ส่วนผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2563 บริษัทมีรายได้รวม 94.64 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม110.06 ล้านบาท จำนวน 15.42 ล้านบาท หรือลดลง 14.01% และมีกำไรสุทธิ 8.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 5.71 ล้านบาท จำนวน 2.73 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 47.90%
ทั้งนี้ ผลประกอบการในส่วนของกำไรที่ปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากราคาขายที่สูงขึ้นจากปีก่อน และบริษัทปรับปรุงการควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้กำไรขั้นต้นงวดครึ่งปีแรกอยู่ที่ 51.74 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 24.41% เพิ่มขึ้น 16.73 ล้านจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรขั้นต้น 35.01 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 16.17% บาท
สำหรับแนวโน้มธุรกิจในช่วงไตรมาส 3/63 มีทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจากนโยบายระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก EEC อีกทั้งนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจโครงการเมกะโปรเจคขนาดใหญ่ของภาครัฐ อาทิ งานก่อสร้างอาคารสถานีรถไฟฟ้าสายต่างๆ ที่เริ่มดำเนินโครงการ รวมถึงโครงการอสังหาฯภาคเอกชน ที่ทยอยลงทุนในโครงการต่างๆ อาทิ งานนิคมอุตสาหกรรม ที่พักอาศัยแนวราบ ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ความต้องการสินค้ากลุ่มวัสดุก่อสร้าง-อิฐมวลเบาปรับตัวดีขึ้น ปริมาณการใช้งานวัสดุอิฐมวลเบาและอิฐมวลเบาประเภทตกแต่งเพิ่มขึ้น อีกทั้งราคาจำหน่ายอิฐมวลเบาปรับตัวเพิ่มขึ้น