นายวีรพลน์ เตชะผาสุขสันติ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร บริษัท สกุลฎ์ซี อินโนเวชั่น จำกัด กล่าวว่า อุตสาหกรรมการทำเรือไฟฟ้าไม่ได้มีความยาก เนื่องจากประเทศไทยมีความพร้อมด้านเทคโนโลยีมาหลายปีแล้ว แต่การจะขายเรือไฟฟ้าในตลาดได้จริงนั้นมีความยากมากกว่า เพราะต้องตอบคำถามของลูกค้าให้ได้ครบถ้วน ทั้งในเรื่องของ ราคา, การรับประกันแบตเตอรี่และระบบขับเคลื่อน, มาตรฐาน, การบริการหลังการขาย รวมถึงกฎหมายต่างๆ ว่าสามารถตอบโจทย์ให้ลูกค้าไปใช้ดำเนินธุรกิจที่คุ้มค่าต่อการลงทุนได้หรือไม่
และจากการร่วมมือกันแบบบูรณาการระหว่าง สกุลฎ์ซี และพาร์ทเนอร์ทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มนักวิจัยไทยที่ร่วมกันพัฒนาระบบให้สามารถใช้ลงตลาดได้จริง ทำให้เราเป็นกลุ่มนักพัฒนากลุ่มแรก ที่สามารถก้าวข้ามการทดลองต้นแบบสู่การแข่งขันเชิงพาณิชย์ได้อย่างเต็มตัว ความสำเร็จที่ก้าวกระโดดนี้เกิดจากการสนับสนุนเต็มตัวจากกลุ่มพาร์ทเนอร์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น บริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด สำหรับการรับประกันแบตเตอรี่ตลาดอายุการใช้งาน, กรมเจ้าท่า ที่ให้คำแนะนำหลักเกณฑ์ ข้อกำหนดต่าง ๆ และการตรวจสอบเรือไฟฟ้า ที่สำคัญ คือความเชื่อมั่นจากลูกค้า อย่าง บริษัท ภูเก็ต พัชทรีทัวร์ จำกัด ที่ไว้ใจสั่งซื้อเรือท่องเที่ยวไฟฟ้า 2 ลำแรกนี้ด้วย
สำหรับรายละเอียดตัวเรือไฟฟ้าลำนี้ เป็นการต่อยอดจากนวัตกรรมเรืออลูมิเนียมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการประกอบ มีขนาดความยาว 20 เมตร ไร้รอยต่อ เมื่อรวมกับระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าขนาด 500 kw. ทำให้เรือไฟฟ้าสามารถวิ่งได้ด้วยความเร็วกว่า 20 knot ทั้งยังมีระบบแบตเตอรี่ “NMC” รองรับการให้พลังงานแบบ Quick Charge ทั้งยังมีส่วนในการยกระดับการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ ด้วยการเตรียมเปิดตัวการบูรณาการร่วมกับระบบ Smart Pier แบบเต็มรูปแบบเร็ว ๆ นี้
ทั้งนี้ เนื่องจากทุกวันที่ 5 สิงหาคม ของทุกปีเป็นวันคล้ายวันสถาปนากรมเจ้าท่า ทางกรมเจ้าท่า จึงถือฤกษ์ “ครบรอบ 161 ปี” เปิดตัวเรือไฟฟ้าต้นแบบเรือโดยสารแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมนำมาให้บริการ ประชาชน ในเดือนธันวาคม 2563 นี้ พร้อมแสดงความมั่นใจเรือไฟฟ้า ที่จะมีส่วนช่วยให้ค่าโดยสารถูกลงในอนาคต โดยมี นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนาครบรอบ ด้าน นายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า เผยว่าหลังการทดสอบเรือไฟฟ้าในวันนี้ ภาพรวมถือว่าน่าพอใจ และจะมีการปรับปรุงระบบอีกเล็กน้อย โดยหลังจากผ่านการทดสอบแล้ว ในปลายปี 2563 กรมเจ้าท่าจะเริ่มนำเรือไฟฟ้าออกให้บริการทางทะเลในจังหวัดท่องเที่ยว เช่น จังหวัดกระบี่ และพังงา โดยเฉพาะในศูนย์กลางการท่องเที่ยวทะเลที่สำคัญ อย่างจังหวัดภูเก็ต ที่คาดว่าปลายปีนี้ จะมีเรือไฟฟ้าให้บริการ 30 ลำ และจะมีเรือให้บริการในพื้นที่จังหวัดท่องเที่ยวดังกล่าวเพิ่มขึ้นราวประมาณ 200 ลำในอนาคต
นอกจากนี้ นวัตกรรมเรือไฟฟ้า จะยังมีการพัฒนาเพื่อต่อยอดการให้บริการในแม่น้ำเจ้าพระยาอีกด้วย ซึ่ง บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด ผู้ให้บริการเรือโดยสารแม่น้ำเจ้าพระยาก็พร้อมที่จะมีการปรับเปลี่ยนเรือมาใช้เรือพลังงานไฟฟ้าที่ทำจากอลูมิเนียม โดยจะมีการเปลี่ยนจากเรือไม้ตามรอบที่หมดอายุ และคาดว่าจะเห็นการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ปลายปี 2563 เป็นต้นไป