นางวชิรา จิตศักดานนท์ กรรมการบริหารบริษัท ยูเนี่ยนแพน เอ๊กซิบิชั่นส์ จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ใหม่โควิด-19 ในช่วงเดือนมีนาคม-มิถุนายน 2563 ที่ผ่านมา ได้ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการ SMEs พอสมควร เพราะไม่สามารถออกบูธร่วมงานจัดแสดงสินค้าได้ ทำให้ต้องเลิกการดำเนินธุรกิจ ซึ่งลดลงไป 20-30% ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มธุรกิจอาหาร แฟชั่น สินค้าโอท็อป และหันไปค้าขายผ่านระบบออนไลน์แทน ทำให้ตลาดออนไลน์มีการแข่งขันที่สูงขึ้น ในส่วนของยูเนี่ยนแพนฯเอง ซึ่งเป็นบริษัทจัดแสดงสินค้าภายในประเทศ ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน คือมีผู้ประกอบการที่ร่วมออกบูธลดลง จึงจำเป็นก็ต้องหาผู้ประกอบการรายใหม่ และสินค้ากลุ่มใหม่มาทดแทน โดยไม่มีการลดพื้นที่ในการจัดงานแต่อย่างใด แต่จะดำเนินงานให้เข้ากับยุค New Normal มีการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ตามมาตรการทางสาธารณสุข เพื่อให้ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นเรื่องความปลอดภัยในการเข้ามาร่วมงาน
สำหรับแผนการจัดงานแสดงสินค้าของบริษัทฯ ในปี 2563 เดิมกำหนดที่จะจัดทั้งหมด 14 งาน แต่จากวิกฤติโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบให้การจัดงานในครึ่งปีแรกที่สามารถจัดได้เพียง 2 งาน คือในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ และกลางเดือนมีนาคม และต้องยกเลิกไป 3 งาน เนื่องจากเป็นช่วงเดียวกับที่ภาครัฐประกาศล็อกดาวน์ ส่วนในครึ่งปีหลังนี้จะมีการจัดงานแสดงสินค้าทั้งหมด 9 งาน แบ่งเป็นในพื้นที่กรุงเทพ 4 งาน, เชียงใหม่ 2 งาน, พัทยา ขอนแก่น และหาดใหญ่ จังหวัดละ 1 งาน แต่ก็จะส่งผลกระทบทำให้รายได้ปีนี้ติดลบ 8-10%
“ในมุมมองของผู้จัดงานแสดงสินค้านั้น ปกติการจัดงานจะต้องวางแผนล่วงหน้า 3-5 ปี แต่วิกฤติโควิด-19 ทำให้ต้องควบคุมต้นทุนการจัดงานในทุกรูปแบบ รวมถึงบุคคลากร ให้สามารถทำงานได้
หลากหลายหน้าที่ ขณะเดียวกันต้องสามารถเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงาน ทัศนคติ และเปลี่ยนภาพลักษณ์การจัดงานให้สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วในช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา โดยเพิ่มช่องทางการสื่อสารผ่านระบบออนไลน์มากขึ้น เพราะปัจจุบันผู้บริโภคชอบดูโฆษณาผ่านออนไลน์ ด้านต้นทุนการจัดการ ก็ต้องควบคุมต้นทุนการจัดการให้ได้ ซึ่งคาดว่าจะลดต้นทุนให้ต่ำลงจากเดิมประมาณ 25% เพื่อที่จะสามารถอยู่รอดในธุรกิจต่อไปได้”
นางวชิรา กล่าวเพิ่มเติมต่อไปว่า ล่าสุดบริษัทฯ ได้เตรียมจัดงาน “Mid Year Sale 2020” ภายใต้คอนเซ็ปต์งาน "ลดหนัก จัดเต็ม ลดแรง ไทยช่วยไทย" มอบส่วนลดตั้งแต่ 20-80% โดยงานมีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-19 กรกฎาคม 2563 ณ อาคาร 9-10 ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี บนพื้นที่จัดงานทั้งหมด 13,500 ตารางเมตร ภายในงานเป็นการรวม 5 งานใหญ่ไว้ในพื้นที่เดียวกัน ประกอบด้วย
