UWC ปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งใหญ่ ตัดขาย Non Core โรงไฟฟ้าชีวมวล 3 แห่ง กว่า 851 ล้านบาท จ่อไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนกำหนด กด D/E เหลือ 1.74 เท่า

พุธ ๑๕ กรกฎาคม ๒๐๒๐ ๐๙:๕๔
UWC จัดทัพ ปรับโครงสร้างธุรกิจ หลังเจรจาขายโรงไฟฟ้าชีวมวล 3 โรงให้ ACE 851 ล้านบาท เคลียร์หนี้เงินกู้โรงไฟฟ้ากว่า 320 ล้านบาท และเตรียมไถ่ถอนหุ้นกู้ 300 ล้านบาทก่อนกำหนด กด D/E จากเดิม 3.38 เท่า เหลือ 1.74 เท่า นำเสนอผู้ถือหุ้นอนุมัติ 20 สค.นี้

นายธีรชัย ลีนะบรรจง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอื้อวิทยา จำกัด(มหาชน) หรือ UWC เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งสำคัญ ด้วยการตัดขายธุรกิจโรงไฟฟ้าชีวมวลที่ไม่ใช่ธุรกิจหลัก (Non Core) โดยบริษัทฯ จะมุ่งเน้นธุรกิจเกี่ยวกับไฟฟ้าและเสาโทรคมนาคม ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์กว่า 53 ปี เพื่อให้ผลประกอบการพลิกฟื้นกลับมามีกำไรให้ได้เร็วที่สุด

บริษัทฯได้ลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นโรงไฟฟ้าชีวมวล กับบริษัท แอ๊บโซลูท คลีน เอ็นเนอร์จี้ จำกัด(มหาชน) หรือ ACE เพื่อขายโรงไฟฟ้า จำนวน 3 โรง ประกอบด้วย บริษัท ยูดับบลิวซี โกเมน ไบโอแมส จำกัด จังหวัดนครราชสีมา กำลังการผลิต 9.9 MW บริษัท ยูดับบลิวซี อำพัน ไบโอแมส จำกัด จังหวัดบุรีรัมย์ กำลังการผลิต 9.5 MW และบริษัท สตึก ไบโอแมส จำกัด จังหวัดบุรีรัมย์ กำลังการผลิต 7.5 MW โดยทั้ง 3 โรง มีกำลังการผลิตรวม 26.9 MW ในราคารวม 851 ล้านบาท โดยจะนำเสนอให้ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นอนุมัติในวันที่ 20 สิงหาคม 2563 และจะทำการซื้อขายเสร็จสมบูรณ์ในวันที่ 21 สิงหาคม 2563

การขายโรงไฟฟ้าชีวมวลทั้ง 3 แห่งนี้ จะทำให้บริษัทสามารถลดภาระการค้ำประกันเงินกู้ของโรงไฟฟ้าที่มีกับธนาคาร กว่า 320 ล้านบาท และจะสามารถนำเงินที่ได้จากการขายไปชำระคืนหุ้นกู้ จำนวน300 ล้านบาท โดยจะเป็นการไถ่ถอนก่อนกำหนด ซึ่งจะทำให้บริษัทประหยัดดอกเบี้ยจ่ายเกือบ 10 ล้านบาท นอกจากนี้ จะทำให้บริษัทมีภาระหนี้สินและต้นทุนทางการเงินที่ลดลง รวมทั้งจะทำให้อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E Ratio) ลดลงจาก 3.38 เท่า เหลือเพียง 1.74 เท่า ส่งผลให้ฐานะการเงินและสภาพคล่องของบริษัทดีขึ้น

การจำหน่ายโรงไฟฟ้าทั้ง 3 โรงในครั้งนี้ เป็นการปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งใหญ่ โดยบริษัทได้หยุดการดำเนินธุรกิจที่ไม่สร้างผลกำไร ตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นมา อาทิ ธุรกิจพืชพลังงานและก๊าซชีวภาพ ธุรกิจโรงไม้สับในกัมพูชา จนถึงการขายโรงไฟฟ้าชีวมวลทั้ง 3 แห่งในครั้งนี้ หลังจากนี้บริษัทจะสร้างการเติบโตและผลกำไรโดยเร็วที่สุด จากการมองเห็นโอกาสทางธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับระบบส่งไฟฟ้าและเสาเทเลคอมในต่างประเทศ ซึ่งจะสร้างรายได้และกำไรให้กับบริษัทได้อย่างต่อเนื่องในระยะยาว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