รองนายกฯ วิษณุ-คุณหญิงกัลยา เปิดโครงการบริหารจัดการน้ำโดยชุมชน ตามแนวพระราชดำริ ยิ่งใหญ่

จันทร์ ๑๓ กรกฎาคม ๒๐๒๐ ๑๔:๔๗
รองนายกฯ วิษณุ เครืองาม และดร. คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมช.ศึกษาธิการ เปิดโครงการบริหารจัดการน้ำโดยชุมชน ตามแนวพระราชดำริ อย่างยิ่งใหญ่ ได้มูลนิธินโยบายสาธารณะไทยสนับสนุนงบประมาณตั้งต้น ๑๐๐ ล้านบาท ปั้นวิทยาลัยเกษตรฯ ทั่วประเทศ สร้าง “ชลกร” ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริการจัดการน้ำในชุมชนรุ่นใหม่ สร้างอาชีพ สร้างรายได้ยั่งยืน พร้อมจัดกิจกรรม Workshop ดึงเยาวชนสร้างจิตสำนึกในการรักน้ำผ่านสื่อสมัยใหม่

ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน ถือเป็นการสร้างรากฐานที่สำคัญต่อการพัฒนาประเทศ รัฐบาลได้น้อมนำแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาปฏิบัติโดยให้ความสำคัญกับการเร่งแก้ไขปัญหาจากฐานราก คือมุ่งสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชนในลักษณะการพึ่งตนเอง นั่นคือ ทำให้ชุมชน หมู่บ้าน มีพื้นฐานที่มั่นคงพอสมควรก่อน แล้วจึงสร้างความเจริญและยกระดับเศรษฐกิจให้สูงขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ดังนั้นรัฐบาลจึงได้ให้ความสำคัญในเรื่องการบริหารจัดการน้ำมาโดยตลอด โดยเฉพาะการบริหารจัดการน้ำให้มีประสิทธิภาพอย่างมั่นคงและยั่งยืนโดยชุมชน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด และสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้กับประชาชน

ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า โครงการบริหารจัดการน้ำโดยชุมชน ตามแนวพระราชดำริ เป็นโครงการที่ได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธินโยบายสาธารณะไทย ในการขับเคลื่อนและร่วมกับอาชีวะเกษตร เพื่อสืบสานพระราชปณิธานในหลวงรัชกาลที่ ๙ ในการช่วยเหลือเกษตรกร ให้มีน้ำใช้ แก้ปัญหาความยากจน โดยมูลนิธินโยบายสาธารณะไทย ที่มีนายโชติ โสภณพนิช เป็นประธาน ได้บริจาคเงินให้โครงการเพื่อเป็นทุนแรกเริ่มในการตั้งกองทุน จำนวน ๑๐๐ ล้านบาท ในการนำไปบริหารโครงการโดยรวมและสร้างโมเดลต้นแบบการกักเก็บน้ำรองรับน้ำฝน บนพื้นที่อาชีวะเกษตรก่อนขยายผลไปยังชุมชนโดยรอบ เพื่อใช้ประโยชน์ในการทำกิน ช่วยสร้างงานสร้างเงินสร้างคุณภาพชีวิตด้วยวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรม ให้กับนักศึกษาอาชีวะเกษตรรวมทั้งคนในชุมชน

สำหรับหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนโครงการนี้ให้ประสบความสำเร็จนั่นก็คือ ชุมชนต้องมีส่วนร่วมเป็นเจ้าของ โดยมูลนิธินโยบายสาธารณะไทยจะสนับสนุนด้านเงินทุน ส่วนรัฐทำหน้าที่สนับสนุนให้องค์ความรู้ และกระทรวงศึกษาจะใช้กลไกของวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีทั้ง ๔๗ แห่ง และโรงเรียนการศึกษาพิเศษอีก ๑๗๖ แห่งทั่วประเทศเป็นศูนย์เรียนรู้ที่สำคัญ และจะมีหลักสูตรสร้างชลกร คือผู้เชี่ยวชาญเรื่องน้ำ เพื่อช่วยสอนชาวบ้านให้มีความรู้เรื่องการจัดการน้ำในชุมชน ให้สามารถดำเนินการต่อเองได้ นอกจากนี้ ในโครงการฯ จะมีการจัดกิจกรรม Workshop โดยคัดเลือกนักศึกษาจากวิทยาลัยเกษตรฯ นำเสนอแนวความคิดเรื่อง “น้ำของเรา” โดยมีรุ่นพี่จากมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศเป็นพี่เลี้ยงให้คำแนะนำไปจนถึงผลิตชิ้นงานโฆษณาออกมา เพื่อเป็นการสร้างจิตสำนึกให้เยาวชนรู้ถึงความสำคัญ และคุณค่าของน้ำ

