มูลนิธิศุภนิมิตฯ ร่วมหยุดการแพร่ระบาด COVID-19 จัดโครงการพัฒนา อสม. การศึกษาเพื่อเตรียมน้องกลับสู่โรงเรียน

พุธ ๑๕ กรกฎาคม ๒๐๒๐ ๐๙:๐๘
มูลนิธิศุภนิมิตฯ ร่วมหยุดการแพร่ระบาด COVID-19 จัดโครงการพัฒนา อสม. การศึกษาเพื่อเตรียมน้องกลับสู่โรงเรียน เพียงร่วมอุปการะเด็ก 1 คน ช่วยเหลือเด็กยากไร้ได้ถึง 3 จากการบริจาคต่อเนื่อง 600 บาทต่อเดือน

World Vision Foundation of Thailand หรือ มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย เป็นองค์กรคริสเตียนทำงานพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็ก ครอบครัวและชุมชน งานบรรเทาทุกข์ฉุกเฉิน และ การส่งเสริมความเป็นธรรมในสังคมมายาวนานเป็นปีที่ 46 โดยปัจจุบันมีโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตเดก ครอบครัว และ ชุมชน ดำเนินการอยู่จำนวน 76 โครงการในพื้นที่ 42 จังหวัดในประเทศไทย มีเด็กในความอุปการะจำนวน 62,000 คน โดยมีเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานในการดำเนินกิจกรรมโครงการต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในระดับ หมู่บ้าน รวมถึง ชุมชนที่เด็ก ๆ อาศัยอยู่ โดยทำงานร่วมกับหุ้นส่วนในพื้นที่ ผู้นำชุมชน ตลอดจนครอบครัวเป้าหมาย และ เด็ก ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักในการทำงาน พื้นที่การดำเนินงานของมูลนิธิศุภนิมิตฯในปัจจุบันทำงานกับโรงเรียนในพื้นที่ชนบท ซึ่งมีความยากไร้และตั้งอยู่ในบริเวณติดกับชายแดนเป็นพื้นที่เข้าถึงอย่างยากลำบาก โดยปัจจุบันมูลนิธิฯทำงานร่วมกับโรงเรียนระดับประถมศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขึ้นพื้นฐาน หรือ สพฐ. จำนวนกว่า 927 โรงเรียน ทั่วประเทศ ครอบคลุมจำนวนนักเรียนในโรงเรียนทั้งสิ้น 150,049 คน ทั้งนี้เป็นเด็กที่อยู่ในโครงการของมูลนิธิศุภนิมิตสนับสนุนซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายโดยตรงจำนวน 22,384 คน

ล่าสุดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 ที่ผ่านมานั้น เกิดผลกระทบกับเด็ก ๆ โดยมีการเลื่อนเวลาเปิดทำการอีกครั้งในวันที่ 1 กรกฏาคม 2563 ที่ผ่านมา ทั้งนี้การกลับเข้าสู่การจัดการเรียนการสอนอีกครั้งในสถานการณ์ที่ยังไม่มีวัคซีน หรือ ยารักษา จำเป็นจะต้องเฝ้าระวังและป้องกันการเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ไม่ให้กลับมาระบาดในรอบที่สอง โดยมูลนิธิศุภนิมิตฯ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญและความเป็นไปได้ของการเข้าร่วมโครงการของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ในเรื่องการพัฒนาอาสาสมัครการศึกษา (อสม. การศึกษา) โดยมีเจ้าหน้าที่ขอมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทยที่ทำงานในแต่ละชุมชนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในอสม.การศึกษา เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการให้คำแนะนำด้านการศึกษา ด้านสุขภาพอนามัยและการปรับตัวให้กับเด็กนักเรียนในพื้นที่ โดยได้ดำเนินการใน 126 โรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่ดำเนินงานของมูลนิธิศุภนิมิตฯ 42 จังหวัดทั่วประเทศ เกิดเป็นเครือข่าย #อาสาสมัครการศึกษา รวมกว่า 1,775 คน ร่วมกันขับเคลื่อนเตรียมพร้อมเด็กนักเรียนระดับประถมศึกษาจากพื้นที่ห่างไกลทั่วประเทศรวมกว่า 4,808 คน ทั้งสำหรับการศึกษาเล่าเรียน และการเตรียมพร้อมดูแลสุขอนามัยทั้งส่วนบุคคล และส่วนรวม เพื่อป้องกันตนเองจากไวรัส COVID-19 ซึ่งเป็นโรคอุบัติใหม่ที่ยังไม่มีวัคซีนป้องกันได้

ซึ่งลักษณะโครงการเป็นการจัดกิจกรรมกลุ่มเรียนรู้ร่วมกันภายในชุมชนเดียวกันหรือชุมชนใกล้เคียง จัดในสถานที่สาธารณะ หรือ พื้นที่ส่วนกลางของชุมชน เป็นเวลา 1 วัน เน้นความรู้ ความเข้าใจในการป้องก้นตัวเองจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 การเตรียมตัวกลับเข้าสู่การเรียนการสอนจากการเปิดเทอมของโรงเรียน รวมถึงสะท้อนผลความรู้สึก และความกังวลต่อสถานการณ์ COVID-19 ในช่วงที่ผ่านมา และ หลังจากเปิดโรงเรียน โดยเป็นการนำกิจกรรมโดยเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนของมูลนิธิศุภนิมิตฯ ร่วมกับคุณครูที่รับผิดชอบที่อยู่ในพื้นที่ โดยประสานงานร่วมกับผู้นำชุมชน อาสาสมัครในชุมชน รวมถึงผู้ปกครองในการนำเด็กมารวมตัวกันพื้นที่สาธารณะของชุมชน เช่นศาลากลางบ้าน ลานเอนกประสงค์ หอประชุมของโรงเรียน โดยเด็กที่เข้าร่วมโครงการมีความรู้ ความเข้าใจ และ ความมั่นใจในการป้องกันตัวเองในการเตรียมตัวกลับเข้าสู่การเรียนอีกครั้ง

