'บมจ.ผลิตภัณฑ์ตราเพชร หรือ DRT’ โชว์ผลงานไตรมาส 2/63 เติบโตแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง สวนกระแสปัจจัยลบ COVID-19 ด้วยกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน 172.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.24% หนุนผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปีนี้ขยายตัวโดดเด่น ทำกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน 340.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.60% ระบุปัจจัยความสำเร็จมาจากการบริหาร Product Mix และการบริหารต้นทุนการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ เตรียมเสนอบอร์ดพิจารณาเคาะจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากงวดผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกเพื่อตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้น ด้านผู้บริหารเผยแผนงานครึ่งปีหลัง เดินเกมรุกตลาดรับคลายมาตรการล็อกดาวน์ มั่นใจรักษาอัตรากำไรขั้นต้นได้ตามเป้าหมาย
นายสาธิต สุดบรรทัด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ระบบหลังคา ไม้สังเคราะห์ แผ่นบอร์ด ยิปซัม อิฐมวลเบา คานทับหลัง เคาน์เตอร์มวลเบาสำเร็จรูปและบริการหลังการขายภายใต้ตราสินค้า 'ตราเพชร’ เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาส 2/63 (เมษายน-มิถุนายน 2563) ว่าบริษัทฯ มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน 172.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.24% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกัน
ของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน 150.92 ล้านบาท และหากรวมกำไรพิเศษจากการขายที่ดินที่ไม่ใช้ประโยชน์ จะมีกำไรสุทธิรวมเป็น 182.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38.27% เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิปีก่อน (หลังหักการตั้งสำรองผลประโยชน์ของพนักงานเกษียณอายุ 400 วัน) อยู่ที่ 132.05 ล้านบาท
ขณะที่รายได้รวมในไตรมาสดังกล่าวทำได้ 1,211.59 ล้านบาท ลดลง 3.48% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลมาจากมาตรการล็อกดาวน์ของภาครัฐเพื่อแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาด COVID-19 ส่งผลให้ช่องทางขายผ่านห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่ต้องปิดให้บริการเป็นการชั่วคราว
อย่างไรก็ตาม ด้วยจุดแข็ง DRT ที่มีความหลากหลายของผลิตภัณฑ์สามารถนำไปก่อสร้างบ้านได้ทั้งหลังและความสำเร็จด้านบริหารจัดการ Product Mix ที่ให้ผลกำไรต่อหน่วยที่ดี และการบริหารต้นทุนการผลิตที่มีประสิทธิภาพ ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นเป็นไปตามเป้าหมาย และช่วยสนับสนุนผลประกอบการช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ (มกราคม-มิถุนายน 2563) ของ DRT มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน 340.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.60% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรจากการดำเนินงาน 316.54 ล้านบาท
ทั้งนี้ ด้วยความสำเร็จในช่วงครึ่งปีแรก จะเสนอที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ (บอร์ด) พิจารณาอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลงวดครึ่งปีแรกของปีนี้ต่อไป เพื่อตอกย้ำให้ DRT เป็นหุ้นปันผลที่สร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่นักลงทุนอย่างสม่ำเสมอ
“ในไตรมาสที่ 2/2563 แม้กิจกรรมทางเศรษฐกิจของไทยต้องหยุดชะงักในช่วงที่ใช้มาตรการล็อกดาวน์ เพื่อลดการแพร่ระบาดของ COVID-19 แต่เรายังสามารถบริหารจัดการช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าที่ดี พร้อมบริหารจัดการด้านต้นทุนการผลิตที่มีประสิทธิภาพเพื่อผลักดันกำไรสุทธิจากการดำเนินให้เติบโตที่ดี และสร้างผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนถึงศักยภาพการดำเนินธุรกิจของ DRT ได้เป็นอย่างดี” นายสาธิต กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร DRT กล่าวว่า แผนงานครึ่งปีหลัง บริษัทฯ มุ่งเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดี โดยรักษาการใช้อัตรากำลังการผลิตเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 90% เพื่อรักษาอัตรากำไรขั้นต้นให้ได้ตามเป้าหมายและบริหารสินค้าคงคลังให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจที่จะค่อยๆ ฟื้นตัวดีขึ้นหลังภาครัฐคลายล็อกดาวน์ โดยมองว่าช่องทางจำหน่ายผ่านห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่ จะเริ่มฟื้นตัวในไตรมาส 3 และลูกค้าโครงการอสังหาริมทรัพย์จะกลับมาฟื้นตัวได้ในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้
ส่วนความคืบหน้าการลงทุนสายการผลิตไฟเบอร์ซีเมนต์ NT-11 เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตสินค้าไม้สังเคราะห์อีก จำนวน 5.5 หมื่นตัน คาดว่าจะแล้วเสร็จไตรมาสสุดท้ายปีนี้ตามแผนงานที่วางไว้ และเริ่มเดินเครื่องจักรผลิตสินค้าเชิงพาณิชย์ได้ในต้นปี 2564 ซึ่งจะช่วยผลักดันการเติบโตของผลการดำเนินงานต่อไป
เกี่ยวกับ บมจ.ผลิตภัณฑ์ตราเพชร
บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ “DRT” ผู้ผลิตและจำหน่าย ผลิตภัณฑ์ระบบหลังคา ไม้สังเคราะห์แผ่นบอร์ด ยิปซัม อิฐมวลเบา คานทับหลัง เคาน์เตอร์มวลเบาสำเร็จรูป และบริการหลังการขาย ภายใต้ตราสินค้า “ตราเพชร” มีประสบการณ์ยาวนานในธุรกิจกว่า 35 ปี มีเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และได้รับการรับรองระบบมาตรฐาน ISO9001:2015, ISO14001:2015 และ ISO45001:2018 จากสถาบัน Lloyd's Register Quality Assurance Limited (LRQA) รวมถึงได้รับเครื่องหมายมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) จากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ตลอดจนได้รับตราสัญลักษณ์คุณภาพไทยแลนด์หรือ Thailand Trusted Mark (TTM) จากสำนักส่งเสริมมูลค่าเพิ่มเพื่อการส่งออก กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงคุณภาพสินค้า ตลอดจนมีการบริหารจัดการภายในโรงงานที่มีประสิทธิภาพ ภายใต้วิสัยทัศน์ “เป็นทางเลือกที่ดีกว่าด้านวัสดุก่อสร้างและบริการ”