เกษตรฯ อัปเดตสวนและโรงคัดบรรจุ 4 ผลไม้ไทยดันขึ้นเว็บไซต์จีน ขนุนแชมป์ผลไม้เติบโตไวยอดส่งออกพุ่งทะลุ 7 หมื่นตัน

อังคาร ๐๔ สิงหาคม ๒๐๒๐ ๑๗:๔๖
กรมวิชาการเกษตร เดินหน้าจัดคิวส่งรายชื่อสวนGAP พร้อมโรงคัดบรรจุ GMP การันตีคุณภาพ 4 ผลไม้ไทยกล้วย มะพร้าว สับปะรด และขนุนประกาศเพิ่มในเว็บไซต์จีน จับตาขนุนไทยม้ามืดโตไวในแดนมังกร ส่องยอดส่งออกขนุนปี 62 สูงถึง75,556 ตัน พุ่งแซงปี 61 กว่า 5 หมื่นตัน

นางสาวเสริมสุข สลักเพ็ชร์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตรเปิดเผยว่า จากการประชุมคณะกรรมการร่วมทางเทคนิคสุขภาพและสุขอนามัยพืชไทย-จีนครั้งที่ 6 ในเดือนธันวาคม 2561 ทั้งไทยและจีนได้เห็นชอบร่วมกันให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลทะเบียนสวนและโรงคัดบรรจุผลไม้ จำนวน 5 ชนิดตามพิธีสารที่ลงนามในปี 2547โดยผลไม้ไทยที่มีรายชื่ออยู่ในพิธีสารดังกล่าวและได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลทะเบียนสวนและโรงคัดบรรจุกันไปแล้วในปี 2562 คือ ทุเรียน ลำไย ลิ้นจี่ มังคุด และมะม่วงส่วนผลไม้จากจีน คือ แอปเปิ้ล แพร์ พืชตระกูลส้ม องุ่น และพุทราโดยการนำเข้าและส่งออกผลไม้ชนิดที่มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกันแล้วกำหนดให้ผลไม้ต้องมาจากสวนและโรงคัดบรรจุที่ได้รับการขึ้นทะเบียนทั้งจากกรมวิชาการเกษตร และ สำนักงานศุลกากรของจีน (GACC) แล้วเท่านั้น

สำหรับความคืบหน้าล่าสุดกรมวิชาการเกษตรได้จัดส่งข้อมูลสวนและโรงคัดบรรจุผลไม้ไทยให้จีนพิจารณาขึ้นทะเบียนและประกาศในเว็บไซต์ของGACC เพิ่มอีก 4 ชนิด คือกล้วย มะพร้าว สับปะรด และขนุน โดยแยกเป็นกล้วยจำนวน 3,493 แปลง มะพร้าวจำนวน 2,203 แปลง ขนุน 1,148 แปลง และสับปะรด 3,101 แปลง ส่วนโรงคัดบรรจุของไทยที่ผ่านการขึ้นทะเบียนและได้รับการประกาศรายชื่อในเว็บไซต์ของ GACC แล้วรวมจำนวนทั้งสิ้น 1,520 โรงงาน โดยผลไม้ทั้ง 4 ชนิดที่เพิ่มใหม่นี้เริ่มมีผลบังคับใช้ตามเงื่อนไขการนำเข้าและส่งออกของทั้ง 2 ประเทศเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา

อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า ตลาดจีนถือเป็นตลาดส่งออกผลไม้สดรายใหญ่ของไทย โดยในปี 2561-2562ผลไม้ไทย5 อันดับแรกที่มีปริมาณการส่งออกไปจีนสูงสุด คือ ทุเรียน มังคุด ลำไย มะพร้าวอ่อน และ ขนุน โดยปริมาณการส่งออกผลไม้ทั้ง 5 ชนิดดังกล่าวไปจีนในปี 2562 สูงกว่า ปี 2561 มาก โดยเฉพาะขนุนเติบโตเร็วแบบก้าวกระโดดจากปริมาณการส่งออกในปี 2561 จำนวน21,688 ตัน ในปี 2562 เพิ่มปริมาณการส่งออกสูงขึ้นถึง 75,556 ตัน หรือเพิ่มสูงขึ้นกว่า 248%โดยมีผู้ส่งออกไทยจำนวน 25 บริษัทส่งออกขนุนพันธุ์ทองประเสริฐ และพันธุ์ทวาย 8 เดือนไปยังประเทศจีน ขนุนจึงเป็นผลไม้ไทยยอดนิยมอีกชนิดหนึ่งที่น่าจับตามองการขยายตลาดในตลาดจีน เนื่องจากที่ผ่านมาปริมาณการส่งออกเติบโตเร็วมาก โดยปัจจุบันจีนนำเข้าขนุนจากประเทศเวียดนามและไทย เมื่อมองในภาพรวมปี 2563 นี้ไทยได้ส่งออกผลไม้ไปจีนแล้วรวมปริมาณทั้งหมด 822,205 ตัน มูลค่ารวม60,076 ล้านบาท

“ไทยได้รับอนุญาตให้ส่งออกผลไม้ไปจีนจำนวน 22 ชนิด ซึ่งถือว่ามากที่สุดในบรรดาประเทศคู่ค้าของจีนภายใต้เงื่อนไขผลไม้ที่จะส่งออกต้องมาจากแปลงที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐานGAP และโรงคัดบรรจุที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐาน GMP พร้อมทั้งต้องมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลการขึ้นทะเบียนสวนและโรงคัดบรรจุกับจีน โดยผลไม้ที่จะส่งออกไปจีนได้สวนและโรงคัดบรรจุต้องผ่านการพิจารณาขึ้นทะเบียนและประกาศในเว็บไซต์ของGACCแล้วเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันผลไม้ไทยที่ได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลและประกาศในเว็บไซต์ของGACCแล้วมีจำนวน 10 ชนิดคือ ลำไย ทุเรียน มะม่วง ลิ้นจี่ มังคุด ชมพู่ กล้วย มะพร้าว สับปะรด และขนุน ดังนั้นหากสวนและโรงคัดบรรจุผลไม้ใดที่ยังไม่ได้รับการรับรองให้เข้าสู่ระบบดังกล่าว ขอให้ยื่นเรื่องขอรับการตรวจรับรองได้ที่สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตร ซึ่งเป็นหน่วยงานในส่วนภูมิภาคทั้ง 8 เขตของกรมวิชาการเกษตร” อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