เนื่องในโอกาสครบรอบ 22 ปีในประเทศไทย สตาร์บัคส์ ผู้นำแห่งวัฒนธรรมการดื่มกาแฟ จะมาเผยเคล็ดลับการชงกาแฟแบบดริปด้วยเครื่องชง Pour Over สุดคลาสสิค และเครื่องชง Cafflano ที่ทันสมัยพกพาง่าย กับแนวคิด “Be a Barista with Starbucks Coffee Masters” ให้ลูกค้าได้ฝึกทักษะการเป็นบาริสต้าด้วยตนเอง และรื่นรมย์กับกาแฟคุณภาพเยี่ยมจากสตาร์บัคส์ได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าจะอยู่ที่บ้าน ที่ทำงาน หรือ เมื่อออกเดินทางท่องเที่ยว โดยคอฟฟี่ มาสเตอร์ หรือผู้เชี่ยวชาญเรื่องกาแฟของสตาร์บัคส์ที่ผ่านการอบรมถึง 5 ระดับ จะมาสาธิตการชงกาแฟ “ม่วนใจ๋ เบลนด์” เมล็ดกาแฟสัญชาติไทยชนิดแรกและชนิดเดียวจากสตาร์บัคส์ ด้วยเครื่องชงทั้งสองชนิด แบบ LIVE สด ในวันพฤหัสที่ 23 กรกฎาคม 2563 เวลา 16:30 น. ทาง www.facebook.com/StarbucksThailand
ทั้งนี้ การชงแบบ Pour Over หรือที่เรารู้จักในชื่อของการชงแบบ “ดริป” เป็นวิธีการชงกาแฟที่เรียบง่าย และใช้เวลาไม่นาน โดยอาศัยเทคนิคการรินน้ำร้อนลงไปบนกาแฟที่บดแล้ว วนเป็นวงกลมช้าๆ ประมาณ 3 นาที เพื่อสกัดรสชาติของกาแฟออกมาให้ได้มากที่สุด การชงด้วยวิธีนี้จะดึงรสชาติและจุดเด่นของเมล็ดกาแฟออกมา ให้น้ำกาแฟที่ได้รสชาติที่สะอาด เข้มข้น
ส่วน Cafflano เป็นเครื่องชงกาแฟสมัยใหม่จากประเทศเกาหลีใต้ ที่เพิ่งเริ่มมีจำหน่ายเมื่อ 6 ปีที่แล้ว โดยภายนอก Cafflano อาจมีรูปลักษณ์เหมือนทัมเบลอร์หรือกระติกน้ำทั่วไป จึงง่ายต่อการพกพา และเหมาะสำหรับการเดินทาง เมื่อเปิดแยกส่วนออกมา เครื่อง Cafflano สามารถตวง บด และชงเมล็ดกาแฟ และเป็นทัมเบลอร์สำหรับใช้ดื่มกาแฟได้อย่างสะดวก จบในเครื่องเดียว โดยเครื่อง Cafflano ประกอบไปด้วย 4 ส่วนคือ เครื่องบดเซรามิกที่สามารถปรับระดับการบดได้, การินน้ำสำหรับดริปที่จุน้ำได้ 270 มล. (เพียงพอสำหรับกาแฟ 1 แก้ว), ฟิลเตอร์สแตนเลสสำหรับการดริป และส่วนล่างจะเป็นทัมเบลอร์ 2 ชั้นที่สามารถเก็บความร้อนและความเย็นของกาแฟได้อย่างดี
ทั้งนี้ ในการสาธิตทาง Facebook Live ในวันพฤหัสที่ 23 กรกฎาคม 2563 เวลา 16:30 น. บาริสต้าจากสตาร์บัคส์จะใช้เมล็ดกาแฟม่วนใจ๋ เบลนด์ในการสาธิต โดยเมล็ดกาแฟชนิดนี้ถือเป็นความภาคภูมิใจของสตาร์บัคส์ ประเทศไทย เนื่องจากเป็นเมล็ดกาแฟที่บริษัทรับซื้อจากชาวไร่กาแฟในจังหวัดเชียงใหม่ในราคาที่ยุติธรรม