บลจ.กสิกรไทย ท็อปฟอร์มจ่ายปันผลกว่า 200 ล้านบาท สวนกระแสตลาดโลกผันผวน

ศุกร์ ๑๔ สิงหาคม ๒๐๒๐ ๑๔:๓๘
บลจ.กสิกรไทย กำหนดจ่ายปันผล 5 กองทุนหุ้นต่างประเทศในวันที่ 14 ส.ค.นี้ รวมมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท เผยตลาดทั่วโลกยังผันผวนจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 เป็นหลัก ในขณะที่ยังมีสภาพคล่องสูงจากมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน แนะเป็นจังหวะเข้าลงทุนหุ้นยุโรป และประเมินสถานการณ์ก่อนเข้าลงทุนหุ้นสหรัฐฯ หุ้นกลุ่มตลาดเกิดใหม่ รวมถึงหุ้นกลุ่มธุรกิจดูแลสุขภาพ

นายนาวิน อินทรสมบัติ Chief Investment Officer (รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุนต่างประเทศ) บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า บลจ.กสิกรไทย จ่ายปันผล 5 กองทุนหุ้นต่างประเทศ ได้แก่ กองทุนเปิดเค ยูโรเปียน หุ้นทุน (K-EUROPE) สำหรับรอบผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2562 ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2563 ในอัตรา 0.20 บาทต่อหน่วย กองทุนเปิดเค โกลบอล เฮลท์แคร์ หุ้นทุน (K-GHEALTH) และ กองทุนเปิดเค โกลบอล เฮลท์แคร์ หุ้นทุน Unhedged (K-GHEALTH(UH)) สำหรับรอบผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2563 ในอัตรา 0.20 บาทต่อหน่วย กองทุนเปิดเค โกลบอล อีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ต ออพพอร์ทูนนิตี้ (K-GEMO) สำหรับรอบผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2563 ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2563 ในอัตรา 0.20 บาทต่อหน่วย และ กองทุนเปิดเค ยูเอสเอ หุ้นทุน-A ชนิดจ่ายเงินปันผล (K-USA-A(D)) สำหรับรอบผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2563 ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2563 ในอัตรา 0.35 บาทต่อหน่วย โดยทั้งหมดมีกำหนดจ่ายปันผลพร้อมกันในวันที่ 14 สิงหาคม 2563 รวมมูลค่าทั้งสิ้น 216.77 ล้านบาท

นายนาวินกล่าวต่อไปว่า แม้ในช่วงที่ผ่านมาภาวะตลาดทั่วโลกมีความผันผวนค่อนข้างสูง แต่ทั้ง 5 กองทุนยังคงบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะเห็นได้จากผลการดำเนินงานย้อนหลังของกองทุนส่วนใหญ่สามารถเอาชนะตลาดได้ โดยกองทุน K-GEMO, K-EUROPE, K-GHEALTH, K-GHEALTH(UH) และ K-USA-A(D) มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 4.17% ต่อปี, 12.75% ต่อปี, 21.16% ต่อปี, 24.24% ต่อปี และ 35.62% ต่อปี ตามลำดับ (ข้อมูล ณ วันที่ 30 ก.ค. 63) และมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) เฉลี่ยอยู่ที่ 6.73% ต่อปี, 7.12% ต่อปี, 6.79% ต่อปี, 5.28% ต่อปี และ 5.19% ต่อปี ตามลำดับ นอกจากนี้ กองทุน K-EUROPE, K-GHEALTH(UH) และ K-GEMO ยังได้รับการจัดอันดับ Overall Morningstar Rating 5 ดาว ส่วนกองทุน K-GHEALTH และ K-USA-A(D) ได้รับการจัดอันดับ Overall Morningstar Rating 4 ดาว (ที่มา: Morningstar ณ วันที่ 31 ก.ค. 63) ทั้งนี้ การจัดอันดับกองทุน (Morningstar Rating) เป็นวิธีการที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ซึ่งผู้ลงทุนสามารถใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุนได้

“สำหรับสถานการณ์การลงทุนทั่วโลกยังคงมีปัจจัยกดดันจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจฟื้นตัวได้ช้ากว่าที่คาดการณ์ อย่างไรก็ดี ตลาดยังสามารถประคองตัวได้ โดยได้รับแรงสนับสนุนจากมาตรการผ่อนคลายทางการเงินและการคลังทั่วโลกจึงส่งผลให้มีสภาพคล่องสูง อย่างไรก็ตาม ผู้ลงทุนยังคงต้องติดตามประเด็นการพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของสหรัฐฯ และประเด็นการทบทวนข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน ซึ่งหากไม่เป็นไปตามคาดอาจส่งผลกดดันบรรยากาศการลงทุนได้” นายนาวินกล่าว

นายนาวินกล่าวเพิ่มเติมว่า บลจ.กสิกรไทย มีมุมมองเป็นบวกต่อหุ้นยุโรป จากปัจจัยสนับสนุนทั้งการบรรลุข้อตกลงกองทุนฟื้นฟูเศรษฐกิจ (Recovery Fund) 7.5 แสนล้านยูโร รวมถึงการซื้อพันธบัตรตามโครงการซื้อสินทรัพย์ฉุกเฉินเพื่อรับมือกับโรคระบาด (Pandemic Emergency Purchase Programme: PEPP) 1.35 ล้านล้านยูโร ซึ่งจะช่วยหนุนสภาพคล่องได้ สำหรับมุมมองที่มีต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ หุ้นกลุ่มตลาดเกิดใหม่ และหุ้นกลุ่มธุรกิจดูแลสุขภาพ (Healthcare) แนะนำให้ผู้ลงทุนประเมินสถานการณ์ก่อนเข้าลงทุน โดยมองว่าสหรัฐฯ ยังมีความเสี่ยงจากข้อพิพาทกับจีนที่จะกดดันตลาดเป็นระยะไปจนถึงการเลือกตั้งปลายปี ส่วนกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ยังเป็นภูมิภาคที่พึ่งพาการค้านอกภูมิภาคอยู่มาก การฟื้นตัวจึงค่อนข้างกระจุกตัวอยู่ในประเทศที่พึ่งพาการส่งออกน้อยกว่า อาทิ สาธารณรัฐประชาชนจีน ที่เน้นการบริโภคภายในประเทศมากขึ้น เป็นต้น ในส่วนของหุ้นกลุ่ม Healthcare ถือได้ว่าได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ค่อนข้างจำกัด โดยบริษัทชั้นนำที่กำลังคิดค้นวัคซีนส่วนใหญ่ได้เข้าสู่ระยะที่ 3 คือ ทดลองวัคซีนในมนุษย์ ซึ่งคาดว่าจะสามารถทราบผลการทดสอบภายในสิ้นปีนี้ ดังนั้น ในระยะสั้นจึงยังมีความผันผวนตามความคืบหน้าของการคิดค้นวัคซีนและยา

สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจกองทุน K-EUROPE, K-GHEALTH, K-GHEALTH(UH), K-GEMO และ K-USA-A(D) สามารถเริ่มต้นลงทุนได้เพียง 500 บาท ผ่าน App K PLUS, K-My Funds, ธนาคารกสิกรไทย หรือ ผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุน โดยติดต่อขอรับหนังสือชี้ชวนได้ตามช่องทางดังกล่าว สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ KAsset Contact Center 0 2673 3888

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO