เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ได้จัดประชุมออนไลน์เพื่อเตรียมความพร้อมผู้ประกอบการและผู้ส่งออกไทยที่ประสงค์เข้าร่วมโครงการจับคู่เจรจาการค้าสินค้าไลฟ์สไตล์และแฟชั่นผ่านช่องทางออนไลน์ (STYLE Bangkok Telematching in Lifestyle Online Virtual Exhibition :โครงการ L.O.V.E.) ซึ่งกำหนดจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 11-14 สิงหาคมนี้
L.O.V.E. เป็นโครงการจับคู่เจรจาการค้าระหว่างผู้ซื้อผู้นำเข้าทั่วโลกกับผู้ผลิตและส่งออกสินค้าไลฟ์สไตล์และแฟชั่นของไทย เพื่อส่งเสริมและกระตุ้นให้เกิดการเจรจาการค้าในช่วงที่การผลิตและส่งออกได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 โดยผู้ซื้อ/ผู้นำเข้า (Buyers/Importers) สามารถชมงานแสดงสินค้า STYLE Bangkok เสมือนจริง (Virtual Exhibition) และเข้าร่วมกิจกรรมจับคู่เจรจาการค้า (Business Matching) ผ่านเว็บไซต์ www.stayinstylebangkok.com ซึ่งนับเป็นมิติใหม่ของงานแสดงสินค้าและการทำการค้าระหว่างประเทศ
การจัดกิจกรรมจับคู่เจรจาการค้า (Business Matching) ในครั้งนี้ ได้แบ่งกลุ่มผู้ซื้อสินค้าออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ Host & Home เน้นเจาะกลุ่มผู้ซื้อกลุ่มโรงแรม ร้านอาหาร สถาบัน สถาปนิก อินทีเรีย อสังหาริมทรัพย์ และโปรเจกต์ต่างๆ Gifts for All เน้นเจาะกลุ่มผู้ซื้อกลุ่มห้างสรรพสินค้า ร้านค้าปลีกประเภทคอนเซ็ป สโตร์ ซีเล็คเต็ดช็อป Fashion in Love เน้นเจาะกลุ่มผู้ซื้อสินค้าสิ่งทอ แฟชั่น เครื่องหนัง กระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้ากีฬา ตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ รวมถึงสินค้าที่ตอบโจทย์ชีวิตปกติรูปแบบใหม่ (New Normal) และ The Niche เน้นเจาะกลุ่มผู้ซื้อตลาดเฉพาะที่มีขนาดเล็กแต่มีกำลังซื้อสูง และไทยมีศักยภาพ ประกอบด้วยสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยง (PET) สินค้าผู้สูงอายุ (60+) และสินค้าแม่และเด็ก
ทั้งนี้ ผู้ซื้อและผู้นำเข้า (Buyers/ Importers) จะส่ง Matching Request มายังผู้ส่งออกไทย โดยสามารถเข้าร่วมเจรจาการค้าออนไลน์ได้ทุกที่ทุกเวลา หรือสามารถใช้สถานที่สำหรับการเจรจาการค้าออนไลน์ได้ที่กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ถนนรัชดาภิเษก ซึ่ง DITP ได้จัดเตรียมสถานที่และอุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงล่าม ไว้อำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมโครงการ
สำหรับผู้นำเข้าที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรม สามารถลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ (Matching Request) และเลือกผู้นำเข้าไทยที่ต้องการเจรจาการค้าด้วย (E-Directory) ผ่านทางwww.stylebusinessmatching.com หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศทั้ง 58 แห่งทั่วโลก (DITP’s Overseas Office, Thai Trade Center)