จรรย์จารี ธรรมานักการตลาดตัวยงเปิดบริษัท ฌีฯ (SHE) ขอแย่งเค้กตลาดธุรกิจที่ปรึกษาและจัดอบรมด้านการตลาด

พฤหัส ๒๙ มิถุนายน ๒๐๐๖ ๑๔:๑๑
กรุงเทพฯ--29 มิ.ย.--กนกรัตน์ แอนด์ เฟรนด์
จรรย์จารี ธรรมานักการตลาดตัวยงเปิดบริษัท ฌีฯ (SHE) ขอแย่งเค้กตลาดธุรกิจที่ปรึกษาและจัดอบรมด้านการตลาด... เน้นจุดขายโดดเด่นเน้นความแตกต่างของบริษัทฯ ด้วยประสบการณ์จริง และแนวคิดที่ไม่เหมือนใคร
บริษัทฌี (ไทยแลนด์) จำกัด บริษัทที่ปรึกษาและจัดอบรมด้านการตลาด ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2548 โดย จรรย์จารี ธรรมา หนึ่งในนักการตลาดผู้มีฝีมือ และประสบการณ์ที่สร้างให้แบรนด์ต่างๆ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ประสบความสำเร็จมามากมายจนจัดได้ว่า เป็นกูรูแห่งแวดวงการตลาด ซึ่งเป็นที่ยอมรับและมีชื่อเสียงผู้หนึ่ง
เริ่มแรกของการก่อตั้งบริษัทฯ จรรย์จารี ธรรมา ได้เป็นผู้บุกเบิกด้วยตนเอง และมีลูกค้ารายแรกคือ ฝ่ายลูกค้ารายย่อย (Retail Marketing) ของธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สำนักงานใหญ่ โดยมี คุณกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ SEVP ให้ความวางใจในการจัดอบรมให้กับผู้บริหารในแผนกมีความรู้ในด้านการสร้างแบรนด์ให้ ดังเช่นที่สินค้าอุปโภคบริโภคซึ่งมีการแข่งขันสูง หลังจากนั้น บริษัท ฌีฯ ก็ได้รับการติดต่ออย่างต่อเนื่องให้ช่วยในการพัฒนาฝึกอบรม และตามด้วยการให้คำปรึกษาซึ่งเป็นธุรกิจต่อเนื่องกันให้กับบริษัททั้งที่มีชื่อเสียงแล้ว แต่ต้องการพัฒนาทางด้านการตลาดให้มีศักยภาพมากขึ้น หรือบริษัทคนไทยขนาดเล็กที่มีความเชื่อมั่นเรื่องการทำการตลาดอย่างมีขั้นตอน
จรรย์จารี กล่าวต่อไปว่า “จุดเด่นของ ฌีฯ ซึ่งมีความแตกต่างจากบริษัทที่ปรึกษา และจัดอบรมทางด้านการตลาดอื่นๆ คือ ความคิดเรื่อง “Head & Heart” Solution โดยการที่ ฌีฯ สอนและให้คำปรึกษาโดยยึดหลักว่า ผลของงานจะต้องสมดุลย์ทั้งด้านสมอง (เหตุผล) และด้านอารมณ์ (หัวใจ) เท่าเทียมกัน เพราะมีความเชื่อว่า สิ่งนี้ทำให้ ฌีฯ เป็นผู้ที่เข้าถึงผู้ที่เราต้องการได้อย่างแท้จริง”
แม้ว่าในปัจจุบันจะมีบริษัทที่ปรึกษา และจัดฝึกอบรมทางด้านการตลาดเกิดขึ้นมากมาย แต่ จรรย์จารี สามารถแยกแยะถึงความแตกต่างของ บริษัท ฌีฯ ไว้อย่างชัดเจนดังนี้
1. เรื่องความชำนาญที่แตกต่าง
ฌีฯ มีความชำนาญเรื่องการฝึกอบรมเชิงแก้ปัญหา และหลังการฝึกจะมีบริการให้คำปรึกษาต่อเนื่อง โดย “ฌีฯ คลีนิค” เพื่อช่วยให้คำแนะนำต่อเนื่องเมื่อนำไปใช้จริง เพราะการนำไปประยุกต์ได้จริงคือ หัวใจของการเรียนรู้
2. การนำเฉพาะปัญหาหรือตัวอย่างที่เกียวข้องใช้ในการสอน
โดยการใช้ Case ที่บริษัทประสบปัญหาอยู่จริงมาแก้ขณะสอน เหล่านี้จึงทำให้เกิดการนำไปปฏิบัติจริงนอกการอบรมอย่างชัดเจน
3. หลักสูตรของ ฌีฯ จะมาจากการรวบรวมจุดเด่นจากบริษัทต่างๆ และนำมาเรียบเรียงใหม่ให้เหมาะสมกับคนไทยและตลาดสินค้า
เนื่องจากมีประสบการณ์จริงทุกหลักสูตรของ ฌีฯ จะไม่มี “สูตรสำเร็จ” แต่จะใช้เป็นแนวทางการสอนเท่านั้น ก่อนเริ่มสอนจะมีการปรับอีก 20 - 40% เพื่อให้ตรงกับปัญหาจริงของกลุ่มผู้เรียนนั้นๆ
โดยวิสัยทัศน์ จรรย์จารี ต้องการให้ ฌีฯ เป็นผู้นำในตลาดพัฒนาคนและงานในด้านการตลาด รวมถึงในแง่ความรู้ทีมงาน การส่งเสริมความเข้าใจ และการช่วยให้ปฎิบัติได้จริง ทั้งนี้โดยได้มองเห็นถึงช่องว่างทางธุรกิจ และโอกาสในการเติบโตของบริษัท จากบริษัทที่เป็นบริษัทที่ปรึกษาต่างชาติ และสถาบันการศึกษาซึ่งมีขนาดตลาดสูงถึง 25,000 ล้านบาท ซึ่งมี Market Share 80% เป็นของบริษัทข้ามชาติ และเพียง 20% เป็นของคนไทยสืบเนื่องมาจากความสามารถในการพัฒนามาตรฐานไม่ได้เท่าเทียม (ที่มา: กรมพัฒนาธุรกิจการค้ากระทรวงพาณิชย์)
จรรย์จารี เชื่อว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะมีคำตอบในทุกๆ เรื่อง หากบริษัทฝึกอบรมต่างชาติจะชำนาญลูกค้าต่างชาติ หรือองค์กรไทย ส่วนใหญ่จะถนัด และมีทฤษฏีที่หลากหลายแม่นยำแต่ขาดประสบการณ์จริง ดังนั้น ฌีฯ จะขอจับส่วนแบ่งการตลาดสำหรับพัฒนาลูกค้าของไทยเและเน้นเรื่อง “การสอนเพื่อการนำไปปฏิบัติ และแก้ปัญหาเฉพาะหน้าจริง” มิใช่เพื่อเพิ่มพูนความรู้หรือการอัฟเดตตัวเองเพียงเท่านั้น นั่นเป็นการดึงจุดแข็งจากการทำงานจริงของตัวเธอ
หลักสูตรของ ฌีฯ แบ่งเป็น 3 กลุ่มใหญ่คือ
1. กลุ่มงานด้านการตลาด หลักสูตรจะหลากหลายเริ่มตั้งแต่การคิดคอนเซ็ปต์ของสินค้า(Course: Winning Brand Concept), การวางจุดยืนของแบรนด์ให้แม่นยำ (Course: How to in Brand Management), การทำงานด้านปฏิบัติต่างๆ เช่น การตรวจงานในตลาดจริงให้ชัดและแม่นยำ (Course: Effective Market Visit), การทำงานโฆษณาร่วมกับบริษัทโฆษณา (Course: How to select Best Advertising), การทำการส่งเสริมการตลาดแนวใหม่ (Course: Modern Sales Promotion Strategy), ไปจนถึงการเตรียมพร้อมต่อกรกับคู่ต่อสู้ล่วงหน้า (Course: Marketing Rambo)
2. กลุ่มงานด้านการวางแผนธุรกิจโดยรวม หลักสูตรการวางแผนธุรกิจแบบสมดุล (Course: Annual Plan - Balancing Model)
3. กลุ่มงานด้านการสื่อสารธุรกิจโดยการเขียน เริ่มตั้งแต่การเขียนอย่างง่ายในชีวิตประจำวัน (Course: Smart Business Writing), จนถึงงานเขียนที่ซับซ้อนแบบการเขียนแผนงาน (Course: BE SMART Perfect Proposal Writing)
ทั้งนี้ราคาของหลักสูตรจะเริ่มตั้งแต่ประมาณ 10,000 บาทต่อคน จนถึง 30,000 บาท ขึ้นอยู่กับความยาว และความซับซ้อนของโจทย์ และฌีฯ จะถนัดที่จะเข้าไปเปิดสอนพิเศษในแต่ละองค์กรมากกว่าเพื่อการแก้ปัญหาให้ตรงจุดจริง
