นายภานุมาศ รังคกูลนุวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออโตคอร์ป โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (ACG) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังของปี 2563 คาดว่าจะฟื้นตัวตามยอดขายรถยนต์ฮอนด้าหลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย อีกทั้งฮอนด้ายังได้มีการปรับกลยุทธ์การดำเนินงานหลายด้าน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ กระตุ้นยอดขายรับกระแส New Normal
ทั้งนี้ ฮอนด้ามีการประเมินว่าตลาดรถยนต์โดยรวมในปี 2563 ยอดขายจะอยู่ที่ 6.8 แสนคัน ลดลงราว 32% เทียบกับปีที่ผ่านมา โดยในส่วนของตลาดรถยนต์นั่งคาดว่าจะอยู่ที่ 3.04 แสนคัน ลดลงจากปีก่อน 35%
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ “ฮอนด้า”ประเมินว่ายอดขายรถยนต์นั่งจะอยู่ที่ 9.5 หมื่นคัน ลดลงเพียง 25% ซึ่งถือว่าถดถอยน้อยกว่าตลาด และครองส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เก็ตแชร์) เพิ่มเป็น 30% จากปี 2562 ซึ่งต่ำกว่า 28%
ในช่วงครึ่งแรกปี 2563 “ฮอนด้า” มียอดขายรถยนต์นั่งกว่า 4.13 หมื่นคัน มาร์เก็ตแชร์ เพิ่มขึ้นเป็น 29.2% ครองส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 1 สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของแบรนด์ฮอนด้า
โดยรถยนต์ที่ขายดีสุดคือ ซิตี้ 1.69 หมื่นคัน มีส่วนแบ่งในเซกเมนต์สูงสุด 39.3% ซีวิคและซีวิค แฮชแบ็ก 8,656 คัน มาร์เก็ตแชร์ 56.7% เอชอาร์-วี 3,667 คัน มาร์เก็ตแชร์ 33% ซีอาร์-วี 1,978 คัน มาร์เก็ตแชร์ 43% และแอคคอร์ด 2,270 คัน มาร์เก็ตแชร์ 45.3%
นอกจากนี้ ACG ยังมีแผนเปิดศูนย์ซ่อมบำรุงภายใต้ชื่อ "ออโตคลิกบายเอซีจี" เพื่อเสริมรายได้ของบริษัทฯ ให้เติบโตดีขึ้น เนื่องจากเป็นธุรกิจศูนย์ซ่อมบำรุงและตรวจให้บริการรถยนต์ทุกยี่ห้อที่ไม่เพียงแค่เฉพาะฮอนด้าเท่านั้น ซึ่งจะเป็นการขยายฐานลูกค้าให้กว้างมากขึ้นและได้รับรายได้จากลูกค้ารถยนต์หลากหลายยี่ห้อ หนุนธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่งและมั่นคงในอนาคต