ไททา เดินหน้านำองค์ความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรมเกษตร ผสานการทำเกษตรกรรมดั้งเดิม

พฤหัส ๒๓ กรกฎาคม ๒๐๒๐ ๑๗:๑๓
ไททา เดินหน้านำองค์ความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรมเกษตร ผสานการทำเกษตรกรรมดั้งเดิม ผลักดันการทำเกษตรแบบสมาร์ทฟาร์มมิ่งรับยุคนิวนอร์มอล ร่วมมือภาครัฐและเอกชน ดันไทยเป็นแหล่งอาหารโลกและสร้างความมั่นคงทางอาหารให้ประเทศไทย

สมาคมฯ นวัตกรรมเพื่อการเกษตรไทย หรือไททา แนะภาคการเกษตรไทยจะผงาดในอุตสาหกรรมการเกษตรโลกและเป็นแหล่งอาหารที่มั่นคงภายในประเทศในยุคนิวนอร์มอลนั้น จะต้องปรับตัวสู่ระบบการผลิตแบบยั่งยืน เร่งผลักดันให้เกิดการทำเกษตรแบบสมาร์ทฟาร์มมิ่งอย่างแท้จริง ผลิตตามแนวทางมาตรฐานเกษตรกรรมที่นานาประเทศตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกณฑ์วัดความปลอดภัยต่อผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม อาทิ GAP หรือการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี ตลอดจนนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่าง ๆ ที่ช่วยให้การทำเกษตรกรรมมีประสิทธิภาพประสิทธิผล มาปรับใช้

ดร.วรณิกา นาควัชระ บีดิงเฮ้าส์ ผู้อำนวยการบริหาร สมาคมฯ นวัตกรรมเพื่อการเกษตรไทย (ไททา) เผยว่า ภารกิจหลักของไททา คือการช่วยยกระดับภาคเกษตรกรรมไทยให้ก้าวขึ้นสู่ระดับสากล โดยยึดมาตรฐานสากลเป็นหลักปฏิบัติ เรามีพันธมิตรที่พร้อมจะสนับสนุนองค์ความรู้ นวัตกรรมใหม่ ๆ และเทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อให้เกษตรกรไทยเติบโตได้อย่างยั่งยืนและมีศักยภาพการแข่งขันในตลาดโลก

“นโยบายของไททาในครึ่งปีหลังนี้ คือการสานต่อการเผยแพร่ความรู้เรื่อง GAP และรณรงค์ให้เกษตรกรหันมาตระหนักถึงความปลอดภัยต่อตนเอง ต่อสิ่งแวดล้อม และต่อผู้บริโภค เพื่อให้เกษตรกรไทยสามารถสร้างผลผลิตที่มีคุณภาพสูง มีความปลอดภัย ได้มาตรฐานซึ่งจะเป็นการลดขีดจำกัดทางการค้าในการส่งออก พร้อมส่งเสริมให้เกษตรกรเข้าถึงปัจจัยทางการผลิตที่มีคุณภาพ รวมถึงการทำแคมเปญ 'Eat Safe Live Safe’ (อีทเซฟลีฟเซฟ) หรือ 'กินอยู่ปลอดภัย’ รณรงค์ให้ผู้บริโภคตระหนักถึงความปลอดภัยในอาหารรวมถึงวิธีเลือกอาหารปลอดภัยควบคู่กันไปด้วย”

สถานการณ์ในขณะนี้ ภาคการเกษตรทั่วโลกกำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายเป็นอย่างมาก หลายประเทศกำลังเผชิญกับวิกฤติความมั่นคงทางอาหาร ซึ่งเป็นผลมาจากสภาวะอากาศเปลี่ยนแปลง และการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ไม่ได้ส่งผลกระทบกับชีวิตประจำวันเพียงเท่านั้น แต่ยังสร้างปัจจัยลบในอีกหลายด้านที่เป็นอุปสรรคต่อการผลิตอาหารให้เพียงพอต่อความต้องการ โดยเฉพาะมาตรการล็อคดาวน์ ที่นอกจากจะทำให้ไม่สามารถขนส่งสินค้าและปัจจัยการผลิตข้ามประเทศได้ ยังส่งผลให้เกิดการขาดแคลนแรงงานในระบบ เนื่องจากแรงงานต่างประเทศต้องเดินทางกลับภูมิลำเนาในสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนนี้