จรรย์จารี เปิดเผยต่อไปว่า หลักสูตรที่ประสบความสำเร็จของการเปิดอบรมของ ฌีฯ ได้รับความสนใจทุกหลักสูตร แต่หลักสูตรที่ได้รับความสนใจต่อเนื่องมี 2 คอร์สคือ “How To” in Brand Management (การวางจุดยืนของแบรนด์ให้แม่นยำแนวปฏิบัติจริง) ซึ่งมีการนำผู้รับการอบรมออกตรวจตลาดจริง และสอนจริงในห้องวิจัยผู้บริโภค จนทำเป็นจริงๆ อีกหลักสูตรคือ งานเขียนที่ซับซ้อนแบบการเขียนแผนงาน (Course: BE SMART, Perfect Proposal Writing) เป็นเพราะคนไทยส่วนใหญ่เน้นการปฏิบัติ จึงยังขาดทักษะในการเรียบเรียงออกมาเป็นแผน จึงเขียนได้ด้อยกว่าบางชาติ การเขียนที่ดีจะช่วยขัดเกลาความคิดให้ชัดเจน รอบคอบ และทะลุปรุโปร่งขึ้น สำหรับลูกค้าของ ฌีฯ ในปัจจุบันมีคละหลายลักษณะในช่วงเพียง 12 เดือนที่ผ่านมา ทั้งขนาดเล็กและใหญ่ในหลากหลายกลุ่มสินค้า และกลุ่มบริการอาทิเช่น
ลูกค้างานฝึกอบรม:
- ธนาคารไทยพาณิชย์ (มหาชน) จำกัด - AIS
- บ. ปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) - สภาหอการค้าไทย
- สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย - บ. ไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์
- บ. บริสตอลไมเยอร์
ลูกค้างานที่ปรีกษาการตลาด:
- ฝ่ายบริการระบบไฟฟ้า การไฟฟ้านครหลวง
- มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง
- บ. โกลด์ซิตี้ (จำหน่ายรองเท้าผ้าใบ Gold City)
- คลีนิคทันตแพทย์อัศวนันท์
- บ. เบบี้สตอรี่ (จำหน่ายกางเกงผ้าสาลูสำเร็จรูปซักได้ NeNes’)
- บ. ห้างพระจันทร์โอสถ (จำหน่ายยาแผนโบราณตราพระจันทร์โอสถ)
- อินดาราสปา
สำหรับการวางเป้าหมายทางธุรกิจในปีนี้ ฌีฯ ตั้งเป้าไว้ว่า จะขยายฐานลูกค้าจาก 14 รายให้เป็น 50 รายภายในสิ้นปี 2007 รวมทั้งการเข้าฝึกอบรมหรือการเข้าเป็นที่ปรึกษา และการขยายการพัฒนาสู่คนทั่วไป ด้วยการมีคอร์สสำหรับบุคคลทั่วไปให้ได้เดือนละครั้งเป็นอย่างน้อย
ปัจจุบัน สิ้นปี 2007
ลูกค้าองค์กร 14 50
ลูกค้ารายบุคคล ไม่มี เดือนละครั้ง
จรรย์จารี ธรรมา กล่าวทิ้งท้ายว่า ฌีฯ เกิดจากแนวความคิดที่ว่า “การเรียนรู้ไม่มีวันสิ้นสุดตั้งแต่เกิดจนตาย อีกทั้งผู้ที่มีความรู้อาจมีความสามารถถ่ายทอดได้ไม่เท่ากัน” และพูดเสมอว่า “ตนเองไม่ใช่อาจารย์แต่รักการพัฒนาคนรุ่นหลังอย่างเช่นที่เธอเคยได้รับการพัฒนามาก่อน โดยบริษัทชั้นนำจากต่างชาติ” จุดเด่นที่เธอมีจึงมิได้มีอะไรไปมากกว่าการนำประสบการณ์จริงที่ได้รับในการปฎิบัติงานจริงที่มีระบบ และมีมาตราฐานสูงสุดเป็นเวลา 18 ปี มาประยุกต์เป็นสื่อการสอนที่สร้างสรรค์ น่าติดตาม และเข้าใจง่าย ผู้เข้าอบรมส่วนใหญ่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “เป็นความรู้ที่จับต้องได้ ไม่ต้องมาประยุกต์เองอีกครั้ง และนำไปปฎิบัติได้ทันที!”
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม:
บริษัท กนกรัตน์ แอนด์ เฟรนด์ จำกัด
โทร. 02-284-2662 ต่อ 112-113 Fax: 02-284-2291-2
คุณสรวงกนก จันทราสุงเนิน
คุณวิภาทิพย์ ส่งวาณิชย์
คุณกาญจนา พึ่งทรัพย์
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version