นายชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เราเปลี่ยนสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้กลายเป็นความท้าทาย เราเคยสร้างสิ่งที่ไม่คาดว่าจะเป็นไปได้ด้วยการก้าวขึ้นครองอันดับหนึ่งของรถยนต์นั่งขนาดเล็กมาแล้ว วันนี้มาสด้ารู้สึกเป็นเกียรติและปลาบปลื้มเป็นอย่างยิ่ง ที่ครอสโอเวอร์เอสยูวีของมาสด้าได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยมจากลูกค้าชาวไทยจนสามารถคว้าแชมป์มาครองได้อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งล้วนเกิดจากความไว้วางใจและความเชื่อมั่นของลูกค้าชาวไทยต่อรถยนต์มาสด้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปิดตัว ALL-NEW MAZDA CX-30 ยนตรกรรมครอสโอเวอร์เอสยูวีน้องใหม่ล่าสุด รวมทั้งการปรับโฉมของ CX-3 ที่เข้ามาเติมเต็มตลาดครอสโอเวอร์ในประเทศไทยจนเกิดเป็นกระแสตอบรับอย่างล้นหลามจากลูกค้า และผลักดันให้มาสด้าสามารถก้าวขึ้นแท่นอันดับหนึ่งของตลาดรถยนต์ครอสโอเวอร์สัญชาติญี่ปุ่นทั้งในเดือนมิถุนายนและไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2020 ได้สำเร็จ มาสด้าขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่ให้การสนับสนุนมาสด้าเป็นอย่างสูง
“ท่ามกลางวิกฤตการแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัสที่ส่งผลต่อตลาดรถยนต์ในประเทศไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ทุกธุรกิจต้องดำเนินต่อไปเพื่อความมั่นคงด้านเศรษฐกิจและสังคม โดยเฉพาะ 3 เดือนที่ผ่านมา นับตั้งแต่เดือนเมษายนถึงเดือนมิถุนายนตลาดรถยนต์ของไทยมียอดรวมประมาณ 124,000 คัน (ตัวเลขประมาณการ) ในขณะที่มาสด้ามียอดขายสะสมอยู่ที่ประมาณ 5,256 คัน โดยตลาดรถครอสโอเวอร์เอสยูวีเฉพาะเดือนมิถุนายนที่ผ่านมานั้นมียอดจำหน่ายรวมอยู่ที่ประมาณ 4,847 คัน (ไม่รวม PPV) ซึ่งมาสด้ามียอดจำหน่ายสูงสุดเป็นจำนวนถึง 1,184 คัน โดยแบ่งออกเป็น MAZDA CX-30 จำนวนสูงถึง 700 คัน MAZDA CX-5 จำนวน 230 คัน MAZDA CX-3 จำนวน 173 คัน และ MAZDA CX-8 จำนวน 81 คัน ตามลำดับ ทำให้มาสด้าสามารถขึ้นแท่นครองแชมป์แบรนด์ผู้จำหน่ายรถยนต์ครอสโอเวอร์เอสยูวีสัญชาติญี่ปุ่นในเดือนมิถุนายน และประสบความสำเร็จขึ้นไปอีกขั้นด้วยยอดจำหน่ายอันดับหนึ่งของไตรมาสแรกปีงบประมาณ 2020 (เมษายน-มิถุนายน) ด้วยยอดจำหน่ายรวมถึง 2,201 คัน จากตลาดรวมอยู่ที่ประมาณ 10,982 คัน (ตัวเลขประมาณการ)” นายชาญชัย กล่าวเสริม
โปรดติดตามความเคลื่อนไหวและกิจกรรมของมาสด้าผ่านทางโซเชียลมีเดีย
เว็บไซต์ www.mazda.co.th และ MazdaThailandOfficial Facebook/YouTube/Instagram/LINE