาชีพและสายงานที่ขึ้นมาเป็นอันดับแรก คือ กลุ่มอาชีพอิสระต่าง ๆ คิดเป็น 12.76 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งในกลุ่มนี้ประกอบด้วยคนทำงานประจำที่ต้องการทำงานเสริมเพื่อสร้างรายได้เพิ่มเติมจากช่วงการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ตลอดระยะเวลากว่า 4 เดือนที่ผ่านมาหลายองค์กรปรับรูปแบบการทำงาน Work from Home ทำให้มีการจัดสรรเวลาโดยการทำงานที่เป็นอาชีพอิสระที่นำทักษะความรู้มาต่อยอดเป็นการสร้างโอกาสและรายได้ควบคู่กัน และผู้ประกอบอาชีพอิสระที่ต้องการทำงานอิสระจากงานระยะสั้นประเภทต่างๆ อาจะเป็นงานเดียวหรือหลายงานในเวลาเดียวกันเพื่อสร้างรายได้

ส่วนกลุ่มที่สองเป็นกลุ่มอาชีพด้านโลจิสติกส์, ซัพพลายเชนส์ และการขนส่งเดลิเวอรี่ คิดเป็น 10.32 เปอร์เซ็นต์ นับว่าเป็นช่วงเวลาที่กลุ่มดังกล่าวมีการเติบโตอย่างมาก โดยเฉพาะการรองรับการซื้อสินค้าออนไลน์ หรืออี-คอมเมิร์ซ ซึ่งเป็นผลพวงจากการล็อคดาวน์ที่มีควบคุมการเข้าและเปิดปิดร้านค้า รวมถึงห้างสรรพสินค้าในหลายพื้นที่เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19

อันดับที่สามกลุ่มอาชีพงานที่ใช้ภาษาต่างประเทศ คิดเป็น 10.29 เปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะภาษาที่ 2 และ 3 อาทิ กลุ่มภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ภาษาญี่ปุ่น เป็นต้น นับเป็นโอกาสกับอาชีพนี้ที่จะนำความรู้มาใช้ในการติดต่อสื่อสารทางธุรกิจ ซึ่งนอกจากจะทำงานประจำแล้วยังสามารถต่อยอดรายได้เสริมได้อีกด้วย

อันดับที่สี่ คงปฏิเสธไม่ได้ว่าอาชีพค้าขายออนไลน์ หรืออี-คอมเมิร์ซ นับเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ได้รับอานิสงค์จากสถานการณ์นี้ นอกจากนี้ ยังมีช่องทางที่หลากหลายให้สามารถเลือกซื้อสินค้าไม่ว่าจะโซเชียลมีเดีย เช่น เฟซบุ๊ค (Facebook) อินสตาแกรม (IG) และไลน์ (LINE) รวมทั้งแอปพลิเคชันในกลุ่ม E-Market Place ต่างๆ ถือว่าเป็นช่องทางในการซื้อสินค้าโดยไม่ต้องไปถึงร้านค้าหรือห้างสรรพสินค้า ซึ่งคิดเป็น 9.61 เปอร์เซ็นต์

อันดับที่ห้า กลุ่มงานที่เกี่ยวข้องกับไลฟ์สไตล์คนอยู่บ้าน คิดเป็น 8.82 เปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะกลุ่มงานบริการที่บ้าน (Service at home) เนื่องจากในช่วงที่คนทำงานอยู่ที่บ้าน นอกจากทำงานแล้วทำให้มีความต้องการบริการต่างๆที่บ้านเพิ่มมากขึ้น อาทิ งานซ่อมแซมบ้าน งานบริการตัดผม งานที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการออกกำลังกาย สัตว์เลี้ยง รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพิ่มมากขึ้น

ตามมาด้วยอันดับที่หก กลุ่มงานในการให้บริการลูกค้าทางโทรศัพท์ คิดเป็น 7.35 เปอร์เซ็นต์ โดยรูปแบบการทำงานมีทั้งทางโทรศัพท์ และการตอบทางช่องทางแชท ทำให้การให้บริการและตอบคำถามลูกค้าได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งกลุ่มที่ใช้งานมากสุดในช่วงนี้ก็คือ ช่องทางร้านค้าออนไลน์

กลุ่มอาชีพอันดับที่เจ็ด เป็นงานกลุ่มสุขภาพและยา คิดเป็น 5.88 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งรวมถึงกลุ่มงานทางการแพทย์ หมอ พยาบาล นักกายภาพบำบัด และงานด้านการดูแลผู้สูงอายุ ที่สอดรับกับทิศทางของสังคมสูงอายุที่เพิ่มขึ้นในปัจจุบันด้วย

