เตรียมปลดล็อคเปิดเรียนแบบ onsite 100% โดยไม่ต้องสลับวันเรียน

พฤหัส ๐๖ สิงหาคม ๒๐๒๐ ๐๙:๔๒
เตรียมปลดล็อคเปิดเรียนแบบ onsite 100% โดยไม่ต้องสลับวันเรียน ยึดหลักมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา จัดบริการเจลแอลกอฮอร์ล้างมือภายในสถานศึกษาทุกจุด การวัดไข้ก่อนเข้าเรียน และงดกิจกรรมสัมผัสตัวเด็ดขาด คาด 7 ส.ค. ได้ข้อสรุป

ดร.อำนาจ วิชยานุวัติ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวถึงการเปิดเรียน 100% ยกเลิกสลับวันมาเรียนในโรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ทั่วประเทศตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา หรือ โควิด-19 ว่า

เมื่อเร็วๆ นี้ตนได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานทีเกี่ยวข้องทั้งหมดที่มีสถานศึกษาในสังกัดไม่ว่าจะเป็นสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) เพื่อจัดทำข้อมูลเสนอศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) หรือ โควิด-19 ในการเปิดเรียนแบบ onsite 100% โดยที่ไม่ต้องสลับวันเรียน โดย ศบค.ให้ศธ.จัดทำข้อมูลเสนอมาว่า พื้นที่ใดบ้างที่มีความพร้อมและมีข้อจำกัดอะไรหรือไม่ ซึ่งได้เสนอข้อมูลสรุปทั้งหมดให้นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เพื่อเตรียมเสนอให้ที่ประชุม ศบค. ในวันที่ 7 ส.ค.นี้

เลขาธิการ กพฐ. กล่าวต่อไปว่า สำหรับหลักการคร่าวๆ ที่ สพฐ. เสนอไป คือ โรงเรียนสังกัด สพฐ. จำนวน 4,500 แห่งจะขอเปิดเรียนแบบ onsite 100% โดยไม่ต้องสลับวันเรียน โดยจะยึดหลักมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม และสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา รวมถึงโรงเรียนต้องจัดบริการเจลแอลกอฮอร์ล้างมือภายในสถานศึกษาทุกจุด และการวัดไข้ก่อนเข้าเรียน ขณะเดียวกันกิจกรรมในโรงเรียนกิจกรรมใดที่สุ่มเสี่ยงต่อการสัมผัสร่างกายให้โรงเรียนงดกิจกรรมเหล่านั้นเอาไว้ก่อน ส่วนมาตรการรองรับหากพบเด็กติดเชื้อโควิดเกิดขึ้นเราจะยึดแนวปฎิบัติจากศบค.และกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) รวมถึงขอกำชับโรงเรียนทุกแห่งต้องให้นักเรียนสแกนแอพพลิเคชั่นไทยชนะทุกครั้ง เพื่อทราบเส้นทางการเดินทางของนักเรียนด้วย ทั้งนี้อาจมีโรงเรียนบางแห่งที่มีนักเรียนไม่มีความพร้อมอุปกรณ์ในการสแกนก็ให้ครูจดบันทึกแทน

“ส่วนประเด็นที่ ศบค. อยากให้มีการปรับปรุงเรื่องสอบและการวัดและประเมินผลจากสถานการณ์โควิด เพราะเด็กต้องเรียนออนไลน์ และสลับวันเรียนทำให้การเรียนการสอนอาจไม่เต็มที่เท่าที่ควร โดยเรื่องนี้ สพฐ. มีความเข้าใจเป็นอย่างดี และขอชี้แจงว่าการประเมินและวัดผลไม่ได้ใช้เป็นการทำข้อสอบเท่านั้น แต่ยังมีการวัดและประเมินผลหลายด้านทั้งการเรียนในห้องเรียน และการทำแบบฝึกหัด ซึ่งก็ขอให้มั่นใจได้ว่าการวัดและประเมินผลในสถานการณ์นี้จะมีคุณภาพอย่างแน่นอน” ดร.อำนาจ กล่าว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