ก่อนหน้านี้ จีเอสเค และโคลเวอร์ ได้ประกาศความร่วมมือในการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2563 โดยการทดลองระยะก่อนการทดสอบในสัตว์ทดลอง (Pre-clinical) ที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จในการใช้ pandemic adjuvant ร่วมกับวัคซีน SCB-2019 โดยพบว่า สัตว์หลายชนิดมีการสร้างแอนติบอดีที่ยับยั้งเชื้อไวรัส (Neutralizing antibody) ในระดับสูงหลังได้รับวัคซีน
สำหรับการทดลองทางคลินิกกับมนุษย์ระยะที่ 1 นั้นคาดว่าจะทราบผลในเดือนสิงหาคม 2563 และในขณะเดียวกันก็ได้วางแผนการทดลองระยะที่ 2b/3 โดยตั้งเป้าจะศึกษาได้ในช่วงท้ายปี 2563
การใช้สารเสริมฤทธิ์ (adjuvant) มีความสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาดของโรค เพราะสารเสริมฤทธิ์จะช่วยลดปริมาณโปรตีนที่ต้องใช้ในการผลิตวัคซีนแต่ละโดส ส่งผลให้สามารถผลิตวัคซีนได้ในปริมาณที่มากขึ้น ทำให้มีประชาชนที่เข้าถึงวัคซีนได้มากขึ้น
จีเอสเค ได้ร่วมมือกับสถาบันต่าง ๆ ทั่วโลก เพื่อพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ที่ใช้เทคโนโลยี adjuvant ของบริษัท รวมถึงความร่วมมือกับซาโนฟี่ โดยทางบริษัทคาดว่าจะมีการศึกษาวิจัยต่อยอดจากความร่วมมือกับสถาบันต่าง ๆ มากขึ้นในปลายปี 2563 นี้
นายแพทย์โธมัส บริวเออร์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ จีเอสเค วัคซีนกล่าวว่า “กลยุทธ์ของ จีเอสเค คือ การสร้างความร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ โดยใช้เทคโนโลยี pandemic adjuvant ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้ว ร่วมกับวัคซีน COVID-19 ที่มีโปรตีนเป็นพื้นฐาน (protein-based COVID-19 vaccines) เราเชื่อมั่นว่า กลยุทธ์นี้จะทำให้เราสามารถผลิตวัคซีนเพื่อรองรับความต้องการของทั่วโลก อันเป็นประโยชน์ต่อผู้คนนับล้าน และจากผลการศึกษาในสัตว์ทดลองทำให้เราคาดหวังว่า การทดสอบวัคซีนโควิด-19 ของโคลเวอร์ในมนุษย์ระยะที่ 1 นี้ จะประสบผลสำเร็จ และจะสามารถดำเนินการทดลองระยะต่อไปภายในปีนี้”
สำหรับโคลเวอร์ ไบโอฟาร์มาซูติคัล เป็นบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพทางคลินิกสัญชาติจีน ที่มุ่งเน้นการพัฒนาวิธีการรักษาด้วยชีวบำบัดแบบทรานส์ฟอร์เมทีฟ โดยเฉพาะโรคมะเร็งและโรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง รวมถึงวัคซีนจากเชื้อไวรัส