นายชัยสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา กรรมการผู้จัดการ บมจ. เอ็น.ดี.รับเบอร์ (NDR) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2563 พลิกมีกำไรสุทธิ 8.85 ล้านบาท จากไตรมาส 1/2563 ขาดทุนสุทธิ 2.41 ล้านบาท ขณะที่มีรายได้ 157.53 ล้านบาท เทียบจากไตรมาส 1/2563 มีรายได้ 167.85 ล้านบาท
สาเหตุที่ผลประกอบการในไตรมาส 2/2563 พลิกเป็นกำไร เนื่องจากบริษัทฯได้มีการปรับลดค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่องจากไตรมาส 1/2563 ที่ผ่านมา ประกอบกับสถานการณ์ COVID-19 ทำให้เกิดการชะลอตัวของการผลิตยางล้อทั่วโลก จึงส่งผลให้ราคาวัตถุดิบตกลงอย่างมาก ส่งผลให้ต้นทุนของบริษัทฯต่ำลง และมีกำไรขั้นต้นสูงขึ้น โดยในไตรมาส 2/2563 มีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 23.92% เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/2563 ที่มีอัตรากำไรขั้นต้น 18% และสูงกว่าในไตรมาส 2/2562 ที่ 15.40%
"แม้ว่ารายได้จะลดลง เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทำให้เกิดการปิดประเทศของประเทศคู่ค้า ส่งผลให้ไม่สามารถส่งออกไปยังบางประเทศได้ในเดือนเมษายน และเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา แต่ด้วยสถานการณ์ดังกล่าวทำให้เกิดการชะลอตัวของการผลิตยางล้อทั่วโลก จึงส่งผลให้ราคาวัตถุดิบตกลงอย่างมาก ส่งผลให้ต้นทุนของเราต่ำลง ทำให้ไตรมาส 2/2563 พลิกมีกำไรที่ 8.85 ล้านบาท รวม 6 เดือนมีกำไรอยู่ที่ 6.44 ล้านบาท" นายชัยสิทธิ์ กล่าว
นายชัยสิทธิ์ กล่าวเพิ่มว่า บริษัทฯ ยังคงมีมาตรการป้องกัน และแก้ไขสำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 โดยคงนโยบายห้ามพนักงานและผู้บริหารทุกคนเดินทางออกนอกพื้นที่จังหวัดต่อเนื่องจากไตรมาส 1/2563 รวมถึงยังคงใช้ระเบียบให้พนักงานทุกคนต้องสวมหน้ากากตลอดเวลาเมื่ออยู่ในพื้นที่สาธารณะต่อเนื่องจากไตรมาส 1/2563 ซึ่งมีการตรวจวัดไข้ทุกคนก่อนเข้าพื้นที่บริษัทฯ
สำหรับด้านการผลิตนั้น บริษัทฯ ยังได้ลดกำลังการผลิตในเดือนเมษายน และพฤษภาคม เพื่อลดค่าใช้จ่ายและควบคุมกระแสเงินสดให้สอดคล้องกับรายได้ และได้กลับมาใช้กำลังการผลิตตามปกติในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
กรรมการผู้จัดการ NDR กล่าวต่อว่า ภาพรวมผลประกอบการในปีนี้คาดว่าจะเป็นบวกได้ หากสถานการณ์ COVID-19 ไม่มีการระบาดเพิ่มเติม ซึ่งผลประกอบการของบริษัทเริ่มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ในช่วงเดือนพฤษภาคม และกลับมาเป็นปกติในเดือนมิถุนายน สะท้อนจากผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2563 ที่พลิกเป็นกำไรได้ ประกอบกับ เริ่มเห็นการฟื้นตัวของตลาดยางรถจักรยานยนต์ที่ดีขึ้นจากครึ่งปีแรก