LIT ประกาศผลกำไรสุทธิครึ่งปีแรก 63 จำนวน 35.52 ล้านบาท ท่ามกลางการชะลอตัวของเศรษฐกิจ

อังคาร ๑๑ สิงหาคม ๒๐๒๐ ๑๐:๒๕
LIT ประกาศผลกำไรสุทธิครึ่งปีแรก 63 จำนวน 35.52 ล้านบาท ท่ามกลางการชะลอตัวของเศรษฐกิจ มุ่งเน้นออกแพคเกจสินเชื่อใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ SMEs ที่เป็นคู่ค้าภาครัฐ

นายสมพล เอกธีรจิตต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีซ อิท จำกัด (มหาชน) (LIT) ผู้ให้บริการสินเชื่อธุรกิจเพื่อSMEs โดยเป็นแหล่งเงินทุนทางเลือกนอกภาคสถาบันการเงินประเภท Non-Bank ซึ่งมีกลุ่มลูกค้าหลักเป็นผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่เป็นคู่ค้าภาครัฐ เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/2563 บริษัทฯมีรายได้รวม 98.84 ล้านบาท ลดลง 18.36% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 121.07 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 16.16 ล้านบาท ลดลง 55.45% จากงวดไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 36.27 ล้านบาท ขณะที่พอร์ตลูกหนี้สินเชื่ออยู่ที่ 2,551 ล้านบาท และมียอดปล่อยสินเชื่อ 4,020.56 ล้านบาท เป็นผลมาจากสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งกดดันภาพรวมเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีแรกชะลอตัว และการบริหารจัดการความเสี่ยง ขณะที่รายได้รวมในงวด 6 เดือนแรกของปี 2563 อยู่ที่ 202.66 ล้านบาท ยอดปล่อยสินเชื่อรวม 4,020.56 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 35.52 ล้านบาท

ที่ผ่านมาบริษัทฯได้เดินหน้าออกแพคเกจสินเชื่อใหม่ๆ เพื่อให้มีข้อได้เปรียบในการแข่งขันในกลุ่มอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะเติบโตและเข้าเงื่อนไขการพิจารณาสินเชื่อของบริษัทฯ อาทิ สินเชื่อเพื่อธุรกิจเครื่องมือแพทย์ สินเชื่อสำหรับจัดซื้อจัดจ้างครุภัณฑ์เพื่อการศึกษา สินเชื่อเพื่อธุรกิจผลิตพลาสติกและบรรจุภัณฑ์ สินเชื่อเพื่อธุรกิจขนส่ง ตลอดจนสินเชื่อเพื่อธุรกิจซื้อมาขายไป (เทรดดิ้ง) โดยมุ่งเน้นผู้ประกอบการ SMEs ที่ได้รับโครงการจากหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ โรงพยาบาล มหาวิทยาลัยและโรงเรียนของรัฐ ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญกับช่องทางดิจิทัล มาร์เก็ตติ้ง เพื่อขยายฐานลูกค้า โดยล่าสุดมีสัดส่วนลูกค้าใช้ช่องทางนี้กว่า 36% ของจำนวนลูกค้าใหม่ทั้งหมด

กรรมการผู้จัดการ กล่าวอีกว่า บริษัทฯได้ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการกับสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ซึ่งบริษัทฯได้มีการปรับแนวทางการดำเนินการ เพื่อบริหารจัดการความเสี่ยงในเชิงรุกทั้งในการแก้ไข ควบคุม และป้องกันให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งๆขึ้น อย่างไรก็ตาม บริษัทยังสามารถควบคุมปริมาณNPLsให้อยู่ในวงเงินที่จำกัดได้ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงและจากสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้บริษัทใช้ความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อ ดูแลการบริหารจัดการหนี้อย่างใกล้ชิด และได้เพิ่มมาตรการในการคัดกรองและพิจารณาลูกค้าอย่างเข้มงวดเพื่อให้สอดคล้องสถานการณ์ในปัจจุบัน รวมไปถึงการบริหารจัดการพอร์ตสินเชื่อให้มีกระจายพอร์ตสินเชื่อในแต่ละอุตสาหกรรม อีกทั้ง มุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าที่เป็นคู่ค้ากับหน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจโดยมีพอร์ตสินเชื่อโครงการภาครัฐคิดเป็น 70% ของพอร์ตสินเชื่อรวม รวมไปถึง การเร่งตั้งนโยบายตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญ (Reserve) ในสัดส่วน 15.34% ของพอร์ตลูกหนี้คงค้าง

“บริษัทฯยังคงมองว่าแนวโน้มในครึ่งปีหลังคาดว่ายอดปล่อยสินเชื่อจะเขยิบตัวดีขึ้น หากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายอย่างแท้จริง ย่อมส่งผลทำให้ธุรกรรมทางเศรษฐกิจก็น่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้น และมีโอกาสที่กลุ่มลูกค้า SMEs จะมีดีมานด์สินเชื่อเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีกับบริษัทฯ เพราะเราเน้นให้บริการสินเชื่อเพื่อคู่ค้าภาครัฐ"นายสมพล กล่าว

สำหรับผู้ประกอบการ SMEs ที่เป็นคู่ค้าภาครัฐและบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ และกำลังมองหาสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องทางธุรกิจ สามารถสมัครสินเชื่อด่วนได้ที่ www.leaseit.co.th หรือโทรเบอร์ 02-163-4255 และ 095-783-1595 และฝากกดไลค์กดแชร์เฟซบุ๊คเพจ “Lease IT สินเชื่อธุรกิจ เพื่อนคู่คิด SMEs” เพื่อติดตามรับข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับ SMEs

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