งาน Furniture Mid Year Sale 2020 เป็นการรวมผู้ประกอบการ สินค้าประเภทเฟอร์นิเจอร์ครบวงจร ส่วนใหญ่เป็นผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ที่มาร่วมออกบูธในงานดังกล่าว ประมาณ 50% ส่วนอีก 50% ก็จะเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ อาทิ ชุดห้องรับแขก ชุดห้องนอน ชุดรับประทานอาหาร ชุดห้องครัว ชุดสำนักงาน และอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน มาจำหน่ายในราคาที่จับต้องได้ มอบส่วนลดให้สูงสุดถึง 80% อีกทั้งยังมีการจัดโซนเฟอร์นิเจอร์ชิ้นเล็กไปถึงชิ้นใหญ่ เพื่อให้ผู้บริโภคได้จับจ่ายใช้สอยอย่างสะดวกอีกด้วยงาน Electronics Mid Year Sale 2020 เป็นการนำเครื่องใช้ไฟฟ้ากว่า 12 แบรนด์ อาทิ มิตซูบิชิ, แอลจี, พานาโซนิค, ทีซีแอล, ชาร์ป, ซัมซุง, ฮิตาชิ, โซนี่, อิเลคโทรลักซ์ ฯลฯ มาร่วมออกบูธ และจัดโปรโมชั่นลดพิเศษ จากตัวแทนจำหน่าย S. Electric Group นอกจากนี้ยังร่วมกับสถาบันการเงินต่าง ๆ ในการปล่อยสินเชื่อในการซื้อสินค้าภายในงานด้วยงาน Fashion & Jewelry Mid Year Sale 2020 งานที่เอาใจพนักงานออฟฟิส โดยเฉพาะคุณผู้หญิงสมัยใหม่ เป็นกลุ่มสินค้าในราคาที่จับต้องได้ ภายในงานมีผู้จำหน่าย สินค้าแฟชั่นนำสินค้าหลากหลายแบรนด์มามอบส่วนลดสูงสุดถึง 80% เช่นกัน พร้อมพบโปรโมชั่นพิเศษมากมายงาน Wedding Fair of the Year 2020 งานที่รวบรวมธุรกิจวิวาห์แบบครบวงจร มาให้คู่รักที่วางแผนจะแต่งงานได้เลือกใช้บริการ ซึ่งมีผู้ประกอบการชุดวิวาห์, สตูดิโอถ่ายภาพ, ของชำร่วย เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก พร้อมโปรโมชั่น ลด แลก แจก แถม จากสตูดิโอชื่อดังของประเทศไทย อาทิ Finale Wedding Studio, COCO Chic Wedding, The Classic Studio, Monique Wedding, Keny De Lamour, The Moment, Imagine Wedding Studio, Marriage Studio และ Milan Wedding Studio เตรียมโปรโมชั่นพิเศษ สำหรับคู่รัก คู่วิวาห์งาน ตลาดน้ำ ตำนานอร่อย โซนที่รวบรวมผู้ประกอบการร้านอาหารชื่อดังจากตลาดน้ำทั่วเมืองไทยชื่อดัง ได้แก่ ตลาดคลองลัดมะยม, ตลาดน้ำขวัญเรียม, ตลาดน้ำวัดตะเคียน, ตลาดน้ำบางคูลัด, ตลาดน้ำโบราณมหานคร, ตลาด อ.ต.ก., ตลาดพาณิชย์ย้อนวันวาน, ตลาดดำเนินสะดวก, ตลาดศรีนคร, ตลาดน้ำทุ่งบัวแดง, ตลาดสามชุก, ตลาดสำเพ็ง 2 ภายใต้คอนเซ็ปต์บรรยากาศจัดงานแบบไทยๆ ย้อนยุค รวบรวมอาหาร 4 ภาค พร้อมทั้งภายในงานยังได้จัดให้มีมาตรการดูแลการเว้นระยะห่างเพื่อสังคมอีกด้วย
“การจัดงานในครั้งนี้จะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อให้กลับคืนมา หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ได้ผ่อนคลายลง โดยบริษัทฯ ได้ให้ความสำคัญด้านความปลอดภัยสำหรับผู้เข้าชมงาน โดยจัดให้มีจุดคัดกรองบริเวณทางเข้างานหลัก และมีลงทะเบียนเข้าตามระบบคัดกรอง ทั้งส่วนของ Application และแบบฟอร์ม บริการพรมเช็คเท้าโดยฆ่าเชื้อโรค พร้อมเจ้าหน้าที่วัดไข้ จัดเตรียมเจลแอลกอฮอลล์ฆ่าเชื้อ จุดจำหน่ายหน้ากากอนามัย อีกทั้งได้เพิ่มมาตรการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อระบบปรับอากาศก่อนและหลังวันแสดงสินค้า พร้อมขยายระยะห่างระหว่างบูธตามแนวทาง Social Distancing ทั้งนี้คาดว่าภายในงานดังกล่าวจะมีผู้เข้าร่วมชมงานประมาณ 50,000-100,000 และมีเม็ดเงินสะพัดประมาณ 100-150 ล้านบาท” นางวชิรา กล่าวทิ้งท้าย