ดังนั้น สสว.จึงเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขออนุมัติให้จัดทำ “โครงการส่งเสริมความรู้ด้านบริหารความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน และสนับสนุนเอสเอ็มอีที่ทำการค้าระหว่างประเทศ” ต่อเนื่องเป็นระยะที่ 3 โดยให้ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) เป็นผู้ดำเนินการร่วมกับ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สมาคมธนาคารไทย สถาบันธนาคารไทย ธนาคารพาณิชย์ 8 แห่ง โดยในปีนี้ได้เพิ่มเติมให้ธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ คือ ธนาคารเพื่อการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย เข้าร่วมโครงการด้วย
นอกจากนั้น จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงได้อำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการที่จะเข้าเรียนด้วยการจัดให้มีการอบรมความรู้ผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งจะมีทั้งการเรียนสดผ่าน Live ในระบบ Facebook และในระบบ e-Learning ผ่านเว็บไซต์ของสถาบันธนาคารไทย (TBAC)
นายมงคล กล่าวว่า หลังจากผ่านการอบรมครบตามเงื่อนไขแล้ว ผู้เข้าร่วมโครงการจะได้รับสิทธิประโยชน์เป็นโอกาสทดลองใช้ FX Options ฟรี ในวงเงินสูงถึง 100,000 บาท แบ่งเป็นการประกันค่าเงิน 80,000 บาทต่อราย และช่วยค่าธรรมเนียมการค้าระหว่างประเทศ 20,000 บาท ต่อราย
ทั้งนี้ โครงการส่งเสริมความรู้ด้านบริหารความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน และสนับสนุนเอสเอ็มอีที่ทำการค้าระหว่างประเทศ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการการเอสเอ็มอี มีความรู้ความเข้าใจในการใช้เครื่องมือบริหารความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนด้วย FX Options ซึ่งจะเชิญวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิมาให้ความรู้ที่เป็นประโยชน์และช่วยพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการให้พร้อมรับมือกับการนำเข้าและส่งออกที่จะมีความผันผวนสูง
ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดและลงทะเบียนเข้าร่วมอบรมสัมมนาออนไลน์หรือ e-Learning ฟรี!ได้ที่ www.exim.go.th > อบรมสัมมนา ขณะนี้เปิดรับสมัครแล้ว และเริ่มอบรมสัมมนาออนไลน์ครั้งแรกวันที่ 24 สิงหาคมนี้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ศูนย์ความเป็นเลิศด้านการค้า (EXAC) ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย โทร. 02 271 3700 ต่อ 3537