นางสาวแสงเดือน ตั้งธรรมสถิตย์ ผู้ร่วมก่อตั้งและหัวหน้าผู้บริหารด้านปฏิบัติการจ๊อบไทย (JobThai) ได้เปิดเผยว่า จ๊อบไทยมีความพร้อมในการทำงานจากระยะไกล เนื่องจากมีความคุ้นเคยกับการทำงานผ่านระบบคลาวด์ ระหว่างสำนักงานใหญ่กรุงเทพฯ กับสาขาเชียงใหม่มาก่อน ซึ่งการปรับรูปแบบการทำงานครั้งนี้ ยังครอบคลุมการปรับออฟฟิศใหม่ พัฒนาระบบที่ใช้บริหารจัดการด้านงานบุคคล และใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้ทำงานร่วมกันผ่านระบบออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- ทำงานที่ไหนก็ได้ อุปกรณ์ทำงานไม่พร้อม JobThai พร้อมส่งให้พนักงานถึงที่
หลังจากที่จ๊อบไทยได้ออกมาตรการให้พนักงานทำงานที่บ้าน (Work from Home) ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 แล้วพบว่าประสิทธิภาพการทำงานดีขึ้น รูปแบบการทำงานจึงถูกปรับเพื่อให้พนักงานมีอิสระในการทำงาน และช่วยลดความหนาแน่นเมื่อต้องเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ โดยพนักงานทุกคนสามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเข้าออฟฟิศ พร้อมบริการพิเศษเพื่อพนักงานของจ๊อบไทยคือขนส่งอุปกรณ์สำนักงานที่จำเป็น ไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์, จอคอมพิวเตอร์, โต๊ะทำงาน, เก้าอี้ ตรงถึงบ้านอีกด้วย
- Open-plan Offices ช่วยเรื่อง Social Distancing
สภาพแวดล้อมในการทำงานเป็นสิ่งที่จ๊อบไทยให้ความสำคัญมาโดยตลอด หากวันไหนพนักงานคิดถึงอยากเข้าออฟฟิศก็สามารถทำได้ โดยปัจจุบันจ๊อบไทยได้ปรับออฟฟิศเป็นแบบเปิด (Open-plan Offices) หรือไม่มีโต๊ะประจำ และจัดตู้ล็อกเกอร์ให้พนักงานเก็บอุปกรณ์แทนเพื่อลดการมีสิ่งของเยอะเกินความจำเป็นบนโต๊ะทำงาน ทำให้สามารถทำความสะอาดได้สะดวกขึ้น สำหรับโต๊ะทำงานในออฟฟิศก็ได้ทำการเว้นระยะห่าง และทำความสะอาดอุปกรณ์ส่วนกลางอย่างสม่ำเสมอ จ๊อบไทยยังควบคุมจำนวนพนักงานที่อยากจะเข้ามาทำที่ออฟฟิศไม่ให้มีจำนวนมากเกินไปด้วย เพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงจากการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19
- พัฒนาแอปพลิเคชันในการจัดการด้านทรัพยากรบุคคล
บริษัท ทิงค์เน็ต จำกัด ผู้พัฒนาจ๊อบไทยได้พัฒนาแอปพลิเคชันที่ใช้ในการบริหารจัดการพนักงานขึ้นมาใช้ภายในองค์กร ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการทำงานจากระยะไกล (Remote Working) โดยแอปพลิเคชันนี้มีหน้าที่ในจัดการเรื่องการดูเวลาเข้า-ออกงาน และการแจ้งลา เป็นต้น นอกจากนี้ยังได้ยืดหยุ่นเวลาในการทำงานมากขึ้นจากเดิมที่ให้พนักงานเข้างาน 9 โมงเช้า ถึง 6 โมงเย็น ปรับเป็นการเก็บชั่วโมงการทำงานให้ครบ 8 ชั่วโมงต่อวันโดยรายงานตัวผ่านแอปพลิเคชันดังกล่าวนี้ ซึ่งช่วยให้การทำงานมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
- ทำงานออนไลน์คล่องตัว
เทคโนโลยีมีส่วนสำคัญมากที่จะทำให้การทำงานจากระยะไกล (Remote Working) ทำได้อย่างราบรื่น จ๊อบไทย จึงได้มีการจัดการด้านระบบไอทีเป็นอย่างดีและเลือกใช้เครื่องมือที่ช่วยสนับสนุนให้ทุกฝ่ายทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยพนักงานของจ๊อบไทยทุกคนสามารถสร้างไฟล์เอกสาร รับ-ส่งงาน ประชุมภายในและภายนอกองค์กร ตลอดจนการอนุมัติเอกสารผ่านระบบออนไลน์ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว แม้กระทั่งในส่วนงานที่มีความซับซ้อนของระบบ อย่างงาน Call Center ก็สามารถทำงานจากระยะไกลได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นเดียวกัน
การปรับการทำงานรูปแบบใหม่นี้เป็นวิธีการทำงานที่ตัวแทนแต่ละทีมได้เข้ามาประชุมถึงข้อจำกัดในการทำงานต่าง ๆ ปรึกษา หาทางออกร่วมกัน จนออกมาเป็นรูปแบบการทำงานแบบใหม่นี้ ซึ่งองค์กรจำเป็นต้องมีความพร้อมด้านโครงสร้างระบบ วิธีการทำงาน การรับฟังความต้องการจากพนักงานเพื่อหาแนวทางที่เหมาะสม
เมื่อ Remote Working เป็น New Normal ในการทำงานที่องค์กรและคนทำงานต่างให้ความสนใจ ความยืดหยุ่นในการทำงาน รวมถึงความสะดวกสบายในการหางาน สมัครงานจึงกลายเป็นปัจจัยหนึ่งที่คนหางานต้องการจากองค์กร วิธีในการสรรหาบุคลากรจึงมีการปรับเปลี่ยนตามเช่นกัน จ๊อบไทยจึงเพิ่มฟีเจอร์เพื่อตอบโจทย์การหางานถึง 2 ฟีเจอร์คือ 1.การค้นหางานที่ให้ทำงานที่บ้านได้ (Work from Home) 2.ค้นหางานที่เปิดรับสัมภาษณ์ออนไลน์ เพื่อสร้างความสะดวก ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ประกอบการและคนหางานในช่วงสถานการณ์นี้ด้วย โดยคนหางานสามารถใช้งานฟีเจอร์ดังกล่าวนี้ได้ง่ายในหน้าแรกของจ๊อบไทย สำหรับฝั่งผู้ประกอบการก็สามารถเข้ามาอัปเดตตำแหน่งงานที่มีรูปแบบการทำงานแบบ Work from Home และ สัมภาษณ์ออนไลน์ได้สะดวกเช่นเดียวกัน จ๊อบไทย ยังมีบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์ต่อคนทำงานอีกมากมาย โดยผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่จ๊อบไทย (JobThai) โทรศัพท์ 02-353-6900 หรือเข้าไปที่ www.jobthai.com