โดยรายได้ 5 เปอร์เซ็นต์ ที่ได้จากการจำหน่ายกาแฟม่วนใจ๋ เบลนด์ ในประเทศไทย และอีกหลายประเทศในเอเชีย จะนำไปช่วยพัฒนาชีวิตและความเป็นอยู่ของชาวไร่กาแฟทางภาคเหนือของประเทศไทย นอกจากนี้ สืบเนื่องจากร่วมมือในการผลิตกาแฟม่วนใจ๋ สตาร์บัคส์ยังได้จัดตั้งร้านกาแฟเพื่อชุมชน ที่ถนนหลังสวน กรุงเทพฯ โดยรายได้ 10 บาทในการขายเครื่องดื่มทุกแก้วที่ร้านสตาร์บัคส์ สาขาหลังสวน จะนำไปมอบให้องค์กรพัฒนาชาวเขาแบบผสมผสานเพื่อสนับสนุนการสร้างศูนย์การเรียนรู้ให้แก่ชุมชนชาวไร่กาแฟบ้านแม่ขี้มูกน้อยและบ้านกองกาย อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ รวมถึงโครงการด้านการศึกษา สุขอนามัย และโครงการชลประทานต่างๆ
เกี่ยวกับสตาร์บัคส์
บริษัท สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ มุ่งมั่นในการเสาะแสวงหาและคัดสรรเมล็ดกาแฟอาราบิก้าชั้นเยี่ยมจากทั่วโลกมาตั้งแต่ปี พ.ศ 2514 สตาร์บัคส์ ถือเป็นผู้นำและผู้บุกเบิกธุรกิจกาแฟคั่วบด และร้านกาแฟระดับโลก ด้วยมาตรฐานในการดำเนินธุรกิจและความมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศ ทำให้สตาร์บัคส์สามารถมอบ ประสบการณ์สตาร์บัคส์ ที่พิเศษให้กับผู้บริโภคผ่านกาแฟทุกแก้วของสตาร์บัคส์ ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประสบการณ์สตาร์บัคส์ได้ โดยคลิกไปที่ www.starbucks.com
เกี่ยวกับสตาร์บัคส์ คอฟฟี่ ไทยแลนด์
สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ ไทยแลนด์ เปิดดำเนินการในประเทศไทยสาขาแรกเมื่อเดือนกรกฎาคม 2541 ปัจจุบันมีสาขาทั้งหมด 407 สาขา ทั่วประเทศไทย สตาร์บัคส์ มุ่งมั่นที่จะมอบ ประสบการณ์สตาร์บัคส์ ให้กับผู้บริโภคในประเทศไทย ขณะเดียวกันก็มุ่งมั่นในการให้ความช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมบริเวณแหล่งปลูกกาแฟ พร้อมทั้งชาวไร่กาแฟและครอบครัวชาวไร่กาแฟชาวไทยภูเขาทางภาคเหนือ ภายใต้ชื่อ กาแฟม่วนใจ๋ เบลนด์ สตาร์บัคส์ มุ่งมั่นในการสร้างสรรค์เครื่องดื่มพิเศษเฉพาะบุคคลเพื่อมอบบริการที่ดีที่สุดให้แก่ผู้บริโภค พาร์ทเนอร์สตาร์บัคส์ พร้อมที่จะแบ่งปันความรู้ ความชำนาญในด้านกาแฟของสตาร์บัคส์ ให้กับผู้บริโภคทุกคน ด้วยการเตรียมเครื่องดื่มแบบพิเศษเฉพาะบุคคล หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสตาร์บัคส์ กรุณาคลิกไปที่ www.starbucks.co.th