“หลายประเทศเกิดวิกฤติขาดแคลน เมล็ดพันธุ์คุณภาพ ปุ๋ย สารกำจัดแมลง เคมีเกษตรคุณภาพอื่น ๆ ในขณะที่ประเทศเราช่วงก่อนหน้านี้สินค้าเกษตรไม่สามารถส่งออกไปได้ ซึ่งการพึ่งพาอุปสงค์และอุปทานจากแหล่งผลิตระหว่างประเทศนี้ทำให้เกิดการทบทวนระบบการผลิตที่หันมาสู่การผลิตเพื่อพึ่งตนเองมากขึ้น ผลที่ตามมาก็คือจากที่เคยผลิตพอส่งออก ก็จะเหลือแค่ผลิตให้พอกินในประเทศ ฉะนั้นในวิกฤตนี้มีโอกาสสำหรับประเทศไทย ในการเป็นผู้ผลิตอาหารรายใหญ่ของโลก ที่มีความได้เปรียบในการเกษตรกรรม มีความพร้อมทั้งด้านภูมิประเทศ และความชำนาญ” ดร.วรณิกาเพิ่มเติม

ดังนั้นดร.วรณิกา มองว่าการจะผลักดันให้ไทยมีศักยภาพการแข่งขันในตลาดโลกยุคนิวนอร์มอลได้นั้น “เกษตรกรไทยต้องปรับตัวเป็นสมาร์ทฟาร์มเมอร์ ลดการพึ่งพาแรงงาน หันมาใช้เทคโนโลยี นวัตกรรมให้มากขึ้น เน้นการผลิตเพื่อคุณภาพ มากกว่าปริมาณ วางแผนการผลิตที่สอดคล้องกับตลาดและสภาพอากาศมากขึ้น รวมทั้งเร่งพัฒนาเกษตรกรรุ่นใหม่ ให้เข้าถึงองค์ความรู้ข้อมูลต่าง ๆ ยิ่งในช่วงที่ผ่านมามีการเดินทางกลับภูมิลำเนามากขึ้น มีคนรุ่นใหม่ที่หันมาทำการเกษตรมากขึ้น บางคนก็นำเทคโนโลยีมาช่วยหาตลาด หาช่องทางการขายให้ครอบครัว ซึ่งถ้าสามารถนำนวัตกรรม เทคโนโลยี ผสานกับความรู้พื้นฐานด้านเกษตรที่ส่วนใหญ่มีกันอยู่ มาต่อยอดร่วมกับปัจจัยการผลิตอื่น ๆ ก็จะสามารถสร้างระบบสมาร์ทฟาร์มมิ่งได้”

ดร.วรณิกายังกล่าวเสริมอีกว่า “GAP เป็นทางออกที่สมาคมฯ มองว่ายั่งยืนที่สุด เพราะให้ผลผลิตที่มีคุณภาพ ปลอดภัย เป็นที่ยอมรับตามมาตรฐานสากล และสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิต นอกจากนี้ อีกประโยชน์ที่สำคัญมากคือความปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเกษตรกรยุคนี้ต้องคำนึงถึงอย่างมาก เพราะโลกยุคใหม่นี้ ผู้บริโภคนอกจากจะห่วงสุขภาพแล้ว ยังมองไปถึงสิ่งแวดล้อม และแน่นอนว่าหลาย ๆ ประเทศคู่ค้าของไทยใช้ประเด็นสุขอนามัยพืชและสิ่งแวดล้อมและการทำลายระบบนิเวศเป็นหัวข้อเรื่องกีดกันทางการค้า ดังนั้นจึงเป็นการสำคัญอย่างยิ่งที่ต้องพัฒนาเรื่องของมาตรฐาน มี Traceability คือสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ สร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภคและคู่ค้า GAP จึงเป็นแนวทางปฏิบัติที่ให้ประโยชน์กับทุกฝ่าย”

