นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยถึงรูปแบบการจัดงาน STYLE Bangkok Telematching in Lifestyle Online Virtual Exhibition (LOVE) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 11 – 14 สิงหาคมนี้ว่า รูปแบบงานจะจัดผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อให้ผู้ผลิต – ส่งออกสินค้าไลฟ์สไตล์และแฟชั่นไทย มีโอกาสพบปะ และเจรจาธุรกิจกับคู่ค้าในต่างประเทศได้อย่างคล่องตัวมากขึ้น โดยจะเป็นลักษณะไฮบริดระหว่าง Virtual Exhibition และการจับคู่เจรจาการค้า (Business Matching) โดยผู้ซื้อผู้นำเข้าสามารถเยี่ยมชมบรรยากาศงานแสดงสินค้า STYLE Bangkok ออนไลน์เสมือนได้มาชมงานจริง หรือที่เรียกว่า Virtual Exhibition สามารถเข้าชมได้ที่เว็บไซต์ www.stayinstylebangkok.com ก่อนเข้าสู่ช่วงเวลาเจรจาการค้า โดยมีการจัดเตรียมสถานที่ อุปกรณ์และระบบ VDO Conference พร้อมล่ามแปลภาษา และเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกต่างๆ ไว้บริการ นอกจากนี้ กรมฯ ได้จัดสัมมนาให้ความรู้เพื่อเตรียมความพร้อมในการเจรจาการค้า การส่งออกออนไลน์ และวิธีการนำเสนอสินค้าแก่ผู้ซื้อด้วย
“ขณะนี้มีผู้ซื้อจากหลายประเทศทั่วโลกได้ตอบรับเข้าร่วมงาน STYLE Bangkok Telematching in Lifestyle Online Virtual Exhibition (LOVE) มาแล้วกว่า 95 บริษัท จากทั้ง 29 ประเทศ ได้แก่ แอฟริกา, อาร์เจนตินา, ออสเตรเลีย, ออสเตรีย, บราซิล, แคนาดา, จีน, สาธารณรัฐเช็ก, ฮังการี, อินเดีย, ญี่ปุ่น, เกาหลี, พม่า, เนเธอร์แลนด์, นิวซีแลนด์, เปรู, ฟิลิปปินส์, ปราก, ซาอุดีอาระเบีย, สิงคโปร์, สโลวาเกีย, สเปน, ศรีลังกา, สวีเดน , ไต้หวัน, อังกฤษ, สหรัฐอเมริกา, เวียดนาม เป็นต้น ซึ่งถือเป็นวาระแห่งการการเจรจาการค้าในมิติใหม่ ระหว่างผู้ซื้อ - ผู้นำเข้า พบผู้ผลิต - ผู้ส่งออกไทย อีกทั้งยังเป็นโอกาสครั้งสำคัญของไทยที่จะสามารถรักษาและขยายส่วนแบ่งตลาดในภาวะที่การจัดงานแสดงสินค้าทั่วโลกที่มีการชะลอตัว” นายสมเด็จ กล่าว
แม้สถานการณ์โควิด-19 ส่งผลต่อเศรษฐกิจทั่วโลก แต่ความต้องการสินค้าไลฟ์สไตล์ยังคงอยู่ ประเทศไทยเป็นแหล่งผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ มีการออกแบบดี ไม่ว่าจะเป็นสินค้าไลฟ์สไตล์ ของประดับตกแต่งบ้าน เครื่องใช้ในครัวเรือน เฟอร์นิเจอร์ แฟชั่น เสื้อผ้า สิ่งทอ เครื่องหนัง เป็นต้น จึงเป็นโอกาสของผู้ผลิต – ผู้ส่งออกไทยที่จะต้องเตรียมความพร้อมเพื่อคว้าโอกาสสำหรับการช่วงชิงตลาดในภาวะการเปลี่ยนแปลงนี้
งาน STYLE Bangkok Telematching in Lifestyle Online Virtual Exhibition (LOVE) มีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 11 – 14 สิงหาคม 2563 ซึ่งจะมีการรวบรวมกลุ่มสินค้า 4 กลุ่ม ได้แก่
1. กลุ่ม Host & Home (ได้แก่ ผู้ซื้อในกลุ่ม Project/Real Estate และ Hospitality) เจาะกลุ่มสินค้าประเภทของแต่งบ้าน เฟอร์นิเจอร์ และของใช้ภายในบ้าน
2. กลุ่ม The Niche เจาะกลุ่มผู้ซื้อตลาดเฉพาะที่มีขนาดเล็กแต่มีกำลังซื้อสูง และไทยมีศักยภาพ ประกอบด้วยสินค้าผู้สูงวัย สินค้าแม่และเด็ก และผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยง
3. กลุ่ม Gifts for All เจาะกลุ่มสินค้าของขวัญ ของที่ระลึก Gifts & Premium
4. กลุ่ม Fashion in LOVE เจาะกลุ่มสินค้าแฟชั่น เสื้อผ้า สิ่งทอ เครื่องแต่งกาย กระเป๋า เครื่องหนัง และของใช้นิวนอร์มอล เป็นต้น
นอกจากสินค้าคุณภาพดี และมีดีไซน์ ทั้งหลากหลายและครบวงจร สามารถตอบโจทย์ผู้ซื้อแล้ว ยังเชื่อว่าจะสามารถขยายฐานลูกค้าในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกันได้มากขึ้น ทั้งกลุ่มผู้ซื้อในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับสินค้าไลฟ์สไตล์และแฟชั่น ผู้ซื้อธุรกิจค้าปลีก (Retailers) ตัวแทนจัดซื้อ (Buying Agents) ธุรกิจ e-commerce ผู้ซื้อกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ Project/ Real Estate, Hospitality, Horeca, Concept Store, Multi-brand Store, Fashion Houses, สถาปนิก มัณฑนากร นักออกแบบ ห้างสรรพสินค้าที่มีศักยภาพ ตลอดจนผู้ที่อยู่ในวงการแฟชั่นและไลฟ์สไตล์จากทั่วโลก
การจัดงาน STYLE Bangkok Telematching in Lifestyle Online Virtual Exhibition (LOVE)ปี 2020 นี้ จึงถือเป็นก้าวแรกของการเจรจาธุรกิจในมิติใหม่บนวิถีนิวนอร์มอล ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถผลักดันสินค้าสินค้าไลฟ์สไตล์และแฟชั่นไทยไปยังตลาดเป้าหมาย ทั้งรักษาและขยายตลาดเดิม ขยายตลาดใหม่ พร้อมกับฟื้นฟูตลาดเก่าที่หายไปได้สำเร็จอย่างแน่นอน นายสมเด็จ กล่าวสรุป