นายวิชญ์ สุวรรณศรี รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูไนเต็ด เพาเวอร์ ออฟ เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ UPA เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2563 อนุมัติให้เข้าลงทุนในหุ้นของบริษัท AIDC Solar Power Number 1 Pte. Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนจัดตั้งตามกฎหมายสิงคโปร์ โดยการเข้าถือหุ้นในบริษัท Binh Thuan Solar Power Investment Joint Stock Company (B-Solar) ที่ดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Song Luy 1 Solar Power Plant ในเวียดนาม คิดเป็นสัดส่วน 83.33% ในราคารวมทั้งสิ้น 23.92 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 748.99 ล้านบาท คาดกระบวนการลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นภายในเดือนสิงหาคมนี้
ทั้งนี้ AIDC Solar Power Number 1 ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นกับผู้ถือหุ้นเดิม และได้ดำเนินการขออนุญาตถือหุ้นใน B-Solar และได้รับอนุญาตให้ถือหุ้นใน B-Solar จำนวน 96% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดจาก Department of Planning and Investment แห่งประเทศเวียดนามแล้วเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา ปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการเปลี่ยนแปลงรายชื่อผู้ถือหุ้นทางทะเบียน ซึ่งเมื่อสำเร็จแล้วจะส่งผลให้เป็นผู้ถือหุ้นของ B-Solar ตามกฎหมายเวียดนามอย่างสมบูรณ์
ขณะที่ B-Solar เป็นบริษัทที่ดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในเวียดนาม และเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ให้กับ Vietnam Electricity (EVN) ตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าขนาด 46.7 เมกะวัตต์ติดตั้ง (MW) เป็นระยะเวลา 20 ปี โดย B-Solar ได้ดำเนินการจำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ แล้วตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2562
นอกจากนี้คณะกรรมการบริษัทอนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 22 กันยายน 2563 เพื่อพิจารณาเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 5.34 พันล้านบาท จากเดิม 3.34 พันล้านบาท โดยออกหุ้นใหม่ 4 พันล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 0.50 บาท เสนอขายต่อผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (RO) ในอัตราส่วน 1.6675 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นใหม่ ที่ราคาหุ้นละ 0.15 บาท กำหนดวันจองซื้อและชำระค่าหุ้นในวันที่ 8-15 ตุลาคม 2563
ทั้งนี้คาดว่าจะได้รับเงินจากการเพิ่มทุนราว 600 ล้านบาท ซึ่งจะใช้รองรับการเข้าลงทุนในโครงการโซลาร์ฟาร์มเวียดนามไม่เกิน 400 ล้านบาท ภายในเดือนตุลาคมนี้ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน รวมถึงเงินทุนเพื่อดำเนินโครงการอื่น ๆ ของบริษัท ไม่ว่าจะเป็นโครงการที่เกี่ยวกับธุรกิจพลังงาน ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจสาธารณูปโภค ไม่เกิน 250 ล้านบาท ภายในไตรมาส 2/2564
"ภาพรวมธุรกิจครึ่งปีมีแนวโน้มการฟื้นตัวที่ดี และคาดว่าผลประกอบการปีนี้จะสามารถเทิร์นอะราวด์ โดยพลิกกลับมาเป็นกำไรได้ เนื่องจากมีรายได้จากธุรกิจพลังงาน ซึ่งเป็นธุรกิจหลักในปัจจุบัน โดยเฉพาะการเข้าลงทุนเพื่อซื้อกิจการ ในลักษณะการร่วมทุนโครงการโรงไฟฟ้าในประเทศเวียดนามคาดว่า จะมีความชัดเจนมากขึ้นในครึ่งปีหลัง และน่าจะสนับสนุนผลงานในปีนี้เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ ขณะเดียวกันยังมีโครงการทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งอยู่ระหว่างเจรจา เพื่อเข้าไปลงทุนเพิ่มเติมอีก" นายวิชญ์ กล่าวในที่สุด