“เมื่อมีน้ำ ก็มีชีวิต คือแนวคิดหลักของโครงการบริหารจัดการน้ำโดยชุมชน ตามแนวพระราชดำริ สร้างการเรียนรู้ ในการ มี-ใช้-จัดสรร “น้ำ” ในชุมชนอย่างมีประสิทธิภาพตามศาสตร์พระราชา ที่จะสร้างความอุดมสมบูรณ์ของน้ำให้กับชุมชนนอกเขตชลประทาน เพื่อใช้ในการทำการเกษตร บริโภคและอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยสร้างการเรียนรู้ผ่าน “ชลกร” นักศึกษาอาชีวะเกษตร จากวิทยาลัยเกษตรฯ สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ที่ได้รับการฝึกทักษะให้เชี่ยวชาญด้านการบริการจัดการน้ำในชุมชน ส่งต่อความรู้ไปยังผู้นำชุมชน และประชาชนทั่วไป ให้สามารถดูแลบริหารจัดการน้ำชุมชนด้วยตนเอง สร้างประโยชน์จากแหล่งน้ำเพื่อชีวิตที่พอเพียง โดยมีเป้าหมายที่สำคัญคือแก้ปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืน” ดร.คุณหญิงกัลยา กล่าว

นายณรงค์ แผ้วพลสง เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กล่าวว่า วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี จะเป็นแหล่งพัฒนาบุคลกรทางการเกษตร ที่พร้อมจะพัฒนาให้เป็นผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับการจัดการน้ำในอนาคต โดยจะเป็นฐานปฏิบัติการที่สำคัญในการเดินหน้าโครงการนี้ ซึ่งในระยะแรกจะเริ่มนำร่องที่ ๕ วิทยาลัย ได้แก่ วิทยาลัยเกษตรจังหวัดอุบลราชธานี ยโสธร มหาสารคาม ร้อยเอ็ดและศรีสะเกษ ซึ่งทุกวิทยาลัยมีความพร้อมทั้งในส่วนของครูและนักศึกษาที่จะเป็นแกนนำใน การเร่งดำเนินโครงการสร้างโมเดลต้นแบบบนพื้นที่วิทยาลัยเกษตรก่อนจะขยายผลไปในชุมชนโดยรอบ

ทั้งนี้การบริหารจัดการน้ำโดยชุมชน นอกจากจะใช้หลักการองค์ความรู้ที่ผสมผสานกันระหว่างภูมิปัญญาท้องถิ่น ปราชญ์ชุมชน และทีมผู้เชี่ยวชาญแล้ว ยังจะต้องนำหลักการทางวิชาการมาใช้ควบคู่กันไปด้วย โดยจะมีการจัดทำหลักสูตร “ชลกร” เพื่อยกระดับและต่อยอดองค์ความรู้การจัดการระบบน้ำ เกษตรชลประทาน เพื่อให้เข้าใจในศาสตร์พระราชาในมิติของน้ำเพื่อการเกษตร การบริโภค สำหรับชุมชน ส่งเสริมเกษตรกรมีน้ำทำกิน สร้างอาชีพ สร้างรายได้อย่างยั่งยืน

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๕:๑๔ กรมทรัพย์สินทางปัญญาลงพื้นที่แหล่งผลิต ลิ้นจี่นครพนม ผลไม้ GI สินค้าดีเมืองพระธาตุพนม จับมือกลุ่มพันธมิตร Tops Market
๑๕:๕๓ โรงพยาบาลพญาไท 3 ปรับโฉมใหม่ ศูนย์กล้ามเนื้อกระดูกและข้อ ยกระดับการรักษาผู้ป่วยอย่างครบวงจร ภายใต้แนวคิด UNLEASH YOUR BEST
๑๕:๔๒ FWD ประกันชีวิต ครองใจคนรุ่นใหม่ คว้าสองรางวัลองค์กรน่าทำงาน พร้อมเปิดพื้นที่ให้เติบโตในแบบที่เป็นตัวเอง
๑๕:๕๔ ยันม่าร์ฯ คืนกำไรให้กับเกษตรไทย แจกส่วนลดซื้อผลิตภัณฑ์ มูลค่ารวมกว่า 117 ล้านบาท
๑๕:๐๐ กทม. รุกเข้มมาตรการเฝ้าระวังป้องกันควบคุมการระบาดโรคลิชมาเนียในกรุงเทพฯ
๑๕:๕๒ กทม. ขานรับนโยบาย ศธ. ยกเว้นแต่งชุดลูกเสือ-เนตรนารี-ยุวกาชาดโรงเรียนในสังกัด พร้อมจัดสวัสดิการ 20 รายการ
๑๔:๔๓ อิเดมิตสึ ร่วมเปิดฉาก ARRC 2025 ผลักดันนักบิดเอเชียสู่ระดับโลก
๑๔:๐๔ หาดทิพย์ (HTC) จัดประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 อนุมัติจ่ายเงินปันผลงวดสุดท้ายของปี 2567 ในอัตรา 0.57 บาทต่อหุ้น
๑๔:๒๖ Jeff Satur ชวนทุกคนให้ค้นพบตัวเองในเวอร์ชั่นที่สวยงาม ในซิงเกิลใหม่ ฉันก่อนเจอเธอ (Lost and Found)
๑๔:๐๒ คูลชาแนล ช่องภาพยนตร์ไทยคลาสสิค เปิดภาพยนตร์เก่าครบรส 25 วัน 25 เรื่องตลอดเดือนนี้