นายกฤษฎา ศังขมณี รองผู้ว่าการ (วิชาการ) รักษาการแทนผู้ว่าการ กปภ. เปิดเผยว่า กปภ. ในฐานะหน่วยงานรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงมหาดไทยมีภารกิจหลักในการผลิตและจำหน่ายน้ำประปาให้บริการประชาชนในพื้นที่ 74 จังหวัดทั่วประเทศ ยกเว้นในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ จึงต้องสำรวจและจัดหาแหล่งน้ำดิบไว้ให้พร้อมอยู่เสมอ โดยแหล่งน้ำดิบของ กปภ. ส่วนใหญ่อาศัยแหล่งน้ำดิบบนพื้นผิวดินตามธรรมชาติ และจากสถานการณ์ภัยแล้งที่รุนแรงขึ้นทุกปี กปภ. เร่งวางแผนเตรียมความพร้อมโดยจัดหาแหล่งน้ำดิบสำรองนอกจากแหล่งน้ำดิบหลักไว้ให้ได้มากที่สุด เพื่อเป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำสำหรับใช้อุปโภคบริโภคในช่วงหน้าแล้งและภาวะฝนทิ้งช่วงทำให้ไม่มีน้ำฝนเข้ามาเติมในแหล่งน้ำตามธรรมชาติ โดย กปภ. ได้รับอนุมัติงบกลางโครงการเร่งด่วนเพื่อกักเก็บน้ำในฤดูฝนปี 2563 งบประมาณกว่า 18 ล้านบาท ตามมติ ครม. 17 มีนาคม 2563 จำนวน 3 โครงการ ได้แก่ งานขุดสระเก็บน้ำดิบ เพื่อเพิ่มน้ำต้นทุน (เพิ่มเติม) กปภ.สาขาเมืองพล จ.ขอนแก่น งานขุดขยายเพิ่มความจุสระพักน้ำดิบคลองยายร้าและคลองบางไผ่ กปภ.สาขาบ้านฉาง อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ซึ่งจะทำให้ กปภ. มีปริมาณน้ำดิบมาใช้ผลิตน้ำประปาเพิ่มขึ้น 330,000 ลูกบาศก์เมตร และสามารถรองรับความต้องการใช้น้ำได้อีก 8,235 ครัวเรือน โดยขณะนี้ทั้ง 3 โครงการได้ดำเนินการแล้วเสร็จและพร้อมกักเก็บน้ำแล้วเรียบร้อย
รักษาการแทนผู้ว่าการ กปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า อย่างไรก็ตาม กปภ. ต้องขอความร่วมมือทุกครัวเรือนให้ใช้น้ำอย่างประหยัดและรู้คุณค่า ภายใต้แนวคิด "Save Water, you make it : ประหยัดน้ำ คุณทำได้" เพราะทรัพยากรน้ำมีจำนวนจำกัด การกักเก็บน้ำยังต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก รวมทั้งตรวจสอบระบบประปาภายในอาคารบ้านเรือนว่าไม่มีจุดแตกรั่ว ซึ่งเป็นสาเหตุของค่าน้ำประปาสูงผิดปกติและสูญเสียทรัพยากรน้ำไปอย่างเปล่าประโยชน์ หากประชาชนพบเห็นท่อประปาแตกรั่ว กรุณาแจ้งที่ กปภ.สาขาที่ใช้บริการ หรือ PWA Contact Center 1662