“การจะปรับเปลี่ยนวิถีการทำเกษตรที่ทำสืบต่อกันมายาวนานต้องอาศัยหลายปัจจัยในการทำให้บรรลุผล ซึ่งก็รวมไปถึงนโยบายของภาครัฐ ที่จำเป็นจะต้องสอดคล้องกับความเป็นจริง และเอื้อประโยชน์ต่อเกษตรกรด้วย รัฐบาลต้องมีมาตรการในการสนับสนุนเกษตรกรอย่างจริงจัง และที่สำคัญที่สุด ต้องเล็งเห็นอย่างถ่องแท้ถึงวิกฤตที่เกิดขึ้นจากนโยบายหรือมาตรการที่มิได้พิจารณาจากข้อเท็จจริง ความจำเป็นที่แท้จริงในการทำเกษตรกรรม อันจะนำไปสู่ความเสียหายของภาคเกษตรในอนาคตอันใกล้นี้ รัฐจำเป็นต้องหาทางแก้ไขและฟังเสียงเกษตรกรผู้เป็นผู้ปฏิบัติ จึงจะสามารถฝ่าวิกฤต และผลักดันให้การเกษตรไทยแข็งแกร่งในเวทีโลกได้” ดร.วรณิกา ทิ้งท้าย

สำหรับภาพรวมสินค้าเกษตรในปี 2563 จากปัจจัยทางเศรษฐกิจของโลกซึ่งคาดว่าในปี 2563 จะขยายตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เช่นเดียวกับ เศรษฐกิจภายในประเทศของไทย แสดงให้เห็นว่ากำลังซื้อของคนทั่วโลกมีการขยายตัวลดลง ดังนั้นจึงมีแนวโน้มว่าภาคการเกษตรไทยจะขยายตัวลดลงด้วย โดยสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรคาดการณ์ว่า GDP ภาคการเกษตรในปี 2563 จะขยายตัวเพียงร้อยละ 2 - 3 เท่านั้น กอปรกับในปี 2563 ไทยยังประสบกับปัญหาภัยแล้ง ที่ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำลดลงแทบทุกภาคของไทย รวมทั้งปริมาณน้ำฝนทั้งประเทศที่คาดว่าจะต่ำกว่าค่าปกติ ถึงร้อยละ 10 ในช่วงต้นปี ขณะที่ปัญหาโรคระบาด แมลง ศัตรูพืช ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง ภาพรวมสินค้าเกษตร ในปี 2563 จึงต้องวิเคราะห์ทั้งปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอก รวมถึงภาวะการผลิตและการตลาด

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๕ พ.ย. ดิ เอราวัณ กรุ๊ป เปิดตัว HOP NextGen ชวนนักศึกษาเยี่ยมชม ฮ็อป อินน์ เรียนรู้เทคนิคบริการแบบ Consistency is Yours พร้อมพัฒนาบุคลากรรุ่นใหม่
๑๕ พ.ย. คิง เพาเวอร์ ต้อนรับเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปี เปิดแคมเปญ THE POWER OF FUNTASTIC CELEBRATION 2025 ฉลองทุกความสุข สนุกไม่รู้จบ
๑๕ พ.ย. พันธุ์ไทย ชวนแฟนด้อม คัลแลนและพี่จอง จุ่ม การ์ดพันธุ์ไทยใจฟู ลิมิเต็ด อิดิชั่น
๑๕ พ.ย. BAM ทรานส์ฟอร์มองค์กรสู่ DIGITAL ENTERPRISE ตอกย้ำผู้นำ AMC ยุค 4.0 วางเป้าหมายยกระดับองค์กรสร้างโอกาสเติบโตอย่างยั่งยืน เตรียมส่ง อิสระ เดอะซีรีส์ ชวนลูกหนี้ BAM
๑๕ พ.ย. บางจากฯ ได้รับการประเมินด้านความยั่งยืนอันดับสูงสุดของโลก จาก SP Global 2024 ในกลุ่มอุตสาหกรรม Oil Gas Refinery and
๑๔ พ.ย. ซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล ออกบูธให้ความรู้เรื่องการใช้งานระบบดับเพลิงนร. พระหฤทัยนนทบุรี
๑๒ พ.ย. พนักงานซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล รับรางวัลเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานดีเด่น
๑๕ พ.ย. PROSPECT REIT ชูไตรมาส 3/67 โตเกินเป้า อัตราการเช่าพุ่งนิวไฮ หนุนจ่ายปันผลเด่น 0.2160 บาท
๑๕ พ.ย. CHAO ประกาศงบ Q3/67 กำไรพุ่งกว่า 62% รับตลาดส่งออกพีค จีนโตเด่น แย้ม Q4 เดินหน้าบุกตลาดในประเทศ สินค้าใหม่หนุนยอดขายปลายปี
๑๕ พ.ย. ฉลองเทศกาลลอยกระทงประจำปี 2567 ณ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