สำหรับวัตถุประสงค์ของโครงการ เพื่อเป็นการสนับสนุนนโยบายการสร้างอาสาสมัครการศึกษา ของ กสศ. โดยเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนของมูลนิธิศุภนิมิตฯ จะทำหน้าที่ให้คำแนะนำด้านการเรียน และด้านสุขภาวะให้กับนักเรียน สร้างความเข้าใจเพื่อเตรียมความพร้อมให้เด็กนักเรียนมีความรู้ในการป้องกันตัวเองจากโอกาสของการแพร่ระบาด COVID-19 จากการกลับเข้าสู่การเรียนการสอนอีกครั้ง รวมถึงเตรียมความพร้อมในการกลับเข้าสู่โหมดการมีส่วนร่วมกับการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียน เพื่อฟังเสียงของเด็กในด้านความกลัว ความกังวล และสิ่งที่เด็ก ๆ ต้องการการสนับสนุนหรือช่วยเหลือให้ลดความกังวล และนำไปสู่การจัดการเรียนการสอน หรือ การเตรียมความพรัอมในการการจัดการภัยพิบัติอันมีลักษณะคล้ายคลึงกับ COVID-19 ต่อไป เด็กนักเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรมได้มีโอกาสแบ่งปันความรู้สึกที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์และสะท้อนความคิดเห็นในการเตรียมตัวกลับไปสู่การเรียนการสอนอีกครั้ง เพื่อหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องมีข้อมูลที่มาจากเสียงของเด็กต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และต่อมาตรการต่าง ๆ ที่จะมีผลกระทบกับเด็กเพื่อใช้ในการพิจารณาวางแผน หรือ วางแนวทางในการทำงานในระยะต่อไป

นอกจากนี้ในช่วงหลังวิกฤต COVID-19 ทางมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย ได้เล็งเห็นชีวิตเด็กๆยากไร้อีกจำนวนมาก และหลายครอบครัวที่ต้องเผชิญกับสภาวะและความฝันของเด็กๆอาจไม่ได้ไปต่อ เนื่องจากความยากลำบากที่ครอบครัวที่ต้องตกอยู่ในความเสี่ยงเรื่องรายได้และอาชีพของพ่อแม่ ที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตอาหารการกิน รวมถึงค่าใช้จ่ายอุปกรณ์การอ่านเขียนในช่วงเปิดเรียน เราจึงมุ่งเน้นไปที่โครงการอุปการะเด็ก ให้ความช่วยเหลือในยามวิกฤติ และพัฒนาคุณภาพชีวิตในระยะยาว โดยผู้ที่มีความประสงค์จะช่วยเหลืออุปการะ สามารถมอบสิ่งที่จำเป็นเช่น น้ำ อาหาร อุปกรณ์การเรียน และการดูแลสุขภาพ รวมถึงการพัฒนาคุณภาพชีวิต เด็กและครอบครัว และชุมชน เพื่อให้หลุดพ้นความยากไร้ และดูแลตนเองได้อย่างยั่งยืน

การบริจาคเงิน 600 บาท หรือเพียง 20 บาทต่อวัน โดยผ่านการอุปการะเด็ก 1 คน ช่วยให้เด็กอีก 2 คนในโครงการเดียวกัน ได้รับความช่วยเหลือให้มีชีวิตที่ดีขึ้น ด้วยรูปแบบการจัดสรรงบประมาณที่เป็นการรวบรวมเงินบริจาคของผู้อุปการะ และครอบครัว รวมทั้งเด็กยากไร้ที่มีความขาดแคลนคนอื่นๆ ในพื้นที่และชุมชน อาทิ อาหารแห้ง อุปกรณ์อนามัยช่วงภัยพิบัติ ,ชุดนักเรียน ชุดพละ รองเท้า อุปกรณ์การเรียน ,ค่าเดินทางไปโรงเรียน หรือ ไปพบแพทย์เวลาป่วย ,ค่ายา ค่ารักษาพยาบาล และมอบไก่ เป็ด พันธุ์ปลา พันธุ์ผัก เป็นแหล่งอาหารปลอดภัยในบ้านและอาชีพเสริม มูลนิธศุภนิมิตแห่งประเทศไทย จึงขอเชิญชวนผู้ที่สนใจร่วมอุปการะเด็ก ช่วยเหลือเด็กในอุปการะและครอบครัว ให้ความช่วยเหลือทั้งในภาวะวิกฤตและความจำเป็นในชีวิตที่ขาดแคลน ดยผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทรศัพท์ 02-022-9200 ถึง 2 หรือ อีเมลล์ [email protected] LINE: @worldvision-thai และสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.worldvision.or.th

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