'อินทผลัม’ พืชเศรษฐกิจมาแรง สร้างรายได้งามกว่า 3 แสนบาท/ไร่

พุธ ๐๘ กรกฎาคม ๒๐๒๐ ๑๓:๓๑
นางอัญชนา ตราโช รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่าปัจจุบัน อินทผลัมเป็นพืชเศรษฐกิจที่กำลังมาแรง เกษตรกรให้ความสนใจเพาะปลูกกันมากขึ้นเนื่องจากเป็นพืชที่ปลูกง่าย เก็บผลผลิตได้ในระยะเวลานาน ให้ผลตอบแทนสูง และสามารถเจริญเติบโตได้ดีในสภาพอากาศร้อนและแห้งแล้ง โดยเฉพาะ ในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบว่า ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นมีการปลูกอินทผลัมประมาณ 100 ไร่ ให้ผลผลิตรวมกว่า 31,835 กก./ปี สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง

สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 4 จังหวัดขอนแก่น (สศท.4) ติดตามสถานการณ์การผลิตและผลตอบแทนอินทผลัม พบว่า พื้นที่ปลูกกระจายอยู่หลายอำเภอ ส่วนใหญ่พบในอำเภอน้ำพอง ภูเวียง และหนองเรือ เกษตรกรนิยมปลูกพันธุ์บาร์ฮี (Barhi) เนื่องจากเป็นพันธุ์ที่ปลูกและดูแลง่าย ให้ผลผลิตสูง และมีรสชาติหวาน กรอบ เหมาะสำหรับรับประทานผลสด ส่วนใหญ่เกษตรกรนิยมปลูกโดยใช้ต้นพันธุ์ที่ได้จากการเพาะเนื้อเยื่อ ซึ่งนำเข้าจากประเทศอังกฤษและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ราคาประมาณ 1,800 - 2,300 บาท/ต้น ทำให้ผลผลิตมีคุณภาพใกล้เคียงกันทุกต้น ต้นทุนการผลิตเฉลี่ย 37,301 บาท/ไร่ (เริ่มให้ผลผลิตในปีที่ 3 และเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ระยะยาว) นิยมปลูกช่วงเดือน พฤษภาคม-มิถุนายน ระยะเวลาเก็บเกี่ยวช่วงเดือนมิถุนายน – สิงหาคม ให้ผลผลิตเฉลี่ย 500 – 2,000 กก./ไร่ (เฉลี่ย 20 - 80 กก./ต้น) คิดเป็นผลตอบแทนสุทธิ (กำไร) 383,240 บาท/ไร่ ราคาผลสด ที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ย 300 – 800 บาท/กก. ซึ่งราคาขึ้นอยู่กับขนาดและคุณภาพของผลผลิต

สำหรับการจำหน่ายผลผลิต ส่วนใหญ่ร้อยละ 80 แบ่งเป็นจำหน่ายทางออนไลน์และมีลูกค้าประจำมาเลือกซื้อที่สวน ส่วนผลผลิตร้อยละ 20 มีพ่อค้าคนกลางทั้งในและนอกจังหวัดขอนแก่นมารับซื้อที่สวนเพื่อส่งขายต่อไปยังจังหวัดใกล้เคียง นอกจากจะจำหน่ายแบบผลสดแล้ว เกษตรกรยังนำผลผลิตอินทผลัมมาแปรรูปเป็นน้ำอินทผลัม และอินทผลัมอบแห้ง เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม ซึ่งเป็นการสร้างรายได้ให้เกษตรกรอีกทางหนึ่งด้วย

ด้านนายฉกาจ ฉันทจิระวัฒน์ ผู้อำนวยการ สศท.4 กล่าวเสริมว่า สำหรับการปลูกอินทผลัม ถึงแม้จะมีต้นทุนการผลิตที่ค่อนข้างสูงกว่าพืชอื่น ๆ ในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แต่เมื่อเทียบกับผลตอบแทนที่ได้รับก็ถือว่าคุ้มค่า นอกจากนี้ เกษตรกรควรเฝ้าระวังโรคศัตรูพืชและแมลง ที่อาจมาทำลายและส่งผลกระทบต่อคุณภาพของผลผลิตได้ อย่างไรก็ตาม หากเกษตรกรที่สนใจปลูกอินทผลัม ควรศึกษาความเหมาะสมของพื้นที่ตนเอง เพราะถึงแม้อินทผลัมจะเป็นพืชที่สามารถเจริญเติบโตได้ดีในภูมิภาคที่มีอากาศร้อนและแห้งแล้ง แต่ยังคงต้องการน้ำอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ผลผลิตโตอย่างเต็มที่ และมีคุณภาพตรงกับความต้องการของตลาด ทั้งนี้ หากเกษตรกรหรือท่านใดที่สนใจข้อมูลการผลิตและการตลาดอินทผลัมจังหวัดขอนแก่น สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สศท.4 โทร. 0 4326 1513 หรืออีเมล [email protected]

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