สำหรับอันดับที่แปด กลุ่มอาชีพงานสอนในรูปแบบอี-เลิร์นนิ่ง (E-Learning) คิดเป็น 5.63 เปอร์เซ็นต์ และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นสอดคล้องกับวิถีการดำเนินชีวิตปกติใหม่ (New Normal) ทำให้สะดวกและสามารถสริมทักษะความรู้ได้ทุกที่ทุกเวลาด้วยการเรียนการสอนผ่านอุปกรณ์ไอทีและแพลตฟอร์มต่างๆ ได้หลากหลายอีกด้วย

ส่วนอันดับที่เก้า เป็นงานด้านไอที (Information Technology) คิดเป็น 4.41 เปอร์เซ็นต์ ในกลุ่มนี้มีความต้องการสูง เนื่องจากต้องใช้ทักษะเฉพาะทาง กลุ่มนักพัฒนาแอปพลิเคชั่น งานทางด้านดูแลความปลอดภัยทางไซเบอร์ กลุ่มงานทางด้านเน็ตเวิร์คและงานไอทีซัพพอร์ต ปิดท้ายด้วยกลุ่มงานด้านการตลาดทั้งออนไลน์ออฟไลน์ คิดเป็น 4.39 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นส่วนงานที่ต้องใช้ทักษะและการสื่อสารทางการตลาด โดยเฉพาะการสื่อสารในช่วงการแพร่ระบาดที่ต้องสื่อสารด้วยความเข้าใจและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายด้วยวิธีการต่างๆ

ทั้งนี้ จากผลการวิจัยและผลสำรวจดังกล่าว สะท้อนให้เห็นถึงกลุ่มอาชีพที่สามารถพัฒนาและต่อยอด โดยการดึงศักยภาพ เสริมทักษะและมาใช้ในการต่อยอดได้อย่างดีเยี่ยม ถึงแม้ว่ากระทบทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีที่ผ่านมาและวิกฤตไวรัสโควิด-19 จะส่งผลให้ภาพรวมตลาดแรงงานต้องปรับตัว แต่เชื่อมั่นว่าในวิกฤตครั้งนี้จะเป็นการสร้างโอกาสให้กับแรงงานได้เห็นถึงทิศทาง การปรับตัวและการรับมืออย่างมีสติเพื่อผ่านพ้นวิกฤตในครั้งนี้ต่อไป

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๕ เม.ย. Electronic Nose นวัตกรรมตรวจวัดกลิ่น! เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดี กรมอนามัย ร่วม MOU กรมควบคุมมลพิษ และ 4 หน่วยงานรัฐ - เอกชน
๒๕ เม.ย. ITEL ประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 68 ไฟเขียวอนุมัติแจกวอร์แรนต์ฟรี ลุยขยายธุรกิจ
๒๕ เม.ย. สวทช. โดย นาโนเทค เฟ้นหา 8 ผู้ประกอบการ ต่อยอดนวัตกรรมสมุนไพรสู่ผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง
๒๕ เม.ย. คาเฟ่ แคนทารี ชวนมาลิ้มลองเมนูพิเศษประจำเดือนพฤษภาคม - มิถุนายน 2568 อร่อยครบเครื่องทั้งรีซอตโตต้มยำ เครป
๒๕ เม.ย. ซีพี ออลล์ x มูลนิธิชาวปักษ์ใต้ ร่วมสนับสนุนทุนการศึกษาเพื่ออาชีพแก่เยาวชนในจังหวัดภาคใต้
๒๕ เม.ย. ซีพีแรม ดีเดย์ เปิดเวที FINNOVA 2025 : ยกระดับความรู้สู่นวัตกรรมอาหาร ปักหมุดไทยศูนย์กลางนวัตกรรมอาหารโลก
๒๕ เม.ย. ดีไซน์เพื่อชีวิตที่ไม่หยุดนิ่ง: อาดิดาส ออริจินอลส์ เผยโฉม ADIZERO ARUKU พร้อมพื้นรองเท้าแบบโปรเกรสซีฟ
๒๕ เม.ย. พรีโม จับมือ Q-CHANG จัดทัพทีมช่างกว่า 2,000 ทีม! ยกระดับบริการซ่อมห้องชุด ตอกย้ำแนวคิด Primo Happy Maker
๒๕ เม.ย. ครั้งแรก กับ Dance (แดนซ์) Glossy Body Hair Perfume Mist น้ำหอม 2-in-1 พร้อมเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ เก๋ไก๋ บุกใจกลางกรุง ชวนสาวๆ
๒๕ เม.ย. SCB CIO ชี้ 3 ปัจจัยกระทบตลาดการเงินฉุดสินทรัพย์ทั่วโลกผันผวน แนะระวังการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง เพิ่มน้ำหนักหุ้นกู้ระยะสั้นคุณภาพดี และ